บทที่ 1500 : กลับบ้าน!
“แต่พวกเจ้ามิจำเป็นต้องให้ของขวัญท่านพ่อกันทุกคนก็ได้เพราะมันคงจะลำบากและวุ่นวายจนเกินไป พวกเจ้ารวมกลุ่มกันให้ก็น่าจะเพียงพอ..”
แต่หลังจากที่หลิงหยุนเอ่ยเรื่องนี้ออกมาตั้งแต่ประโยคแรกก่อนหน้าหลิงเสี่ยวถึงกับอับอายจนต้องหนีออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว เวลานี้จึงเหลือเพียงศิษย์สำนักหมอสวรรค์ที่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่กลางสนาม
หากโม่วู๋เตาอยู่ด้วยแล้วล่ะก็เขาคงต้องเย้ยหยันหลิงหยุนว่าเป็นอาจารย์ที่ไร้ยางอายสิ้นดี กล้าเอ่ยขอของขวัญจากศิษย์ของตนอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้
แต่น่าเสียดายที่เวลานี้โม่วู๋เตายังคงนอนหลับไหลอยู่ที่บ้านตระกูลฉินและกำลังเผชิญอยู่กับความฝันของตน..
….. “คิดไม่ถึงว่าศิษย์ทั้งหกคนของข้าจะน่าสนใจถึงเพียงนี้..”
สูงขึ้นไปจากพื้นดินราวสองกิโลเมตรหลิงหยุนและหลิงเสี่ยวกำลังยืนเคียงข้างกัน และจ้องมองลงมายืนพื้นดินเบื้องล่าง เฝ้ามองเด็กหนุ่มทั้งหกซึ่งเป็นหัวหน้าของแต่ละกลุ่ม ถกเถียงกันเรื่องของขวัญวันเกิดด้วยความเพลิดเพลิน
“พวกเขาทั้งหกคนล้วนมีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน..”
หลิงเสี่ยวเอ่ยตอบพร้อมกับพยักหน้ายิ้มๆเขาฝึกสอนและใช้ชีวิตอยู่กับศิษย์ของหลิงหยุนมาเป็นเวลานาน จึงค่อนข้างคุ้นเคยยิ่ง..
“หลิงหยุน..พวกเขาฝึกวรยุทธอยู่ตลอดทุกวัน จะมีเงินมีทองที่ไหนกัน เจ้าสั่งให้พวกเขานำของขวัญมามอบใหักับข้าเช่นนี้ จะมิเป็นการสร้างความยากลำบากให้กับพวกเขาจนเกินไปหรอกรึ!”
หลิงเสี่ยวเอ่ยถามเพราะต้องการรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของหลิงหยุน.. “ข้าจงใจสร้างความยากลำบากให้กับพวกเขา..”
หลิงหยุนพยักหน้ายิ้มๆพร้อมกับเอ่ยต่อ “ท่านพ่อ.. ตระกูลหลิงของเรามิได้ขาดแคลนสิ่งใด พวกเขาจะมอบสิ่งใดให้เป็นของขวัญกับท่านพ่อนั้นหาได้สำคัญไม่ สำคัญอยู่ที่ท่าทีและจิตใจของพวกเขาต่างหากเล่า..”
“หลังจากที่ข้าชำระล้างร่างกายให้กับพวกเขาเมื่อครู่เวลานี้ทุกคนที่เข้าสู่ขั้นโฮ่วเทียน-8 ย่อมสามารถพัฒนาเข้าสู่ขั้นเซียงเทียนได้ไม่ยาก”
“อีกทั้งตระกูลหลิงของเรายังจัดหาทรัพยากรในการฝึกฝนให้กับพวกเขาอย่างเพียงพอข้าอยากให้พวกเขาเข้าใจลึกซึ้งว่า การที่พวกเขาทุกคนก้าวมาถึงจุดนี้ได้เพราะใคร..”
“หาไม่แล้ว..ข้าเกรงว่าในวันที่พวกเขาก้าวหน้ากว่านี้ จะหลงระเริงจนลืมรากเหง้าของตนเอง..”
หลิงเสี่ยวเหลือบมองหลิงหยุนพร้อมกับเอ่ยตอบไปว่า..
“ภายในใจของเด็กหนุ่มเหล่านั้นล้วนเห็นเจ้าไม่ต่างจากเทพเจ้า เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมีความคิดเช่นนั้นแน่!”
คำกล่าวของหลิงเสี่ยวหาได้เกินจริงไปไม่เด็กหนุ่มทั้ง 72 คนนั้นล้วนเคารพและศรัทธานในตัวหลิงหยุนยิ่งนัก
“ความจริงนี่คือการฝึกพวกเขาต่างหากเล่าท่านพ่อ..”
หลิงหยุนเขาใจความหมายในคำพูดของบิดาดีและได้บอกจุดประสงค์ที่แท้จริงของตนเองออกไป
“ท่านพ่อ..พวกเขาต่างก็มิใช่เด็กหนุ่มทั่วไปอีกแล้ว แต่เป็นถึงยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-8 หากเพียงแค่หาของขวัญยังทำไม่ได้ เช่นนี้ความพยายามและทรัพยากรที่พวกเราลงแรงไป มิเท่ากับเสียเปล่าหรอกรึ!”
“เช่นนั้นแล้ว..วันข้างหน้าข้ายังจะสามารถใช้งานอะไรพวกเขาได้อีกเล่า” หลิงหยุนเอ่ยตอบอย่างตรงไปตรงมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง..
หลิงหยุนทุ่มเทฝึกฝนเด็กหนุ่มทั้ง72 คนมา มิใช่เพียงเพื่อให้พวกเขาเรียกขานตนเองว่าอาจารย์ หรือเพียงเพื่อดื่มด่ำกับความศรัทธาที่พวกเขามอบให้เท่านั้น แต่หลิงหยุนต้องการผู้ที่จะสามารถติดตามเขาไปต่อสู้ในสนามรบที่ดุเดือดได้!
….
ที่สนามด้านล่างหลู่เหวินหลงยืนเท้าเอวพร้อมกับร้องตะโกนสั่งว่า “พวกเจ้าตามข้ามา และช่วยกันเสนอความคิดเห็น ไม่เช่นนั้นข้าจะทำโทษ..”
หลู่เหวินหลงน้องตะโกนสั่งกลุ่มของตนให้ตามเขาไปทั้งหมดเดินออกจากสนามกีฬากลับไปที่พัก และเริ่มจับกลุ่มปรึกษาหารือกันอย่างเงียบๆ
“พวกเราก็ไปด้วย..”
หม่าเชียนจวินเห็นหลู่เหวินหลงแยกออกไปจึงได้ร้องตะโกนบอกกลุ่มของตนให้แยกไปปรึกษาหารือกันที่สวนด้านหน้าแทน
จากนั้น..ซูเซียงตง หวู่เถิงเฟย และเหมิงเซวี่ยอี้ ต่างก็นำกลุ่มของตนแยกย้ายออกไปเช่นกัน
ส่วนหลัวอวี้เฉิงและกลุ่มของตนยังคงอยู่ที่สนามกีฬาเช่นเดิม..
…..
ประตูด้านข้างของคฤหาสน์ตระกูลหลิง..
ภายใต้ถนนที่มีแสงไฟสลัวร่างสองร่างได้ปรากฏขึ้นเคียงข้างกัน ทั้งคู่สวมเสื้อสีดำเหมือนกันประหนึ่งภูติผีวิญญาณที่ปรากฏตัวขึ้น
ร่างสูงใหญ่ทางด้านซ้ายมือนั้นก็คือหลิงอี๋ส่วนร่างที่ผอมบางกว่าเล็กน้อยที่อยู่ทางด้านขวานั้นก็คือหลิงชี เวลานี้ทั้งคู่ได้เข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-6 แล้ว
หลังจากที่หลิงอี๋กับหลิงชีกระโดดลงบนพื้นแล้วก็มีเสียงเอ่ยถามดังขึ้น.. “พี่หลิงอี๋..พี่หลิงชี.. พวกท่านไปที่ใดมารึ!”
“ออกไปปฏิบัติภารกิจอันใด”
หลิงปาและหลิงจิ่วที่ปรากฏตัวขึ้นอีกฟากของถนนเอ่ยถามคนทั้งสองด้วยแววตาเป็นประกาย..
หลิงอี๋จ้องมองทั้งสองคนพร้อมกับเอ่ยตอบไปว่า“ภารกิจงั้นรึ! เวลานี้ปักกิ่งมีแต่ความสงบ ยังจะมีภารกิจอันใดอีกเล่า?”
“พวกเราเพียงแค่ออกมาลาดตระเวนพวกเจ้ากลับไปที่สวนด้านหลังฝึกฝนวิชาได้แล้ว..”
หลิงชีออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมกับโบกมือไล่นักรบทั้งสองให้กลับเข้าไปข้างใน
หลังจากที่มั่นใจว่าหลิงปาและหลิงจิ่วเดินห่างไปมากแล้วหลิงอี๋และหลิงชีจึงหันมามองหน้ากัน ทั้งสองคนหันซ้ายแลขวาก่อนจะกระซิบกระซาบกันต่อ.. “หลิงชี..เจ้าแน่ใจนะว่าท่านผู้นำตระกูลจะกลับมาวันนี้”
“คืนนี้มิผิดแน่!!”
หลิงชีที่ยืนเอนกายพิงประตูอยู่เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พี่หลิงอี๋ อย่าลืมว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของคุณชายสาม ท่านผู้นำตระกูลย่อมต้องกลับมาแน่..”
“อืมม..แต่ถ้าท่านผู้นำตระกูลเหาะมา หรือเข้าทางประตูใหญ่ พวกเรายืนรออยู่ที่นี่จะได้พบงั้นรึ!” หลิงอี๋ยกมือขึ้นชี้ไปบนท้องนภาพร้อมกับเอ่ยถาม
“รับรองว่าท่านผู้นำตระกูลต้องเข้าทางประตูนี้แน่!”หลิงชีเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงมันอกมั่นใจ
“เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจเช่นนั้น!”หลิงอี๋เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“พี่หลิงอี๋..ท่านผู้นำตระกูลกลับมาเพราะเป็นวันเกิดของคุณชายสาม เขาย่อมต้องแวะไปหาคุณชายสามก่อน จากนั้นทั้งคู่ก็ต้องกลับมาที่ตระกูลหลิงพร้อมกัน.. ถูกต้องหรือไม่”
“ก็ถูก..”
“จากที่ข้าสังเกตมาหลายวันคุณชายสามมักเข้าออกที่ประตูด้านข้างนี้มาโดยตลอด ฉะนั้น..”
หลิงชีทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น..
บนท้องนภาเหนือคฤหาสนต์ตระกูลหลิงขึ้นไปหลายกิโลเมตรเวลานี้หลิงหยุนและหลิงเสี่ยวต่างก็ได้ยินบทสนทนาของหลิงอี๋และหลิงชี พวกเขาจึงได้แต่หันไปยิ้มให้กัน..
หลิงหยุนยังมิได้เหาะลงไปในทันทีเขาอยู่บนท้องฟ้าสำรวจไปทั่วทั้งคฤหาสน์ตระกูลหลิง และรอบๆ
“หลัวอวี้เฉิงกับหลู่เหวินหลงช่างมีอุปนิสัยที่คล้ายคลึงกับหลิงอี๋และหลิงชียิ่งนัก ทั้งคู่ก็เป็นหนึ่งในนักรบทั้ง 108 คนของตระกูลหลิง และอยู่กับเรามานานมากกว่ายี่สิบปี..”
หลิงเสี่ยวเอ่ยขึ้นด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความขอบคุณและชื่นชม“แต่น่าเสียดายที่ครั้งนั้นตระกูลหลิงของเราขาดแคลนทรัพยากรในการฝึกฝนยิ่ง จึงทำให้พวกเขาต้องติดอยู่ในขั้นโฮ่วเทียนอยู่นานมากเช่นนั้น..”
“หลิงหยุนเป็นเพราะเจ้าทีเดียว ทำให้ในที่สุดพวกเขาก็สามารถเข้าสู่ขั้นเซียงเทียนได้ และสามารถเปล่งประกายเฉิดฉายได้เช่นนี้!”
หลิงเสี่ยวหันไปมองหลิงหยุนพร้อมกับจ้องมองเขาก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หลิงหยุน นักรบที่เหลือทั้ง 36 คน ล้วนแล้วแต่ยอมพลีชีพเพื่อตระกูลหลิงของเรา พวกเขาเสียสละให้กับตระกูลของเราอย่างมาก ทุกคนล้วนแล้วแต่ใช้ชีวิตของตนปกป้องคนตระกูลหลิง เจ้าถึงได้มีวันนี้..”
“เวลานี้เจ้าเองได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลหลิงพวกเขาทุกคนต่างก็รักและศรัทธาเจ้าอย่างมาก เหนือกว่าศิษย์ทั้ง 72 คนของเจ้าเสียอีก!”
หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ท่านพ่อ.. ข้าเข้าใจเรื่องนี้ดีเสมอมา!”
หลิงเสี่ยยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า“เช่นนั้นพวกเราก็ลงไปได้แล้วล่ะ!”
หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับเอ่ยตอบไปว่า“อย่าให้พวกเขาทั้งคู่ต้องรอเก้อ..”
ฟิ้ว..
ยังมิทันที่เสียงร่างปะทะกับลมจะดับลงร่างของหลิงหยุนก็ปรากฏขึ้นที่ประตูด้านข้างคฤหาสน์ตระกูลหลิง..
“ผู้ใดกัน!”
เสียงของหลิงอี๋กับหลิงชีร้องตะโกนถามออกมาพร้อมกันทั้งสองคนมีความตื่นตัว และดุดันยิ่งนัก คนหนึ่งมิต่างจากพยัคฆ์ ส่วนอีกคนมิต่างจากหมาป่า!
สัมผัสที่ตื่นตัวรับรู้ได้รวดเร็วของทั้งคู่ทำให้หลิงหยุนถึงกับยิ้มออกมาด้วยความพอใจ..
“ข้าเอง..”
หลิงหยุนร้องตะโกนออกมาพร้อมกับเผยตัวขึ้นโดยมีหลิงเสี่ยวเหาะตามมาด้วยกระบี่เหิน..
“ห๊ะ!”
หลิงอี๋กับหลิงชีถึงกับดวงตาร้อนผ่าวและรีบคุกเข่าลงกับพื้นทำการคาราวะหลิงหยุนทันที!
“หลิงอี๋..หลิงชี.. คาราวะท่านผู้นำตระกูล!”
ทั้งสองคนตื่นเต้นดีใจจนลืมไปว่าหลิงเสี่ยวก็อยู่ข้างๆหลิงหยุนด้วย..
“พวกเจ้าสองคนลุกขึ้นก่อน!”
หลังจากที่ทั้งสองคนลุกขึ้นแล้วหลิงหยุนก็ได้แต่จ้องมองหลิงอี๋กับหลิงชีด้วยสีหน้าภาคภูมิใจยิ่งนัก
“ท่านผู้นำตระกูล..ท่านกลับมาแล้วจริง!!”
“ถูกต้อง..ข้ากลับมาแล้ว!” หลิงหยุนเอ่ยตอบพร้อมกับเอื้อมมือไปตบไหล่หลิงอี๋
“เจ้าก้าวหน้าไปมากเช่นกัน..” หลิงหยุนหันไปเอ่ยกับหลิงชีและนั่นทำหลิงชีมีความปลื้มปิติยิ่งนัก..
“เอาล่ะ..พวกเจ้าสองคนมิต้องอยู่เฝ้าประตูแล้ว เข้าไปข้างในพร้อมกับข้า!”
หลังจากนั้นหลิงหยุนก็ได้เดินนำหน้าทุกคนเข้าไปภายในคฤหาส์ตระกูลหลิง..
‘ในที่สุดข้าก็ได้กลับบ้าน..’.
พรึบ..พรึบ..
ทันทีที่หลิงหยุนก้าวเดินเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลหลิงเสียงการเคลื่อนไหวก็ปรากฏขึ้นไปทั่วบริเวณ ร่างหลายร่างกำลังพุ่งตรงเข้ามาหาหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว
“หลิงหยุน!”
“นายน้อย..ท่านกลับมาแล้ว!”
“ท่านผู้นำตระกูลกลับมาแล้ว!”
“พี่ใหญ่กลับมาแล้ว!”
เวลานี้..ภายในคฤหาสนต์ตระกูลหลิงเปลี่ยนเป็นโกลาหลวุ่นวายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!
วันนี้..ทุกคนในตระกูลหลิงต่างก็พากันเก็บตัวอยู่บ้าน แม้กระทั่งหลิงหย่งและเหล่ากุ่ยก็อยู่ที่นี่ด้วย รวมทั้งนักรบตระกูลหลิงอีกร่วมยี่สิบชีวิต!
ภาพที่ทุกคนต่างก็กระโดดตรงเข้ามาหาหลิงหยุนอย่างพร้อมเพรียงกันในเวลานี้ดูไม่ต่างจากภาพปลาตัวแล้วตัวเล่าที่กำลังกระโดดไปมาอยู่เหนือผิวน้ำเลยแม้แต่น้อย..
กา..กา..
นอกเหนือจากนั้นท่ามกลางความมืดมิดก็ยังมีนกสีดำตัวใหญ่ ซึ่งมีดวงตาและจะงอยปากสีทองสุกสว่าง กำลังกระพือปีกกว้างกว่าหนึ่งเมตรอยู่บนยอดไม้ และกำลังบินตรงมาที่สนามด้านหน้านี้ด้วย
และนี่คืออีกาทองคำของหลิงหยุนนั่นเอง!
ไม่เพียงเท่านั้น..สุนัขสีดำตัวใหญ่สองตัว ก็กำลังวิ่งตรงมาจากสวนด้านหลังอีกด้วย
ภาพความโกลาหลวุ่นวายเช่นนี้หลิงหยุนคาดคิดไว้ก่อนหน้าแล้วจะต้องประสบพบเจอเป็นแน่..
“หลิงหยุนคาราวะท่านปู่!”
แต่มิว่าผู้คนจะมากมายเพียงใดหลิงหยุนก็มิลืมที่จะคาราวะ และเอ่ยทักทายหลิงลี่เป็นคนแรก..
“ดี..ดีมาก.. เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว!”
หลิงลี่เอ่ยตอบหลิงหยุนพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วจึงเดินเข้าไปจับไหล่หลิงหยุนด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมกับพยุงให้ลุกขึ้น เขาจ้องมองหลิงหยุนด้วยแววตารักใคร่ยิ่งนัก..
“เหล่ากุ่ยบอกกับข้าเมื่อสองวันก่อนว่าเจ้าจะต้องกลับมาในวันเกิดพ่อเจ้าแน่! แต่ข้าเองก็มิมั่นใจนัก จะให้ท่านลุงของเจ้าโทรถาม ก็เกรงว่าจะเป็นการรบกวนเจ้า แล้ววันนี้เจ้าก็กลับมาแล้วจริงๆ!”
“ท่านปู่..วันเกิดของท่านพ่อทั้งที ข้าย่อมต้องกลับมาแน่!” เป็นเพราะร่างสูงใหญ่ของหลิงลี่ได้บดบังสายตาของเขาไว้หลิงหยุนจึงมองมิเห็นคนที่อยู่ด้านหลัง และมิได้เอ่ยทักทาย แต่ดูเหมือนทุกคนก็มิได้รีบร้อนนัก เพราะหลิงหยุนเองก็เพิ่งกลับมาถึง
“นี่หลิงหยุน..เหล่ากุ่ยมั่นใจยิ่งนักว่าเจ้าจะต้องกลับมา วันนี้เขาจึงมิยอมออกจากบ้านไปที่ใดเลย!”
หลังจากหายตื่นเต้นดีใจในที่สุดหลิงลี่ก็นึกขึ้นได้ว่า ยังมีสมาชิกตระกูลหลิงคนอื่นๆ กำลังรอการกลับมาของหลิงหยุนด้วยเช่นกัน
“เหล่ากุ่ยหลิงหย่ง หลิงเฟิง หลิงเลี่วย หลิงซิ่ว หลิงซวี….”
หลิงหยุนเอ่ยทักทายทุกคนที่อยู่ตรงหน้าจากนั้นจึงก้าวเดินเข้าไปหาลุงสองของเขา.. หลิงเย่ว!
แต่มีเพียงเกาเฉินเฉินเท่านั้นที่มิได้อยู่ตรงนั้น..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร