บทที่ 1536 : ส่งแขก!
ดูเหมือนหลงฮ่าวหลานเองก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการตอบโต้หลิงหยุนแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน..
เขาได้ตัดสินใจก่อนที่จะเดินทางมาที่นี่แล้วว่าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับหลิงหยุนอีก ตระกูลหลงพ่ายแพ้ให้แก่หลิงหยุนคนแล้วคนเล่า และเวลานี้เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น เขาจะปล่อยให้หลิงหยุนแสดงอำนาจเหนือกว่าได้เช่นใด
อีกทั้งวันนี้ก็เป็นวันเกิดของหลิงเสี่ยวและที่นี่ก็กำลังมีงานเลี้ยงฉลอง หลงฮ่าวหลานมาที่นี่เพื่อร่วมอวยพรให้กับบิดาของหลิงหยุน หลงฮ่าวหลานเชื่อว่า หลิงหยุนไม่มีทางที่จะกล้าประมือกับตนเป็นแน่ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้เปลี่ยนแผนที่จะเดินทางมาถึงให้ล่าช้าลง
ในเมื่อหลิงหยุนไม่ยอมให้เขาผ่านเข้าไปเขาก็จะยืนนิ่งอยู่เฉยๆเช่นนี้ และอยากรู้ว่าหลิงหยุนจะทำเช่นใดได้อีก “หลิงหยุนข้าเคยพบเจ้ามาก่อนหน้านี้นานแล้ว ในคืนที่เจ้าประลองโดยใช้ชีวิตเป็นเดิมพันกับตระกูลซัน และตระกูลเฉินอย่างไรเล่า..”
“ข้าเองก็รู้จักเจ้ามานานแล้วเช่นกันแล้วก็ยังรู้จักสมาชิกตระกูลหลงอีกหลายคนด้วย ข้าเพียงแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้จักเจ้า ก็เท่านั้นเอง!”
คำพูดประโยค‘แล้วก็ยังรู้จักสมาชิกตระกูลหลงอีกหลายคนด้วย’ จากปากของหลิงหยุนนั้น ทำให้เย่เทียนสุ่ยตกใจจนเกือบจะพ่นน้ำชาในปากใส่หน้าเย่เทียนตู
นั่นเพราะคำพูดประโยคนี้ของหลิงหยุนไม่ต่างจากการตบหน้าอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย!
หลงฮ่าวหลานที่แม้จะฝึกวรยุทธบ่มเพาะจนจิตใจสงบนิ่งมานานยังมิอาจทนทานต่อวาจาโอหังของหลิงหยุนได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที และเอ่ยบอกหลิงหยุนด้วยน้ำเสียงที่ห้วนว่า
“หลิงหยุนเหตุใดจึงต้องก่อกวนข้า” หลิงหยุนยิ้มเย็นและตอบกลับไปว่า “นั่นเพราะเจ้าเป็นฝ่ายพูดจาไม่ถูกต้องก่อน..”
หลงฮ่าวหลานเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ“ข้ากล่าวสิ่งใดผิดไปงั้นรึ”
“เมื่อครู่ที่เจ้าก้าวเท้าเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงเจ้าบอกกับท่านปู่ของข้าว่า เป็นเพราะตระกูลหลิงมิได้แจ้งข่าวเรื่องงานวันเกิดให้ตระกูลหลงรู้ล่วงหน้า เจ้าจึงได้มาถึงงานเลี้ยงล่าช้ามิใช่รึ”
“ใช่แล้ว..ข้ากล่าวผิดเช่นใด”
“เฮ้อ..ข้าว่าสมองของเจ้าคงจะมีปัญหาแล้วล่ะ”
หลิงหยุนเอ่ยตอบยิ้มๆก่อนจะอธิบายต่อในทันที “เมื่อคืนข้าส่งคนไปทวงหนี้จากตระกูลหลง เจ้าในฐานะผู้นำตระกูลหลงจะไม่รู้ความเคลื่อนไหวเชียวรึ”
“…”
หลงฮ่าวหลานได้แต่นิ่งอึ้งไม่อาจโต้เถียงได้แต่หลังจากนั้นเมื่อกำลังจะตอบโต้กลับหลิงหยุนก็เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“หลู่เหวินหลงหลัวอวี้ฉง หม่าเชียนจวิน…. พวกเจ้านำหนังสือสัญญามาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
“ครับท่านอาจารย์!”
ศิษย์ทั้งหกคนของหลิงหยุนต่างก็เดินถือกระดาษในมือมาส่งให้อย่างรวดเร็วก่อนจะเดินกลับไปทั้งหกคนยังหันไปจ้องมองหลงฮ่าวหลานอีกด้วย
หลิงหยุนถือหนังสือสัญญาปึกใหญ่ไว้ในมือก่อนจะส่งให้หลงฮ่าวหลานโดยไม่แม้แต่จะเปิดดู พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า
“ผู้นำตระกูลหลงข้าคิดว่าเจ้าคงจะรู้ดีว่าสิ่งนี้คืออะไร หากไม่รู้ ก็จงรับไปดู..”
หลงฮ่าวหลานคร้านที่จะรับหนังสือสัญญาปึกใหญ่เหล่านั้นมาดูสายตาแหลมคมทั้งสองจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของหลิงหยุนครู่ใหญ่ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังกึกก้อง.. “หลิงหยุนหากเจ้าต้องการที่จะทวงกิจการที่เคยเป็นของตระกูลหลิงคืน เจ้าควรบอกข้าดีๆ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการเช่นนี้!”
หลงฮ่าวหลานหันไปด้านหลังพร้อมกับตะโกนว่า“เทียนซิง!”
หลงเทียนซิงรีบก้าวเข้าไปหาหลิงหยุนทันทีพร้อมกับยื่นเอกสารปึกใหญ่ในมือออกไป พร้อมกับเอ่ยว่า
“หลิงหยุนเอกสารเหล่านี้เป็นกิจการของตระกูลหลิงทั้งหมด วันนี้ตระกูลหลงตั้งใจนำมามอบคืนให้กับตระกูลหลิง เจ้าให้คนทำการตรวจสอบได้เลย”
“งั้นรึคิดไม่ถึงว่าผู้นำตระกูลหลงจะรอบคอบถึงเพียงนี้!”
“นั่นเป็นเพราะว่าเจ้ายังไม่รู้จักข้าดีพอต่างหากหากเจ้ารู้จักข้าอย่างแท้จริง ก็จะรู้ว่าข้าเป็นคนที่ทำงานรอบคอบเสมอ..”
“กิจการมากมายถึงเพียงนี้ผู้นำตระกูลหลงจะตัดใจมอบให้ข้าได้เชียวรึ” “กิจการทั้งหมดนี้มิใช่ของพวกเราตั้งแต่แรกเหตุใดจึงต้องใช้คำว่าตัดใจด้วยเล่า”
“ในเมื่อพวกเจ้าเต็มใจข้าก็ยินดี..”
ระหว่างที่ตอบกลับไปนั้นหลิงหยุนก็ยกมือขึ้นรับเอกสารปึกใหญ่จากมือของหลงเทียนซิน พร้อมกับเรียกเข้าไปเก็บในแหวนจักรวาลของตนทันที เขาไม่แม้แต่จะเสียเวลาตรวจดู และไม่กังวลว่าตระกูลหลงจะมีลูกเล่นอะไร
จากการเผชิญหน้ากันเพียงชั่วครู่นี้หลิงหยุนก็รู้ได้ว่าหลงฮ่าวหลานได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี และคนเช่นนี้ก็ต่อกรด้วยยากยิ่งนัก!
ผู้ที่สามารถยอมสูญเสียต่อหน้าผู้อื่นได้โดยที่สีหน้าท่าทางยังคงสงบนิ่งเช่นนี้ นับว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว!
หลิงหยุนเข้ามายืนขวางทางโดยไม่สนใจหลงฮ่าวหลานอีกทั้งยังเอ่ยถึงคนตระกูลหลงที่ถูกเขาทำร้ายเป็นนัยๆ สุดท้ายยังอวดทรัพย์สินที่ยึดมาจากตระกูลหลงเมื่อคืนนี้เรียกได้ว่าแต่ละอย่างนั้นไม่ต่างจากการตบหน้าหลงฮ่าวหลานครั้งแล้วครั้งเล่า
แม้แต่หลงเทียนซิงยังยืนนิ่งด้วยใบหน้าบึ้งตึงและบ่งบอกว่าไฟโทสะกำลังเผาผลาญใจ แต่หลงฮ่าวหลานไม่เพียงยังคงสงบนิ่งอยู่ได้ แต่กลับสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างใจเย็น สีหน้ายังคงนิ่งเรียบราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น!
เวลานี้ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงถึงกับงุนงง เพราะหากผู้ใดในห้องจัดเลี้ยงกล้าที่จะไปยืนขวางหน้าหลงฮ่าวหลานดังเช่นที่หลิงหยุนทำอยู่เวลานี้แล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าคงถูกหลงฮ่าวหลานซัดด้วยฝ่ามือแล้วเป็นแน่!
แต่นี่หลงฮ่าวหลานกลับอดทนรอและเจรจากับหลิงหยุนอย่างใจเย็น ซึ่งเป็นเรื่องที่เหล่าชาวยุทธในห้องจัดเลี้ยงแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง!
“คิดไม่ถึงว่าคนเช่นหลงฮ่าวหลานจะสามารถอดกลั้นได้..”แม้กระทั่งเย่ชิงเฟิงยังแอบถอนหายใจ.. “นั่นเพราะหลงฮ่าวหลานรู้ดีว่าเวลานี้ตนเองยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงหยุนต่างหากเล่า..” โจวเหวินอี้ตอบกลับอย่างรู้ทัน
เวลานี้หลิงหยุนเหนือกว่าและเป็นฝ่ายได้เปรียบกว่ามากหากต้องประมือกัน ฉะนั้น การที่หลงฮ่าวหลานตอบโต้หลิงหยุนกลับด้วยการกระทำเช่นนี้ ก็นับว่าสวยงามมากแล้ว
“หลิงหยุนในเมื่อข้าส่งมอบกิจการของตระกูลหลิงคืนให้ทั้งหมดแล้ว เจ้าจะให้ข้าเข้าไปได้หรือยัง ”
หลงฮ่าวหลานเอ่ยถามยิ้มๆพร้อมกับจ้องมองหลิงหยุนประหนึ่งจะบอกว่า ‘ข้าเองก็อยากรู้ว่าเจ้ายังจะมีลูกเล่นอะไรอีก’
“ยัง!”
“โอ้..เหตุใดจึงทำเช่นนี้หลิงหยุน ข้ามาเพื่อร่วมอวยพรวันเกิดให้กับพ่อของเจ้านะ..” หลงฮ่าวหลานเอ่ยตอบยิ้มๆ
หลิงหยุนจึงเอ่ยถามกลับไปทันที“แล้วของขวัญเล่า” หลงฮ่าวหลานถึงกับขบฟันแน่นแต่แล้วก็สะบัดข้อมือ และจู่ๆห้องทั้งห้องก็เปล่งประกายสว่างไสว
ทุกคนต่างก็มองเห็นว่าภายในมือของหลงฮ่าวหลานนั้นมีขวดโอสถอยู่หนึ่งขวด และภายในขวดดูเหมือนจะมีโอสถขนาดเท่าดวงตามังกรอยู่เพียงแค่หนึ่งเม็ด ซึ่งกำลังเปล่งประกายสว่างไสวดึงดูดสายตาผู้คนอย่างยิ่ง
หลิงหยุนเหลือบมองและแล้วลูกนัยน์ตาของเขาก็ถึงกับสั่นระริก!
ในเวลาเดียวกันนั้นหลงเทียนซิงก็รีบพุ่งเข้าไปหาหลงฮ่าวหลานทันที สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่มือของผู้เป็นบิดา พร้อมกับกระซิบถามด้วยความตกใจ
“ท่านพ่อ..ท่านมอบของสิ่งนี้ให้เขาได้อย่างไร นี่มันมากเกินไป..”
หลงเทียนซิงคิดไม่ถึงว่าจู่ๆหลงฮ่าวหลานจะเปลี่ยนใจกะทันเช่นนี้ และได้มอบโอสถล้ำค่านี้แทนของขวัญที่ได้เตรียมมา! “หุบปาก!”
หลงฮ่าวหลานตวาดหลงเทียนซิงก่อนจะหันไปเอ่ยกับหลิงหยุนว่า “หลิงหยุน ข้าได้ยินมาว่าความรู้ด้านหลอมกลั่นโอสถของเจ้าเป็นเลิศยิ่งนัก ข้าเชื่อว่าเจ้าคงจะรู้ดีว่าโอสถนี้ล้ำเลิศมากเพียงใด”
“ข้าย่อมรู้!”
หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย“นี่คือโอสถก่อสร้างรากฐาน ผู้ที่ฝึกถึงขั้นจิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-9) หากได้กลืนโอสถนี้เข้าไป ย่อมสามารถเข้าสู่ขั้นก่อสร้างรากฐานได้ในทันที!”
และนี่คือ..โอสถก่อสร้างรากฐาน!!!
เมื่อหลิงหยุนเอ่ยชื่อโอสถขึ้นมายอดฝีมือในขั้นพลังเหนือธรรมชาติต่างก็พากันส่งเสียงฮือฮา และจ้องมองโอสถในมือของหลงฮ่าวหลานเขม็ง
แม้แต่โจวเหวินอี้และเย่ชิงเฟิงยังถึงกับต้องใช้จิตหยั่งรู้ของตนสำรวจดูอย่างละเอียด!
โอสถก่อสร้างรากฐานสามารถนำพาผู้ฝึกบ่มเพาะพลังเข้าสู่ขั้นก่อสร้างรากฐานได้อย่างง่ายดาย เช่นนี้แล้วมีผู้ใดบ้างที่จะไม่ตกตะลึงอีกเล่า
จึงไม่แปลกที่หลงเทียนซิงจะกระวนกระวายใจถึงเพียงนี้!
“นับว่าสายตาแหลมคมยิ่งนัก!”
หลงฮ่าวหลานเอ่ยชมหลิงหยุนด้วยใจจริง“โอสถก่อสร้างรากฐานนี้ ตระกูลหลงของข้ามีอยู่เพียงเม็ดเดียว ความจริงข้าตั้งใจจะเก็บไว้ให้ตนเอง แต่เวลานี้ข้าขอมอบให้เป็นของขวัญกับพ่อของเจ้า มิทราบว่าเจ้าพอใจหรือไม่”
หลิงหยุนหัวเราะร่วนและได้แต่คิดในใจว่า หลงฮ่าวหลานช่างเป็นผู้ที่สามารถพูดเอาดีเข้าตัวได้เก่งยิ่งนัก!
แม้นี่จะเป็นโอสถก่อสร้างรากฐานจริงแต่ผลของมันนั้นกลับเลวร้าย ผู้ใดก็ตามที่กลืนโอสถเม็ดนี้เข้าไป แน่นอนว่าย่อมสามารถเข้าสู่ขั้นก่อสร้างรากฐานได้ในทันที แต่ก็จะหยุดชะงักอยู่เพียงแค่นั้น และยากที่จะก้าวหน้าได้อีก!
ความจริงแล้วหลิงหยุนต้องการที่จะสอบถามหลงฮ่าวหลานว่าได้โอสถนี้มาจากที่ใด แต่เขาเชื่อว่าหลงฮ่าวหลานคงไม่ยอมบอกเป็นแน่ จึงตัดสินใจที่ไม่ถามออกไป
หากเป็นคนอื่นแน่นอนว่าย่อมต้องรีบรับโอสถนี้ มิหนำซ้ำยังต้องรู้สึกซาบซึ้งใจในตัวหลงฮ่าวหลานจนต้องเอ่ยขอบคุณ และต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีแน่
แต่การที่หลงฮ่าวหลานใช้วิธีเช่นนี้กับหลิงหยุนนับว่าเขาเล่นผิดคนไปมากจริงๆ
หลิงหยุนรอบรู้เรื่องการหลอมกลั่นโอสถอย่างมากแม้แต่โอสถระดับเต๋าเขาก็หลอมมาหมดแล้ว จึงแทบไม่ต้องพูดถึงโอสถก่อสร้างรากฐานเม็ดนี้!
ตราบใดที่หลิงหยุนสามารถเข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นปาเฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-8) ได้ เขาย่อมสามารถหลอมกลั่นโอสถก่อสร้างรากฐานคุณภาพสูงกว่าที่หลงฮ่าวหลานมีอยู่นี้ได้
การที่โอสถล้ำค่าเช่นนี้ถูกนำออกมามอบให้เป็นของขวัญแต่หลิงหยุนกลับมีสีหน้าเรียบเฉยเช่นนี้ แม้แต่หลงฮ่าวหลานยังรู้สึกกระวนกระวายใจ จนต้องเอ่ยถามออกไปว่า
“หลิงหยุนนี่เจ้าไม่ยินดีกับของขวัญที่ข้ามอบให้งั้นรึ”
“เรื่องของตระกูลหลิงเมื่อสิบแปดปีก่อนนั้นข้ายอมรับว่าตนเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ แต่เรื่องราวการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างตระกูล ก็มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ..”
“เช่นเดียวกับเจ้าในเวลานี้..หากวันนี้ตระกูลหลงของข้าอ่อนแอลง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเพียงแค่ยืนมองตระกูลอื่นๆแย่งชิงกิจการของตระกูลหลงไป โดยไม่คิดที่จะฉกฉวยด้วย..”
“เรื่องเดียวที่ข้ารู้สึกผิดก็คือการที่ปล่อยให้พ่อของเจ้าถูกคนทำลายจุดตันเถียน และทำให้พ่อแม่ของเจ้าต้องแยกจากกันตลอดไป”
“ด้วยเหตุนี้ข้าจึงได้มาตระกูลหลิง และตั้งใจมอบโอสถก่อสร้างรากฐานนี้ให้กับพ่อของเจ้า และหวังว่าเมื่อเขาเข้าสู่ขั้นจิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-9) จะได้ใช้โอสถเม็ดนี้..”
“ข้ายังรู้มาว่าเจ้าเองต้องการที่จะไปช่วยท่านแม่ของเจ้าข้าหลงฮ่าวหลานรับปากว่า เมื่อใดที่เจ้าพร้อมจะไปกำจัดพรรคมาร ตระกูลหลงของข้าก็พร้อมที่จะไปช่วยแม่ของเจ้าด้วยเช่นกัน เพื่อให้พ่อและแม่ของเจ้าได้มีโอกาสกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เจ้าคิดเห็นเช่นใด”
คำพูดของหลงฮ่าวหลานนั้นนับว่างดงามกว่าเย่ชิงเฟิงมากนัก!
แต่น่าเสียดายที่หลิงหยุนไม่เชื่อ..
หากหลิงเสี่ยวกลืนโอสถก่อสร้างรากฐานเข้าไปจริงๆขั้นพลังบ่มเพาะของเขาก็จะต้องชะงักอยู่เพียงแค่นั้น และยากที่จะก้าวหน้าได้อีก ส่วนเรื่องช่วยเหลือแม่ของหลิงหยุนนั้นก็ยิ่งเลอะเลือนไร้สาระมีหรือที่หลิงหยุนจะดูไม่ออกว่า หลงฮ่าวหลานต้องการติดตามตนเองไปพรรคมารนั้น ก็เพราะมีจุดประสงค์อื่นต่างหากเล่า
หลิงหยุนยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือออกไปรับโอสถก่อสร้างรากฐานมา พร้อมกับเอ่ยตอบไปว่า
“ในเมื่อผู้นำตระกูลหลงลำบากใจข้าก็จะขอรับโอสถนี้ไว้ให้กับท่านพ่อ”
แม้โอสถก่อสร้างรากฐานเม็ดนี้จะมีข้อบกพร่องแต่หลิงหยุนเป็นถึงปรมาจารย์ด้านการหลอมกลั่นโอสถ เขาย่อมสามารถปรับแต่งให้โอสถเม็ดนี้กลายเป็นโอสถที่มีคุณภาพล้ำเลิศได้ในไม่ช้า
และนี่จะช่วยเขาลดปัญหาเรื่องวัตถุดิบในการหลอมกลั่นโอสถไปได้มากอีกด้วย!
“แต่เรื่องการไปช่วยท่านแม่ของข้านั้นเป็นเรื่องภายในของตระกูลหลิง ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลหลงฉะนั้น ข้าไม่ขอรับความช่วยเหลือนี้!”
หลงฮ่าวหลานถึงกับนิ่งอึ้งไปด้วยความตกตะลึงความรู้สึกผิดหวังรุนแรงปรากฏขึ้นในแววตาของเขาวูบหนึ่ง..
จะมิให้ผิดหวังได้อย่างไรกันเล่า
จู่ๆหลงฮ่าวหลานก็เปลี่ยนใจอย่างกะทันหันยอมมอบโอสถล้ำค่านี้ให้เป็นของขวัญ แม้โอสถนี้จะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่หากผู้ใดได้กลืนเข้าไปย่อมสามารถเข้าสู่ขั้นก่อสร้างรากฐานได้ในทันที
แต่การที่หลิงหยุนปฏิเสธข้อเสนอที่หลงฮ่าวหลานต้องการจะไปช่วยเหลือมารดาของเขาด้วยนั้นทำให้แผนการที่หลงฮ่าวหลานวางไว้ต้องล้มอย่างไม่เป็นท่า
นี่มิเท่ากับว่าเขาเป็นฝ่ายสูญเสียให้กับหลิงหยุนหรอกรึ
ไม่เพียงแผนการของหลงฮ่าวหลานจะล้มเหลวแต่หลิงหยุนกลับยังมิยอมหลีกทางให้เขา และยังคงยืนขวางทางอยู่เช่นนั้น “ผู้นำตระกูลหลงข้ายังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องการจะสอบถาม.. เวลานี้หลงหวู่อยู่ที่ใด”
“เรื่องนี้..”
หลงฮ่าวหลานถึงกับนิ่งอึ้งไปและรีบเปลี่ยนมาสื่อสารกับหลิงหยุนผ่านกระแสจิตทันที
–หลิงหยุนเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความลับตระกูลหลงของข้า ข้าไม่สามารถบอกกับเจ้าต่อหน้าผู้คนได้ เวลานี้ข้ารับรองได้ว่าหลงหวู่ยังคงปลอดภัยดี เรื่องนี้หลงคุนเองก็รู้ดี เขาสามารถยืนยันได้–
หลังจากที่หลิงหยุนได้ฟังจึงรีบถามหลงคุนผ่านกระแสจิตทันทีเช่นกัน และหลงคุณก็พยักหน้าและตอบกลับมาว่า
–ปลอดภัยดี–
หลิงหยุนจึงหันไปเอ่ยกับหลงฮ่าวหลานว่า..
“ความบาดหมางเมื่อสิบแปดปีก่อนระหว่างตระกูลหลิงกับตระกูลหลงเป็นอันจบลงแต่ในวันข้างหน้าตระกูลหลงและตระกูลหลิงจะเป็นศัตรูหรือสหายนั้น ล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนตระกูลหลง..”
จากนั้นหลิงหยุนก็ผายมือพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า..
“ส่งแขก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร