Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1508

บทที่ 1508 : ได้เวลาทวงคืน
  ความแข็งแกร่งของแต่ละระดับระหว่างขั้นโฮ่วเทียนกับเซียงเทียนนั้นเปรียบเสมือนเด็กนักเรียนระดับประถมกับมัธยมนั่นเอง
  ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ศิษย์ทั้งสิบสองคนของหลิงหยุนซึ่งอยู่บนยอดเขา จึงมิรู้ว่าหลิงอี๋แอบสะกดรอยตามมา จนกระทั่งเขาปรากฏตัวขึ้น และเตะเข้าที่ด้านข้างของหลู่เหวินหลง
  ฝีเท้าของหลิงอี๋ไม่ได้รุนแรงแต่อย่างใดหลู่เหวินหลงแสร้งทำเป็นนอนหงายกับพื้น แต่ดวงตานั้นกลับฉายแววอย่างผู้ชนะ และแสร้งทำเป็นแกล้งโง่
  “ทะ..ท่านลุง..”
  หลิงอี๋ได้ฟังคำเรียกขานจากปากของหลู่เหวินหลงถึงกับทำตาประหลับประเหลือก และได้แต่คิดในใจว่า ตนเองเพิ่งจะอายุสามสิบสองเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นลุงไปแล้วงั้นรึ  จากนั้นเสียงเอ่ยถามของหลู่เหวินหลงก็ดังขึ้นต่อจากนั้น“นี่ท่านหาพวกเราพบได้อย่างไรกัน”
  หลิงอี๋ไม่เสียเวลาตอบเขาก้มหน้าลงมองหลู่เหวินหลงที่ยังคงนอนอยู่กับพื้นด้วยใบหน้าดุดัน พร้อมกับร้องตะโกนบอกไปว่า
  “เจ้าลุกขึ้นได้แล้ว!”
  หลู่เหวินหลงมิได้โง่เขลาเขารู้ว่าขืนยังคงนอนอยู่เช่นนี้ คงจะต้องโดนมากกว่าเท้า จึงรีบบิดตัวแล้วลุกขึ้นยืนทันที
  หลู่เหวินหลงและหลิงอี๋ยืนเผชิญหน้ากันอยู่และรูปร่างของทั้งคู่นั้นดูเหมือนจะสูงใกล้เคียงกันยิ่งนัก
  หลิงอี๋จ้องหน้าหลู่เหวินหลงด้วยแววตาเย็นชาแต่กลับเอ่ยถามด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม “เจ้าหนู.. นี่เจ้าจำข้าได้ด้วยรึ”
  “ข้าเพียงแค่เคยพบท่านลุงเท่านั้นแต่มิได้รู้จักชื่อของท่าน..” หลู่เหวินหลงเอ่ยตอบไปตามความจริง  เมื่อราวหนึ่งเดือนก่อนที่หลิงหยุนเดินทางออกจากปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมงานชุมนุมชาวยุทธนั้น ตระกูลหลิงได้จัดงานเลี้ยงขึ้นในวันไหว้พระจันทร์ขึ้น ครั้งนั้น เหล่าสมาชิกตระกูลหลิง นักรบตระกูลหลิง และศิษย์ทั้ง 72 คนของหลิงหยุนต่างก็มาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน หลู่เหวินหลงกับหลิงอี๋จึงได้เคยพบเจอกัน
  แต่ในคืนนั้นมีคนอยู่ในงานเลี้ยงมากมายหลายคนอีกทั้งฐานะของทั้งคู่ในตระกูลหลิงก็แตกต่างกัน ทั้งคู่จึงมิได้นั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน และในคืนนั้นนักรบตระกูลหลิงทั้งหมดต่างก็แต่งชุดเครื่องแบบเหมือนกันทั้งหมด ศิษย์ทั้ง 72 คนของหลิงหยุนจึงยากที่จะแยกแยะได้
  ส่วนนักรบตระกูลหลิงทั้งหมดนั้นแตกต่างกันพวกเขาล้วนเคยผ่านการต่อสู้และความเป็นความตายมามากครั้ง อีกทั้งยังได้รับการฝึกฝนเทคนิคต่างๆจากองค์กรนักฆ่าอีกด้วย ฉะนั้นทั้งหมดจึงสามารถสังเกต และจดจำใบหน้าของศิษย์ทั้ง 72 คนของหลิงหยุนได้ไม่ยาก
  “หยุดเรียกข้าว่าลุงได้แล้ว!”
  หลิงอี๋รีบเอ่ยบอกทันทีเขาดึงผ้าคลุมปิดบังใบหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของตน
  “ข้า..หลิงอี๋! วันหน้าให้เรียกข้าว่าลูกพี่ก็พอ!”
  หลู่เหวินหลงพยักหน้าหงึกๆพร้อมกับเอ่ยตอบยิ้มๆ “ครับ.. ท่านลุง!”
  หลิงอี๋“…….”
  หากมิใช่ว่าเขามิต้องการที่จะเสียเวลาแล้วล่ะก็เขาคงจะประมือกับเด็กนี่สักสามวันสามคืนไม่เลิกเป็นแน่
  “เจ้าหนู..นับว่าเจ้าเฉลียวฉลาดไม่น้อยทีเดียว ที่สามารถคาดเดาจุดประสงค์ที่แท้จริงของท่านผู้นำตระกูลได้ อีกทั้งยังบีบให้ข้าต้องปรากฏตัวออกมา!”
  หลิงอี๋กวาดสายตามองไปรอบๆและในที่สุดสายตาของเขาก็มาหยุดอยู่ที่หลู่เหวินหลง ก่อนจะเอ่ยออกไปยิ้มๆ “นับว่าเจ้าเก่งนักที่สามารถตีโจทย์แตก!”
  แม้หลิงอี๋จะรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่บ้างแต่ก็อดที่จะเอ่ยชมหลู่เหวินหลงไม่ได้..
  โจทย์ของหลิงหยุนที่มอบให้กับศิษย์ทั้ง72 คนนั้นกว้างมาก และต่อให้สามารถตีโจทย์แตก แต่พวกเขาต่างก็มีเวลาเพียงแค่คืนเดียว จึงจำต้องหาผู้ที่จะนำพาพวกตนไปปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ
  และผู้ที่จะนำพาพวกเขาไปนั้นนอกจากจะต้องเป็นผู้ที่รู้จักศัตรูของตระกูลหลิงอย่างถ่องแท้แล้ว ยังต้องเป็นผู้ที่จารึกบัญชีความแค้นนี้ไว้ในใจอย่างมิมีวันลืมเลือนอีกด้วย เช่นนั้นแล้วจะมีผู้ใดเหมาะสมไปกว่านี้อีกเล่า
  ด้วยเหตุนี้หลังจากออกมาจากโรงฝึก หลู่เหวินหลงจึงได้มายังสถานที่ใกล้กับคฤหาสน์ตระกูลหลิงมากที่สุด เพราะนี่จะเป็นหนทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด!
  หลู่เหวินหลงยืนยิ้มดวงตาเป็นประกายพร้อมกับหัวเราะแก้เก้อ..   “แต่เจ้าอย่าได้ทะนงตนไปนัก!”
  หลิงอี๋ขยิบตาพร้อมกับเอ่ยต่อ“แม้ว่าวันนี้ข้าจะไม่มีเวลาจัดการกับเจ้า แต่รอให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไปก่อน หลังจากนั้นอีกสองวันข้าจะไปจัดการกับเจ้าด้วยตัวเองถึงโรงยิมเลยทีเดียว!”
  หลู่เหวินหลงได้ฟังแต่เขากลับไม่มีท่าทีสนใจหรือหวาดกลัว และตอบกลับไปยิ้มๆ “ข้ายินดีน้อมรับคำชี้นแนะของท่านลุง!”
  หลิงอี๋ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อยและได้แต่จ้องมองหลู่เหวินหลง พร้อมกับคิดในใจว่า ‘เจ้าเด็กคนนี้ดูท่าจะมิยอมอยู่ใต้อาณัติผู้ใดง่ายๆ เขาไม่มีท่าทีหวาดกลัวต่อสิ่งใดเลย..’
  หลิงอี๋จึงได้แต่พยักหน้าพร้อมกับปากที่ขมุบขมิบ และกำลังเรียกหลิงสือซื่อ และหลิงสืออู่ให้มาหา และในที่สุดทั้งสามคนพร้อมด้วยศิษย์ของหลิงหยุนอีกสิบสองคน ต่างก็พากันเดินมุ่งหน้าเข้าไปทางทิศตะวันออก ระหว่างที่เดินไปนั้นทั้งหมดก็สนทนากันไปด้วย  หลิงอี๋หันไปมองหลู่เหวินหลงที่เดินอยู่ข้างๆตนพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
  “เจ้าหนู..เจ้าคิดที่จะไปทวงหนี้ให้กับตระกูลหลิงในคืนนี้ เจ้าต้องรู้ไว้ว่าลูกหนี้ของตระกูลหลิงมีทั้งหมดมีสามระดับ ตั้งแต่นักธุรกิจร่ำรวย ข้าราชการที่มีอำนาจ แล้วก็ตระกูลเล็กๆที่เพิ่งจะชูคอขึ้นในปักกิ่งได้..”
  “แต่ไม่ว่าจะเป็นระดับไหนทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหลง และตระกูลเย่ไม่มากก็น้อย..”
  หลิงอี๋สามารถบอกเล่าถึงอำนาจและผลประโยชน์ในเมืองปักกิ่งของตระกูลหลิง ที่เคยถูกแย่งชิงไปในอดีตได้อย่างชัดเจนในคำพูดเพียงแค่ประโยคสั้นๆ
  ตระกูลใหญ่ในปักกิ่งมีทั้งหมดเจ็ดตระกูลหลิงหยุนได้ทำลายตระกูลซันและตระกูลเฉินไปจนสิ้นซากแล้ว และภายในเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆ หลิงเย่วก็ได้ทำการยึดกิจการที่สองตระกูลเคยครอบครองกลับมาได้จนหมดแล้ว ส่วนตระกูลเกานั้นก็ประกาศตัวเป็นพันธมิตรกับตระกูลหลิงตั้งแต่ต้น และตระกูลหลี่ก็ได้ร่วมลงทุนกิจการต่างๆกับตระกูลหลิงหลายโครงการในเวลานี้
  ฉะนั้น..ก็คงเหลือเพียงแค่ยักษ์ใหญ่สองตระกูลเท่านั้นซึ่งก็คือ ตระกูลหลงและตระกูลเย่
  “ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อนทั้งสองตระกูลนี้ใช่ว่าเจ้าจะสามารถไปหาเรื่องได้ง่ายๆ เจ้าอาจได้รับบาดเจ็บได้เสมอ เอาล่ะ.. บอกมาว่าเจ้าต้องการเลือกที่จะทวงหนี้จากตระกูลใด”
  หลังจากที่หลิงอี๋เอ่ยเตือนแล้วเขาจึงได้แต่เอ่ยถามยิ้มๆ
  ทันทีที่หลู่เหวินหลงได้ฟังเขาก็ตอบกลับมาโดยแทบไม่ต้องคิด “ตระกูลหลง!”
  หลิงอี๋เอ่ยถามออกมาด้วยความประหลาดใจ“เพราะเหตุใด”
  หลู่เหวินหลงยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยตอบไปว่า“เพราะพวกเขาทำให้ชื่อของข้าต้องมัวหมองไปด้วย!”
  “…”
  หลิงอี๋ถึงกับอึ้งไปอีกครั้งก่อนจะหันไปเอ่ยกับหลู่เหวินหลงยิ้มๆ “เอาล่ะ เช่นนั้นก็ไปกันเลย!”
  หลิงอี๋โบกไม้โบกมือส่งสัญญาณบอกทุกคนให้เดินลงเขาไปและมุ่งหน้าทางทิศใต้ทันที!
  และเวลานี้ชายฉกรรจ์ทั้งสิบห้าคนก็กำลังเดินลงจากเขาไป..
  ทั้งหมดใชเ้วลาไม่นานนักก็ไปถึงอาคารหลังหนึ่งซึ่งอยู่ชานเมืองตะวันตกของปักกิ่ง และอยู่ตรงกลางที่รายล้อมไปด้วยป่าทึบ
  “นั่นคือหลงเถิงวิลล่า..”
  กลางป่าทึบ..หลิงอี๋ยกมือขึ้นชี้ไปทางอาคารหลังใหญ่พร้อมกับแสยะยิ้มออกมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
  “ที่นี่เป็นของตระกูลหลงเหล่าผู้มีอำนาจและคนใหญ่คนโต ต่างก็มักมาสนุกสนานผ่อนคลายอารมณ์กันที่นี่ สิ่งที่พวกเขาทำกันรับรองได้ว่าแม้แต่เจ้าเองก็นึกไม่ถึง..”
  “เอาล่ะเจ้าหนูได้เวลาที่เจ้าจะแสดงฝีมือแล้ว..”
  หลู่เหวินหลงได้ฟังก็ถึงกับตื่นเต้นยิ่งนักดวงตาดั่งพยัคฆ์ของเขาจับจ้องไปที่หลงเถิงวิลล่าคล้ายลังเลใจ ก่อนจะหันไปถามหลิงอี๋ว่า
  “ท่านลุงต้องการให้พวกเราทำเช่นใด”
  หลิงอี๋ตอบกลับไปยิ้มๆ“เจ้าเด็กโง่.. ปกติเจ้าก็เฉลียวฉลาดนี่ หรือเจ้างุนงงสับสนอะไร เจ้าเข้าไปถึงก็แค่บอกกับพวกเขาว่า คืนนี้พวกเจ้ามาทวงหนี้ให้กับตระกูลหลิงที่เคยถูกยึดไป และขอให้พวกเขาจ่ายมาให้ครบทั้งต้นทั้งดอก!”
  “อ่อ..หากเจ้าสามารถเจรจากกับหัวหน้าใหญ่ได้ ทุกอย่างก็จะจบเร็วขึ้น! พวกเราจะได้ไปที่อื่นต่อ..”
  “ข้าเข้าใจแล้ว!”
  หลู่เหวินหลงเอ่ยตอบพร้อมกับแลบลิ้นเลียฟันบนก่อนจะโบกมือเรียกพี่น้องทั้งหมดให้ตามเขาเข้าไป
  “พี่น้อง..ตามข้ามา!”
  จากนั้นหลู่เหวินหลงก็ได้นำทีมพี่น้องทั้งสิบเอ็ดคนเข้าไปในหลงเถิงวิลล่าอย่างเปิดเผย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร