Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1487

บทที่ 1487 : งานเลี้ยงใหญ่โต
  “นี่นับเป็นข่าวดีมากเลยทีเดียว!”
  เมื่อหลิงหยุนได้ยินว่าจะมีพิธีวิวาห์ระหว่างเสี่ยวเจิ้งจี๋กับเหมี่ยวเฟิงหวงเกิดขึ้นเขาก็พยักหน้าพร้อมกับร้องออกมาด้วยความพอใจ และรู้สึกมีความสุขไปกับคนทั้งคู่อย่างจริงใจ
  ข้าคิดไม่ถึงว่าจะรวดเร็วถึงเพียงนี้!
  เมื่อวานยังเหมือนมีกำแพงขวางกั้นคนทั้งสองแต่วันนี้กลับจะมีพิธีวิวาห์เสียแล้ว ดูท่าทั้งคู่คงจะมิต้องการเสียเวลาไปแม้แต่วันเดียวสินะ..
  “ท่านย่าของข้าเฝ้าแต่รอเวลานี้..และเฝ้ารอมานานถึงสี่สิบเจ็ดปี!”
  เหมี่ยวเสี่ยวเหมาจ้องมองหลิงหยุนพร้อมกับเอ่ยออกมา..
  หลิงหยุนถอนหายใจพร้อมกับพึมพำเบาๆ“นั่นสินะ.. สี่สิบเจ็ดปีเลยทีเดียว!”   แต่ถึงกระนั้นหลิงหยุนก็แอบนึกขันอยู่ในใจเมื่อคิดว่าต่อให้รอมานานก็มิเห็นต้องรีบร้อนถึงเพียงนี้ อย่างไรทั้งคู่ก็มีเวลาอยู่ร่วมกันอีกอย่างน้อยหนึ่งร้อยปี ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานไม่น้อย
  ยอดฝีมือขั้นเซียนเทียนสองคนกลืนโอสถเยาว์วัยเข้าไปทั้งคู่การใช้ชีวิตไปอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้านับว่าเป็นเรื่องปกติ หากมิถูกสังหารตายเสียก่อน..
  “ไปกันดีกว่าอย่าปล่อยให้ท่านปู่กับท่านย่าต้องรอนาน!”
  เหมี่ยวเสี่ยวเหมาหันไปมองหลิงหยุนด้วยสีหน้าท่าทางรีบร้อนพร้อมกับเร่งเร้าให้รีบกลับไป
  หลิงหยุนตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“เจ้ายังต้องกังวลอะไร จากที่นี่ไปหมู่บ้านเหมี่ยว ข้าใช้เวลาเหาะไปเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น..”
  “เหาะไปไม่ได้น่ะสิ!”   เหมี่ยวเสี่ยวเหมารีบตอบกลับทันที“วันนี้เป็นวันสมรสของท่านปู่กับท่านย่า จะต้องมีผู้คนมาร่วมงานกันอย่างมากมาย หากพวกเราเหาะไปบนท้องนภาเช่นนี้ เจ้ามิกลัวว่าจะมีผู้คนมาพบเห็นเข้าหรอกรึ!!”
  เหมี่ยวเฟิงหวงเป็นถึงธิดาเหมี่ยวเจียงงานสมรสของนางย่อมต้องจัดขึ้นอย่างใหญ่โต และจะต้องมีผู้คนมาร่วมแสดงความยินดีด้วยอย่างมากมาย
  “เรื่องนั้นเจ้ามิต้องกังวลใจ..”
  หลิงหยุนยิ้มกว้าง“พวกเราจะล่องหนและเหาะไป จนกระทั่งเข้าใกล้เขตหมู่บ้าน จึงค่อยหาที่ลับตาคนเหาะลง จากนั้นพวกเราจึงค่อยเดินเข้าไป”
  “เช่นนี้ย่อมได้..”เหมี่ยวเสี่ยวเหมาเห็นด้วยกับคำแนะนำของหลิงหยุน
  จากนั้นหลิงหยุนจึงเอื้อมมือออกไปจับมือเหมี่ยวเสี่ยวเหมาไว้แล้วทั้งคู่ก็เหาะขึ้นไปบนท้องนภา และมุ่งหน้ากลับไปยังหมู่บ้านเหมี่ยวทันที  “การแต่งงานของชนเผ่าเหมี่ยวเจียงแตกต่างจากชาวฮั่นเช่นพวกเราอย่างไรมีสิ่งใดที่ข้าจำเป็นต้องระมัดระวัง หรือให้ความสนใจเป็นพิเศษหรือไม่?” หลิงหยุนเอ่ยถามเหมี่ยวเสี่ยวเหมาในระหว่างที่เหาะกลับไป..
  นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่จะได้เข้าร่วมงานวิวาห์บนโลกใบนี้และคิดไม่ถึงว่าจะเป็นงานวิวาห์ที่จัดขึ้นในหมู่บ้านเก่าแก่ที่สุดเช่นเผ่าเหมี่ยวเจียง ซึ่งอยู่ท่ามกลางขุนเขาลึกหลายแสนลูกนี้
  “ธรรมเนียมและพิธีวิวาห์ของชาวเหมี่ยวเราโดยรวมค่อนข้างคล้ายคลึงกับพิธีของชาวฮั่น แต่หากลงลึกในเรื่องรายละเอียดก็แตกต่างกันอยู่มากทีเดียว..”
  เหมี่ยวเสี่ยวเหมาเห็นหลิงหยุนให้ความสำคัญกับพิธีวิวาห์มากเช่นนี้นางจึงได้อธิบายให้เขาฟังอย่างจริงจัง แต่หลังจากอธิบายไปได้เพียงเล็กน้อย นางก็คร้านที่จะอธิบายต่อจึงได้แต่เอ่ยบอกไปว่า
  “เรื่องนี้เจ้ามิจำเป็นต้องกังวลใจไปเจ้าเป็นเพียงแค่แขกในงาน มิมีผู้ใดเคร่งครัดธรรมเนียมกับเจ้าเป็นแน่..”
  “เรื่องนั้นข้ารู้ดี..’
  หลิงหยุนฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มออกมาเมื่อวานนี้แม้แต่เหมี่ยวเฟิงหวงยังมิคิดที่จะทำอะไรเขา จึงแทบไม่ต้องพูดถึงวันนี้..
  “ข้าหมายความว่า..ข้ามิต้องเตรียมของขวัญเล็กๆน้อยๆให้อาวุโสทั้งสองด้วยหรอกรึ”
  เหมี่ยเสี่ยวเหมาส่ายหน้ายิ้มๆ“ไม่ต้อง”
  …………
  “โอ้โห..ผู้คนมาร่วมงานมากมายถึงเพียงนี้เชียวรึ!”
  สามนาทีต่อมาหลิงหยุนกับเหมี่ยวเสี่ยวเหมาก็มาถึงเนินเขาทางด้านใต้ก่อนเข้าเขตหมู่บ้านเหมี่ยว เขามิได้รีบร้อนที่จะปรากฏตัวนัก และได้เปิดจิตหยั่งรู้อันทรงพลังของตนให้มีรัศมีครอบคลุมพื้นที่ภายในหมู่บ้านเหมี่ยว และบริเวณโดยรอบอีกราวสองสามกิโลเมตร
  ตอนนี้เพิ่งจะเข้าสู่เวลาแปดโมงครึ่งของช่วงเช้าเท่านั้นแต่ภายในหมู่บ้านเหมี่ยวกลับเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และตามทางยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่กำลังทยอยเดินทางมาอีกเรื่อยๆ
  จากภาพที่เห็นเวลานี้หลิงหยุนประมาณได้ว่า จะต้องมีผู้มาร่วมงานวิวาห์ในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่าพันคนเป็นแน่
  ไม่ว่าจะเป็นบุรุษสตรี หรือว่าเด็ก ทุกคนล้วนอยู่ในชุดชนเผ่าเหมี่ยวที่งดงามยิ่ง ใบหน้าของพวกเขาล้วนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข เสียงดนตรีและเสียงร้องเพลงดังขับกล่อมตลอดเวลามิมีหยุด
  “นี่เป็นเพลงประจำชนเผ่าเหมี่ยวเจียงงั้นรึ”
  เมื่อครั้งที่ยังเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมจิงฉูนั้นหลิงหยุนได้คะแนนวิชาประวัติศาสตร์และวิชาภูมิศาสตร์เต็มร้อย จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้ธรรมเนียมประเพณีบางอย่างของชาวชาติพันธุ์
  เหมี่ยวเสี่ยวเหมายิ้มออกมา“ใช่แล้ว!”   “เช่นนั้นเจ้าก็ต้องร้องได้สินะร้องให้ข้าฟังหน่อยสิ..”
  “อืมม..”เหมี่ยวเสี่ยวเหมาหัวเราะด้วยท่าทางเขินอาย
  หลังจากได้เห็นเหมี่ยวเสี่ยวเหมาขับขานบทเพลงชาวเผ่าหลิงหยุนก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที แต่เหมี่ยวเสี่ยวเหมาขับร้องได้ไม่กี่คำก็หยุด..
  เวลานี้เหมี่ยวเสี่ยวเหมากำลังอารมณ์ดีแต่ก็เขินอายที่ร้องต่อ..
  “สองคนที่ยืนอยู่ด้านนอกนั้นคือผู้ใดกัน”
  หลิงหยุนยกมือขึ้นชี้ไปตรงที่ถนนกว้างใหญ่ด้านหน้าซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านเหมี่ยวเจียง และผู้คนจากทั่วทุกสารทิศก็กำลังมุ่งหน้าไปยังถนนเส้นนี้
  คนกลุ่มใหญ่ยืนรวมตัวกันอยู่ที่หน้าทางเข้าหมู่บ้านทุกคนล้วนแล้วแต่แต่งกายในชุดเผ่าของตน และกำลังทักทายชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่ง ซึ่งยืนต้อนรับแขกเหรื่ออยู่ที่หน้าทางเข้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และกระตือรือร้นอย่างยิ่ง
  “เจ้ามิรู้จริงๆหรือว่าพวกเขาเป็นใคร”
  เหมี่ยวเสี่ยวเหมามิกล้ามองหน้าหลิงหยุนและได้แต่เอ่ยตอบไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ “นั่นท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าเอง!”
  เหมี่ยวชิงและเจิ้นหง!
  หลิงหยุนได้แต่ยิ้มออกมาเขาแสร้งถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว นั่นเพราะแขกเหรื่อที่ออกันอยู่หน้าประตูนั้น ต่างก็พากันทักทายเรียกชื่อพวกเขาทั้งสอง พร้อมกับแสดงความยินดีด้วย จากบทสนทนาของพวกเขา หลิงหยุนย่อมสามารถคาดเดาได้ไม่ยาก
  “เมื่อเผชิญหน้ากับพวกท่านทั้งสองข้าควรเรียกอย่างไรดี”
  “เจ้าอยากเรียกอะไรก็เรียก..”
  เหมี่ยวเสี่ยวเหมาเอ่ยกับหลิงหยุนต่อด้วยใบหน้าหน้าแดงก่ำ“ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้ามิใช่คนที่มีพิธีรีตรองนัก เจ้าจะเรียกพวกท่านเหมือนที่เรียกพ่อแม่ของหนิงน้อยก็ได้.. อยากจะเรียกอะไรก็แล้วแต่..”
  “ถ้าเช่นนั้น..หากจะเรียกตามที่ข้าถนัดก็คงจะต้องเป็นท่านลุงกับท่านป้า..”
  หลิงหยุนตัดสินใจที่จะเรียกพ่อแม่ของนางตามที่ตนเองถนัด..
  ระหว่างที่เหมี่ยวชิงกับเจิ้นหงกำลังต้อนรับแขกเหรื่ออยู่นั้นสายตาของพวกเขาก็คอยเหลือบมองออกไปไกลๆ คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันเล็กน้อย คล้ายกับกำลังมองหาใครบางคน ..
  “ไปกันดีกว่าดูท่าท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าคงจะคิดถึงเจ้ามากแล้ว..”
  ยังมิทันที่จะพูดจบประโยคดีหลิงหยุนก็ดึงมือเหมี่ยวเสี่ยวเหมาเข้าไปในป่าข้างทาง หลังจากนั้นจึงค่อยเดินออกมา และมุ่งตรงเข้าไปที่ทางเข้าหมู่บ้าน
  ทั้งสองคนเดินตรงไปอย่างรวดเร็วและไม่นานนักร่างของทั้งคู่ก็ปรากฏตัวสู่สายตาของเหมี่ยวชิงและเจิ้นหง..
  “ท่านพ่อ..ท่านแม่..”
  นับตั้งแต่ออกจากหมู่บ้านเหมี่ยวไปนานถึงครึ่งปีนี่เป็นครั้งแรกที่เหมี่ยวเสี่ยวเหมาได้พบหน้าพ่อแม่ของเธออีกครั้ง ด้วยความคิดถึงดวงตาทั้งสองข้างของนางจึงเริ่มแดงก่ำ และได้โผเข้าหาพวกท่านทั้งสองทันที
  “โอ้..เสี่ยวเหมากลับมาแล้ว!”
  “เสี่ยวเหมาจริงๆด้วย!”
  เหมี่ยวเสี่ยวเหมาปรากฏตัวขึ้นบิดาและมารดาของนางที่ต้อนรับแขกเหรื่อที่รายล้อมอยู่ ก็ได้ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง
  “ใครกันที่เดินมาพร้อมกับเสี่ยวเหมาหน้าตาหล่อเหลาจริงๆ!”
  “นั่นสินะ..ข้างนอกมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาถึงเพียงนี้เชียวรึ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร