บทที่ 1518 : หาเหาใส่หัว
ในราวห้าโมงเย็นหลิงหยุนก็ได้แยกกับถังเมิ่งและคนอื่นๆ หลังจากที่เขากลับมาจากเผ่าเหมี่ยวเจียงแล้ว ก็เหาะกลับปักกิ่งต่อโดยไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง แต่กลับเป็นถังเมิ่งที่เริ่มตระเตรียมการจนวุ่นวาย
ถังเมิ่งไม่ไปปักกิ่งงั้นหรือ
แทบไม่ต้องสงสัยเขาย่อมต้องไปแน่!
แต่ไม่ได้ไปพร้อมหลิงหยุนในคืนนั้นเขาพาเหออวี้ฉงบินจากกุ้ยโจวไปจิงฉู แต่ระหว่างที่รอเหออวี้ฉงเก็บของนั้น ถังเมิ่งก็ได้โทรบอกเหมี่ยวเสี่ยวเหมาเรื่องานวันเกิดของหลิงเสี่ยวที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้
แต่เหมี่ยวเสี่ยวเหมากลับแสดงอาการลังเลก่อนจะตอบถังเมิ่งกลับไปว่า เธอไม่สะดวกที่จะไป เพราะหลิงหยุนเพิ่งกลับไป และทิ้งงานไว้ให้เธอทำอีกมากมาย
ถังเมิ่งได้แต่คิดในใจว่าทันทีที่เหมี่ยวเสี่ยวเหมาทราบข่าว นางควรต้องตอบรับอย่างไม่ลังเลต่างหาก เพราะหลายวันที่ผ่านมานั้น หลิงหยุนได้เดินทางมาไปช่วยสะสางปัญหาเรื่องท่านย่า และท่านปู่ของเธอ แล้วก็อีกหลายๆเรื่อง
เหตุผลเพียงแค่นี้ก็ควรต้องให้เหมี่ยวเสี่ยวเหมาไม่อาจปฏิเสธได้แล้วแต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถังเมิ่งจึงได้แต่ตอบกลับไปว่า
“ไม่เป็นไรถ้าอย่างนั้นผมก็จะกลับไปรับท่านป้าจินเหยียว และคนอื่ที่จิงฉู”
ถังเมิ่งนั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับไปจิงฉูพร้อมกับเหออวี้ฉงโดยมีหวังชงเซียวและแวมไพร์ทั้งห้าติดตามอารักขาไปด้วย แล้วทั้งหมดก็กลับถึงจิงฉูด้วยความปลอดภัย
“ท่านป้าจินเหยียวต้องไปด้วยแน่ๆ”
“พี่เม่ยเฟิงก็คงไม่พลาดเช่นกัน..”
“หนิงน้อยแล้วก็เหยาลู่ด้วย..”
“อ่อ..เรื่องสำคัญแบบนี้ฉันคงต้องถามพ่อกับลุงหลี่ด้วยว่าต้องการจะไปด้วยมั๊ย..” “เอ่อ..ยังมีคนใหญ่คนโตในตลาดค้าของเก่าอีก…”
งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของหลิงเสี่ยวนับเป็นเรื่องที่หลิงหยุนให้ความสำคัญอย่างมาก ถังเมิ่งรู้สึกผิดที่มิได้มีส่วนร่วมในการช่วยงาน จึงต้องการชดเชยให้ ด้วยการระดมคนสำคัญของหลิงหยุนจากจิงฉูไปที่ตระกูลหลิง
แต่สิ่งที่ถังเมิ่งคาดคิดไว้นั้นกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาวาดภาพไว้ และนั่นทำให้เขานึกแปลกประหลาดใจยิ่งนัก!
“ไม่ไป!”
“ไม่ไป!”
“ไม่ไป!”
ถังเมิ่งโทรหาคนสำคัญของหลิงหยุนติดต่อกันถึงสามคนแต่ทุกคนต่างก็ปฏิเสธเขากลับมาในทันที และทั้งสามคนที่ว่าก็คือเฉิงเม่ยเฟิง เหยาลู่ และเสี่ยวเม่ยหนิง
เป็นไปได้ยังไงกันนี่ถ้าทุกคนไม่ไปกันหมด แล้วฉันจะกลับมาจิงฉูทำไมกัน?! เฉิงเม่ยเฟิงให้เหตุผลว่างานยุ่งมาก!
เหยาลู่ให้เหตุผลว่าคุณสมบัติของตนเองไม่เหมาะสมที่จะไปร่วมงานสำคัญเช่นนี้!
ส่วนเสี่ยวเม่ยหนิงนั้นกลับย้อนถามถังเมิ่งว่า หากหลิงหยุนต้องการให้เธอไป เหตุใดหลิงหยุนจึงไม่โทรบอกเธอเอง
หลังจากถูกหญิงสาวทั้งสามคนปฏิเสธติดต่อกันเช่นนี้ถังเมิ่งก็เริ่มมีอาการจิตตก และแทบอยากจะร้องไห้ออกมา เขารู้สึกงุนงงและประหลาดใจอย่างมาก งานสำคัญอย่างวันเกิดของหลิงเสี่ยวเช่นนี้ แต่ผู้หญิงของหลิงหยุนทั้งสามคน กลับปฏิเสธและเห็นเรื่องอื่นสำคัญกว่า!
หากหญิงสาวทั้งสามคนไม่ยอมไปกับตนด้วยไม่เท่ากับว่าเขามากลับมาจิงฉูเสียเที่ยวหรอกหรือ หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาคงเลือกที่จะนั่งเครื่องบินส่วนตัวบินตรงจากกุ้ยโจวไปปักกิ่งเสียจะดีกว่า!
“โอกาสดีๆอย่างนี้ทำไมสาวๆถึงไม่ต้องการกันนะ เพราะอะไรกัน?” ระหว่างทางที่นั่งรถกลับมานั้นถังเมิ่งได้แต่นั่งจ้องมองโทรศัพท์มือถือของตนเอง สีหน้าของเขาผิดหวัง เศร้าหมองและโกรธเกรี้ยว จนไม่คิดที่จะโทรหาใครอีกเลย
“ไปหาป้าจินเหยียวที่บ้านและถามต่อหน้าเลยดีกว่า..”
ถังเมิ่งเปลี่ยนใจไม่กลับไปที่บ้านของตนเองเพื่อพบถังเทียนห่าวผู้เป็นพ่อเหมือนที่วางแผนไว้ก่อนหน้า แต่กลับตรงไปหาจินเหยียวที่บ้านเลขที่-1 แทน
นับเป็นความโชคดีของถังเมิ่งที่จินเหยียวกำลังฝึกวิชาอยู่ที่สวนหลังบ้านอยู่พอดี และทันทีที่สัมผัสได้ว่าถังเมิ่งมา นางก็รีบวิ่งออกมาต้อนรับที่หน้าบ้านอย่างรวดเร็ว
“ข้าเองตั้งใจที่จะไปอวยพรวันเกิดท่านพี่หลิงอยู่แล้วและวางแผนไว้ว่าจะออกเดินทางในคืนนี้ หลังจากฝึกวิชาเสร็จ.. แล้วเหตุใดเจ้าจึงกลับมาจิงฉูอีก”
และแน่นอนว่าจินเหยียวซึ่งหายจากอาการเสียสติ และสามารถจดจำเรื่องราวทุกอย่างได้แล้ว ย่อมต้องจดจำวันเกิดของหลิงเสี่ยวได้เช่นกัน
ทันทีที่ได้ยินคำตอบของจินหยียวถังเมิ่งก็ได้แต่ดีอกดีใจ และได้แต่ยิ้มกว้างพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆ
“ฮู่ว..”
ถังเมิ่งพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกสีหน้าที่กระวนกระวายใจพลันคลายลงในทันที และได้แต่คิดอย่างมีความสุขว่า การกลับมาจิงฉูของตนในครั้งนี้ ไม่นับว่าเปล่าประโยชน์เสียทีเดียว
“ท่านป้าจินเหยียวผมไม่เข้าใจจริงๆ งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของท่านลุงหลิงนับเป็นโอกาสที่ดีอย่างมาก แต่ทำไมพวกสาวๆของพี่หยุนถึงได้พากันปฏิเสธหมด”
ถังเมิ่งเอ่ยถามสิ่งที่คลางแคลงใจออกไปทันที..
จินเหยียวยิ้มเล็กน้อยและได้แต่คิดในใจว่า‘เฮ้อ.. เด็กคนนี้มีความตั้งใจที่ดี แต่กลับไม่รู้จักดูสถานการณ์ให้ดี..’
จากนั้นนางก็เอ่ยถามถังเมิ่งว่า“แล้วเสี่ยวเหมาไม่กลับมาพร้อมกับเจ้ารึ”
ถังเมิ่งเงยหน้าขึ้นมองจินเหยียวพร้อมตอบกลับไปว่า “เสี่ยวเหมาบอกกับผมว่า เธอเพิ่งจะแยกกับพี่หยุนวันนี้ครับ แล้วพี่หยุนก็ทิ้งงานไว้ให้เธอทำตั้งมากมาย เธอก็เลยไม่ว่างที่จะไปร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของท่านลุงเสี่ยว..”
“ถังเมิ่งเจ้าคิดว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดของลุงหลิงสำคัญเพียงใด แม้แต่หลิงหยุนยังทิ้งทุกอย่างกลับไปเช่นนี้ อีกอย่างหลิงหยุนเองก็เพิ่งจะแยกกับเสี่ยวเหมา นางยังจะมีอะไรยุ่งมากมายงั้นรึ!”
ถังเมิ่งนั่งฟังอย่างตั้งใจก่อนจะถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง “เป็นเพราะเธอมีเหตุผลอื่นเหรอครับ”
จินเหยียวยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมตอบกลับไปว่า“เจ้าเองก็เป็นคนเฉลียวฉลาด แต่บางครั้งก็เหมือนเส้นผมบังภูเขา จนมองไม่เห็นปัญหา..”
นางยกแขนเรียวงามขึ้นชี้ไปทางทิศเหนือพร้อมกับถามขึ้นว่า “เด็กโง่.. เจ้าลองคิดดูให้ดีสิว่า เวลานี้ในตระกูลหลิงมีใครอยู่บ้าง”
“…..”
ถังเมิ่งถึงกับอ้าปากค้าง..
เวลานี้ในตระกูลหลิงมีใครอยู่บ้างงั้นเหรอ
เกาเฉินเฉิน!
เรื่องการหมั้นหมายระหว่างหลิงหยุนกับเกาเฉินเฉินนั้นได้ถูกป่าวประกาศออกไปอย่างเป็นทางการแล้ว
“เห้ย..นี่ฉัน @$&%”
หลังจากที่เข้าใจจนกระจ่างแจ่มแจ้งแล้วถังเมิ่งก็ถึงกับกำหมัดทุบหัวตัวเองอย่างแรง จินเหยียวเห็นเช่นนั้นจึงได้แต่หัวเราะ และไม่จำเป็นที่จินเหยียวจะต้องอธิบายอะไรมากไปกว่านี้แล้ว..
การประกาศหมั้นหมายอย่างเป็นทางการเช่นนี้ตามประเพณีจีนนับเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะนี่มิใช่การคบหาแบบเด็กๆของหนุ่มสาวทั่วไป
อีกทั้งนี่ยังมิใช่การประกาศหมั้นหมายของคนธรรมดาทั่วไปแต่เป็นการประกาศหมั้นหมายของตระกูลใหญ่แห่งปักกิ่งอย่างตระกูลหลิง และตระกูลเกา ฉะนั้นแล้ว การหมั้นหมายของคนทั้งคู่จึงได้ถูกป่าวประกาศออกไปอย่างเอิกเกริก และคนทั่วประเทศต่างก็รับรู้!
พูดง่ายๆก็คือเกาเฉินเฉินอยู่ในตระกูลหลิงอย่างถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณี และอยู่ในฐานะคู่หมั้นของหลิงหยุน!
ฉะนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีหรือที่เฉิงเม่ยเฟิง เสี่ยวเม่ยหนิง และเหยาลู่จะยอมเดินทางไปตระกูลหลิง
จะให้พวกนางไปในฐานะอะไรและไปทำอะไรที่นั่น?
หากพวกนางไปก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเกาเฉินเฉินได้ ถึงเวลานั้น ต่างฝ่ายต่างก็จะกระอักกระอ่วนใจเสียเปล่าๆ! “หึ..พี่หยุนนะพี่หยุน ช่างหาเรื่องให้ฉันจริงๆ!”
ถังเมิ่งได้แต่คิดในใจว่าครั้งนี้เขาไม่เพียงหาเหาใส่หัว แต่เท่ากับขุดหลุมฝังตัวเองแท้ๆ
“ถังเมิ่ง..อย่าว่าแต่เจ้าเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนพวกนางเลย ต่อให้หลิงหยุนเอ่ยปากชวนพวกนางด้วยตัวเอง บรรดาผู้หญิงของเขาก็คงต้องปฏิเสธเช่นกัน!”
จินเหยียวพยักหน้ายิ้มๆพร้อมกับเอ่ยต่อว่า “นี่เจ้าคิดว่าคนอย่างหลิงหยุนจะรีบร้อนไปร่วมงานของท่านลุงเสี่ยว จนลืมที่จะเอ่ยชวนพวกนางงั้นรึ”
“ย่อมต้องไม่ใช่เป็นแน่!”
“ใช่แล้ว!เพราะหลิงหยุนรู้ว่าจะต้องเกิดปัญหาเป็นแน่ เขาจึงตัดสินใจไปปักกิ่งเพียงลำพัง โดยไม่ชักชวนผู้ใดไปด้วยแม้แต่คนเดียว..”
“การที่เขาไม่มีหนทางที่จะรู้ว่าใครนำไปสู่การกลับไปนั้นลำบากมากไม่มีใครพาคนกลับไปเมืองหลวงโดยตรง”
“……”
ถังเมิ่งถึงกับพูดไม่ออกแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า งานวันเกิดของหลิงเสี่ยวน่าจะสำคัญมากกว่าเรื่องอื่นๆมิใช่หรือ
“ถังเมิ่ง..เจ้าอย่าลืมว่าวันเกิดของท่านลุงหลิงสำคัญก็จริง แต่ก็จัดขึ้นได้ในทุกๆปี เพียงแต่ปีนี้เป็นปีที่ตระกูลหลิงกลับมาผงาดขึ้นได้อีกเป็นครั้งแรก งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของลุงเสี่ยวในปีนี้ จึงยิ่งใหญ่และสำคัญในสายตาของคนนอกมากกว่าปีอื่นๆ”
จินเหยียวส่ายหน้าไปมาพร้อมกับเอ่ยต่อยิ้มๆ“แม้หลิงหยุนจะสำคัญกับพวกนางมาก แต่หน้าตาของพวกนางก็สำคัญกว่าสิ่งใด..”
ถังเมิ่งเริ่มคล้อยตามและเอ่ยถามกลับไปว่า “ท่านน้าจินเหยียว ผมควรทำยังไงดี”
จินเหยียวตอบกลับไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“นอกเหนือจากผู้หญิงของหลิงหยุนแล้ว หากเจ้าเห็นว่าผู้ใดควรต้องบอกกล่าวเรื่องนี้เจ้าก็ไปบอกพวกเขา ส่วนเขาจะไปร่วมงานหรือไม่นั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเขาตัดสินใจเอง..”
“ถังเมิ่ง..เรื่องนี้นับเป็นเรื่องสำคัญของหลิงหยุน จึงย่อมเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา พวกเขาย่อมมีเหตุผลและเงื่อนไขหลายอย่างที่ใช้ในการตัดสินใจว่าจะไป หรือไม่ไป เจ้ามีหน้าที่เพียงแค่แจ้งข่าวเท่านั้น อย่าได้บีบบังคับ หรือตัดสินใจแทนพวกเขา..”
ถังเมิ่งร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ“ขอบคุณท่านน้าจินเหยียว! เชิญท่านน้าพักผ่อน ผมของตัวกลับก่อน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร