Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1516

บทที่ 1516 : ประกาศความแข็งแกร่ง แต่ไม่โอ้อวด!
  แม้ว่าหลิงเย่วจะเอ่ยชักชวนแต่หลิงหยุนก็ปฏิเสธที่จะไปดูสถานที่ และตรวจความเรียบร้อยของการจัดงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้ นั่นเพราะเรื่องแบบนี้ ทั้งหลี่จวิ้นหัวและต่งซานชวนล้วนแล้วแต่เก่งกว่าเขาทั้งคู่ หลิงเย่วเองก็ไม่คะยั้นคะยอ และปล่อยให้หลิงหยุนเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้ไป
  สำหรับงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของหลิงเสี่ยวในวันพรุ่งนี้นั้นแม้ว่าจะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก เรียกได้ว่าต้องเป็นผู้ที่ร่ำรวยและมีอำนาจบารมีเท่านั้น จึงจะสามารถมาร่วมงานนี้ได้ แต่สิ่งเหล่านั้นยังไม่สำคัญสำหรับหลิงหยุนเท่าวัตถุประสงค์ หรือแก่นของงาน
  และหลิงหยุนก็ได้ทำสำเร็จตั้งแต่ในคืนนี้แล้ว..
  สองตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลงกับตระกูลเย่ถูกบดขยี้ง่ายดายเช่นนี้แน่นอนว่าตระกูลหลิงได้เรียกทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยสูญเสียไปในอดีตกลับคืนมาได้แล้ว และเป็นการประกาศว่า ตระกูลหลิงได้กลับมาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของประเทศนี้แล้ว
  แม้ค่ำคืนนี้จะมีหลายคนประเทศที่ยังคงนอนหลับไหลแต่ก็มีอีกหลายคนที่มีคุณสมบัติพอ และได้ล่วงรู้ข่าวคราวนี้ พวกเขาจึงได้ทำการประเมินความแข็งแกร่ง และฐานะของตระกูลหลิงใหม่อีกครั้ง ทุกคนต่างก็รู้ว่าทางเลือกในวันข้างหน้าของพวกเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว
  และในคืนนี้หลิงหยุนก็มีสิ่งที่ต้องทำอยู่มากมาย..
  หลิงหยุนตรงไปยังสวนชั้นที่หกของคฤหาสน์ตระกูลหลิงจ้องมองหลิวเทวะวิญญาณสีเขียวซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูล
  เวลานี้..หลิงหย่งไม่อยู่ที่นั่น และได้หายออกไปจากบ้านตระกูลหลิงแล้ว เขาออกไปหลังจากที่เหล่ากุ่ยได้กลับมารายงานเรื่องต่างๆให้หลิงหยุนรู้ และทั้งคู่ก็ได้ออกไปพร้อมกัน นี่เป็นช่วงเวลาที่ตระกูลหลิงเจิดจรัสที่สุด แน่นอนว่าหลิงหย่งไม่อาจทนนั่งฝึกฝนวิชาต่อไปได้ เขาต้องการออกไปดูความรุ่งโรจน์ของตระกูลหลิงด้วยตาตัวเอง จึงได้ตามเหล่ากุ่ยไป
  หลิวเทวะวิญญาณต้นนี้คือต้นที่หลิงหยุนกับโม่วู๋เตานำออกไปเสาะหาพลังหยิน หลังจากนั้นจึงนำกลับมาปลูกไว้ที่สวนภายในบ้าน เพื่อให้ปลดปล่อยพลังเสวียนหวงที่จำเป็นต่อการฝึกออกมา
  ส่วนหลิวเทวะวิญญาณอีกต้นซึ่งหลิงหยุนนำออกมาใช้ปกป้องตนเองเมื่อครั้งรับทัณฑ์สวรรค์ที่ทะเลจีนตะวันออกนั้น หลังจากที่ถูกสายฟ้าเทวะซัดใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า และได้ดูดซับเอาพลังสายฟ้าธาตุไม้ที่บริสุทธิ์เข้าไปอย่างมากมาย จึงเกิดการเปลี่ยนแปลง และเติบใหญ่ไปไกลกว่าต้นนี้มาก
  หลิวเทวะวิญญาณตรงหน้าเขาเวลานี้มีความสูงราวสี่เมตรและเป็นสีเขียวสุกสว่างไปทั้งต้น เวลานี้กิ่งก้านใบของมันก็โบกสะบัดไปมา ราวกับกำลังทักทายต้อนรับการมาเยือนของหลิงหยุน
  “ขอบใจเจ้ามาก!”
  หลิงหยุนยื่นมือไปสัมผัสหลิวเทวะอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอ่ยออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงปราณเสวียนหวงที่แผ่ซ่านออกมา
  กิ่งก้านของหลิวเทวะโบกไหวไปมา..
  จากนั้นผืนดินในบริเวณใกล้เคียงก็ค่อยๆอ่อนตัวลง และสั่นไหวราวกับคลื่น แล้วหลิวเทวะวิญญาณก็ค่อยๆลอยขึ้น หลิงหยุนจึงเรียกเข้าไปเก็บไว้ในแหวนจักรวาลของตน
  หลังจากที่หลิงหยุนหยุดใช้วิชาใต้ปฐพีแล้วผืนดินที่อ่อนยวบยาบสั่นไหวเป็นคลื่นนั้น ก็หยุดนิ่ง และกลายเป็นผืนดินที่แข็งดังเดิม ราวกับว่ามิเคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
  หลิงหยุนยังไม่จากไปไหนเขาใช้วิชาพฤกษาขจีเร่งการเติบโตของสมุนไพรต่างๆภายในสวนชั้นที่หก และภายในเวลาเพียงแค่ครึ่งนาที สมุนไพรทั้งหมดล้วนเติบโตเต็มวัย
  เป็นเพราะพลังสายฟ้าธาตุไม้ที่หลิงหยุนได้รับที่ทะเลจีนตะวันออกทำให้วิชาพฤกษาขจีของหลิงหยุนพัฒนาเข้าสู่ขั้นที่เจ็ดได้ในทันที และเป็นขั้นที่เพียงแค่คิดดอกไม้ก็เบ่งบานได้
  หลิงหยุนได้ใช้วิชาพฤกษาขจีเร่งสมุนไพรพลังชีวิตต่างๆภายในสวนให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว และเวลานี้สมุนไพรที่โตเต็มไว ก็ได้ปลดปล่อยพลังชีวิตออกมาอย่างมากมาย
  หลังจากที่สมุนไพรต่างๆโตเต็มวัยแล้วหลิงหยุนจึงได้ทำการแยกประเภทออกเป็นกลุ่มทันที บ้างเป็นสมุนไพรดอกไม้ บ้างเป็นผลไม้ และบ้างก็เป็นใบ แต่ทุกต้นล้วนถูกหลิงหยุนใช้พลังจิตที่แข็งแกร่งของตนเอง ถอนเข้าไปเก็บไว้ในแหวนจักรวาล
  จากนั้นหลิงหยุนก็ได้ทำการปรับผืนดิน และเริ่มหว่านเมล็ดสมุนไพรลงไปใหม่ จากนั้นจึงใช้วิธีเดิมทำให้สวนชั้นที่หกเต็มไปด้วยสมุนไพรดังเดิม
  กา..กา..
  หลังจากที่หลิงหยุนเก็บหลิวเทวะวิญญาณเข้าไปในแหวนของตนแล้วอีกาทองคำที่เคยอาศัยเกาะอยู่เป็นประจำ จึงได้บินวนอยู่บนศรีษะของหลิงหยุน พร้อมกับร้องเสียงดัง
  หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองยิ้มๆก่อนจะขู่มันไปว่า “เจ้าไปเล่นที่อื่นก่อน พรุ่งดึกๆจึงค่อยกลับมา หาไม่แล้วข้าจะจับเจ้าถอนขน และเอาเนื้อมากินเสีย!”
  กา..กา..
  อีกาทองคำกรีดร้องพร้อมกับกระพือปีกพะเยิบๆหนีขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะหายลับตาไปอย่างรวดเร็ว
  หลิงหยุนจ้องมองท่าทางตื่นตระหนกตกใจของอีกาทองคำแล้วก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างนึกขัน จากนั้นจึงนั่งลงขัดสมาธิกับพื้น และเริ่มดูดซับเอาพลังชีวิตที่หนาแน่นเข้าไปในร่าง
  พรึบ..
  หลิงหยุนปลดปล่อยกระแสวนหยิน–หยางออกจากร่างและเวลานี้กระแสวนขนาดใหญ่ก็ได้หมุนวนล้อมรอบร่างของหลิงหยุนไว้ตรงกลาง และดูดเอาพลังชีวิตทั่วทั้งคฤหาสน์ตระกูลหลิงเข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วจึงแปรเปลี่ยนพลังชีวิตที่ดูดเข้าไปนั้น ให้เป็นพลังหยินและหยางเข้าสู่ร่างกายของหลิงหยุนต่อไป
  “ค่ายกลหลุมพลังสามารถดูดเอาพลังชีวิตจากที่ต่างๆเข้ามาเก็บไว้ได้อย่างมากมายทีเดียว หลังจากดูดซับเข้าไปเกือบหมด ข้าสามารถกลั่นเสินหยวนกลับคืนได้ถึงแปดสิบส่วน หลังจากที่ได้ใช้ไปในเผ่าเหมี่ยวเจียงตลอดทั้งวัน”
  หลิงหยุนพยักหน้าอย่างพึงพอใจเวลานี้จุดซือไห่เสินหยวนเกือบจะเต็มจุดซือไห่ของเขาแล้ว มีอยู่ไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านเจ็ดแสนหยดเลยทีเดียว เรียกได้ว่ามากพอที่จะรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้อย่างแน่นอน
  งานวันเกิดของหลิงเสี่ยวในวันพรุ่งนี้หลิงหยุนไม่อาจปล่อยให้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นได้แน่ และผู้ใดก็ตามที่กล้ามาสร้างปัญหา เขาจะไม่ปล่อยให้มันผู้นั้นมีโอกาสได้กลับไปโดยเด็ดขาด
  หลังจากนั้นแขนข้างซ้าย และนิ้วทั้งห้าของหลิงหยุนก็เริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอีกครา..
  ลูกเหล็กขนาดใหญ่ที่วางเรียงรายอยู่ตามจุดต่างๆภายในบ้านตระกูลหลิงก็ค่อยๆลอยขึ้นกลางอากาศ และเคลื่อนมาอยู่บริเวณเหนือศรีษะของหลิงหยุน จากนั้นหลิงหยุนจึงเรียกลูกเหล็กทั้งหมดกลับเข้าไปในแหวนจักรวาลของตน
  ภายในเวลาเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวหลิงหยุนก็ได้ถอนค่ายกลหลุมพลัง ค่ายกลนวสังหาร ค่ายกลวรหก และค่ายกลอื่นๆภายในบ้านออกจนหมด
  และเพียงแค่สิบนาทีพลังชีวิตภายในบ้านตระกูลหลิงก็ได้มลายหายไป เมื่อค่ายกลต่างๆถูกถอนออกจนหมดเช่นนี้ บ้านตระกูลหลิงจึงไม่ต่างจากคฤหาสน์หลังใหญ่ธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเอง
  “หลิงหยุน..นี่.. นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
  จู่ๆหลิงลี่ก็ปรากฏตัวขึ้น และร้องตะโกนถามออกไปด้วยความตกใจ!
  “ท่านปู่พรุ่งนี้ตระกูลหลิงของเราจะมีแขกเหรื่อคนสำคัญ และยอดฝีมือจากทั่วทุกสารทิศมาเยี่ยมเยียน เวลานี้คฤหาสน์ตระกูลหลิงของเรา นับเป็นสถานที่เหมาะแก่การฝึกวรยุทธบ่มเพาะยิ่ง ข้าจึงมิต้องการให้ผู้ใดได้ล่วงรู้”
  หลิงหยุนไม่ต้องการให้ยอดฝีมือเหล่านั้นเข้ามาดูดซับเอาพลังชีวิตภายในตระกูลหลิงเข้าไปให้เสียของ อีกทั้งยังต้องการปกปิดความจริง และต้องการให้ผู้คนเฝ้าสงสัยคลางแคลงใจว่า เหตุใดหลิงหยุนจึงสามารถก้าวหน้าได้รวดเร็วถึงเพียงนี้!
  ประกาศความแข็งแกร่งแต่ก็ไม่โอ้อวดสิ่งที่มี!!
  “อ่อ..”
  หลิงลี่ทำเสียงรับรู้อยู่ในลำคอหลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของหลิงหยุนหลังจากนั้น หลิงลี่จึงส่ายหน้าไปมาเมื่อเข้าใจว่า หลานชายของตนนั้น ไม่ต้องการให้ผู้อื่นฉวยโอกาสจากการมาอวยพรวันเกิดให้หลิงเสี่ยวในครั้งนี้
  จากนั้นหลิงลี่ก็กระโดดกลับไปที่บ้านของตนเองโดยไม่พูดอะไรอีก..
  ส่วนหลิงหยุนก็ไปยังสวนชั้นที่แปดและเวลานี้เขาก็ยืนอยู่ด้านนอกของคุกใต้ดิน..
  หลังจากที่หลิงหยุนนำตัวตี๋ยั่วถังไปแล้วเหล่านักรบตระกูลหลิงก็ได้เข้าไปช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดด้านใน
  หลิงหยุนใช้พลังจิตของตนจัดการสร้างค่ายกลสกัดดวงจิตขนาดเล็กไว้รอบๆคุกใต้ดิน เพื่อป้องกันมิให้เหล่ายอดฝีมือสามารถใช้จิตหยั่งรู้ของตนเองสำรวจเข้าไปดูได้
  คืนนี้..จึงเป็นคืนที่หลิงหยุนต้องจัดเตรียมทุกอย่างภายในบ้านให้พร้อม
  “เอาล่ะ..เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว!”
  หลิงหยุนปรบมือก่อนจะใช้จิตหยั่งรู้สำรวจไปทั่วบริเวณคฤหาสน์ตระกูลหลิงทั้งหมดอีกที เขายิ้มออกมาด้วยความพอใจ จากนั้นจึงไปยังสวนชั้นที่เก้าต่อ
  การกลับมาของหลิงหยุนทำให้ทุกคนในตระกูลหลิงต่างก็ตื่นเต้นดีใจจนนอนไม่หลับ..
  หลังจากสนทนากับหลิงเย่วแล้วหลิงเสี่ยวก็กลับไปบ้าน และบอกต่งยั่วหลานว่าเขาจะไปที่ห้องบรรพชน
  “หลิงหยุน..เจ้าเข้ามาสิ!”
  เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนยืนอยู่ด้านนอกหลิงเสี่ยวจึงได้ร้องตะโกนเรียกให้เขาเข้าไปด้านใน เมื่อหลิงหยุนเดินเข้าไป ก็พบว่าหลิงเสี่ยวกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนอาสนะ
  “มากราบไหว้บรรพชนก่อนสิ!”
  หลิงหยุนในฐานะผู้นำตระกูลหลิงเดินไปทำการเคารพป้ายบรรพชนด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะกลับมานั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าหลิงเสี่ยว
  หลิงหยุนมีสีหน้าเคร่งเครียดและกำลังใคร่ครวญว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจบอกไปตรงๆ
  “ท่านพ่อ..ความจริงท่านไม่จำเป็นต้องมาที่ห้องบรรพชนทุกคืนอีกแล้ว ท่านรู้สึกผิดต่อบรรพชนนั้น ความรู้สึกนี้ข้าเข้าใจดี”
  “ความแค้นใหญ่หลวงของตระกูลหลิงที่ผ่านมาข้าได้สะสางไปให้มากแล้ว!”
  จากนั้นสองพ่อลูกต่างก็นั่งมองหน้ากันนิ่ง..
  “คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้าย..”
  ในที่สุดหลิงเสี่ยวก็เอ่ยออกมาอย่างช้าๆ“หลิงหยุน หลังจากการรับทัณฑ์สวรรค์ในคืนพรุ่งนี้ผ่านไป ข้าจะเก็บตัวฝึกฝนวรยุทธบ่มเพาะ เพื่อให้สามารถก้าวหน้าได้โดยเร็ว จะได้ไปช่วยเจ้าบุกพรรคมาร และนำตัวแม่ของเจ้าออกมาจากทะเลแห่งความขมขื่นครอบครัวของเราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเสียที..”
  “เยี่ยมมากท่านพ่อ!”
  สายสัมพันธ์พ่อลูกเชื่อมโยงหลิงหยุนไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมา ทั้งสองคนต่างก็เข้าใจกันดี
  “แต่ก็น่าประหลาดนัก..”
  หลิงหยุนเอ่ยต่อว่า“ท่านพ่อ.. ตั้งแต่ที่ข้าสังหารซือกงถูกับคนของพรรคมารไปในครั้งนั้น เหตุใดจนป่านนี้พรรคมารกลับยิ่งสงบนิ่งไม่เคลื่อนไหว ไม่รู้ว่าพวกมันมีแผนการอะไรอยู่กันแน่”
  “เวลานี้ข้าเองก็กำลังรอคอยข่าวคราวจากซิงเฉิน..”
  การที่หลิงหยุนจะจัดการกับพรรคมารนั้นแน่นอนว่าผู้ช่วยคนสำคัญของเขาย่อมต้องเป็นเย่ซิงเฉิน
  หลิงเสี่ยวพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ยเตือนหลิงหยุน “หลิงหยุน เจ้าอย่าได้ประมาทพรรคมารนัก พรรคมารนั้นนอกจากจะลึกลับมากแล้ว ความแข็งแกร่งของพวกมันยังเหนือกว่าเหล่าชาวยุทธที่เจ้าพบในงานชุมนุมชาวยุทธมากนัก ฉะนั้น ต่อไปหากเจ้าเดินทางไปที่ใด แล้วพบเจอคนของพรรคมารเข้า เจ้าจะต้องระมัดระวังตัวให้มาก!”
  หลิงหยุนยิ้มกว้างและตอบกลับไปว่า“เรื่องนี้ซิงเฉินเองก็ได้ย้ำเตือนข้าเช่นกัน ท่านพ่ออย่าได้กังวลใจไปเลย!”
  เมื่อได้ฟังคำพูดของหลิงหยุนหลิงเสี่ยวจึงค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้บ้าง เขาพยักหน้ายิ้มๆ พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า
  “หลิงหยุนเจ้ามีอะไรทำก็ไปทำเถิด ไม่ต้องห่วงข้า! ข้าอยากจะนั่งอยู่ที่นี่ต่อ พรุ่งนี้จะเป็นวันสำคัญของตระกูลหลิงเรา เป็นวันที่เจ้าจะประกาศนำพาตระกูลหลิงกลับมาผงาดในประเทศนี้อย่างสง่าผ่าเผยอีกครั้ง!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร