บทที่ 1538 : ของขวัญแสดงความขอบคุณ
“หลงฮ่าวหลาน..ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่น ยังคงคิดไม่ดีต่อตระกูลหลิงของเรา เขาจึงไม่สมควรจะได้รับการต้อนรับในฐานะแขกของตระกูลหลิง!”
ภายในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่หลังจากที่หลิงลี่ได้ฟังคำอธิบายทั้งหมดของหลิงหยุน เขาก็รู้สึกราวกับถูกอสุนีบาตผ่าลงกลางศรีษะ!
หลิงลี่ร้องตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล“หยุนเอ๋อ เหตุใดเจ้าจึงไม่เปิดเผยเรื่องนี้ต่อหน้าผู้คน ทุกคนจะได้เข้าใจเจ้า และรู้ว่าหลงฮ่าวหลานคิดกับตระกูลหลิงของเราเช่นใด”
หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆ“ข้าสามารถลงมือสังหารสองพ่อลูกได้อย่างง่ายดาย แต่การให้บทเรียนอีกฝ่ายจนยอมถอย ก่อนที่จะเกิดปัญหาต่างหาก เป็นสิ่งที่ควรทำ..”
ภายในห้องส่วนตัวที่อยู่ถัดไปหลังจากที่เย่เทียนสุ่ยได้ยินคำพูดของหลิงหยุนว่า เขาสามารถสังหารสองพ่อลูกได้อย่างง่ายดาย เย่เทียนสุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะกรอกตามองบนจนเห็นตาขาว..
เย่เทียนสุ่ยได้แต่แอบคิดในใจว่าเจ้าไม่สังหารสองพ่อลูกตระกูลหลง แต่กลับทำทั้งคู่เสียหน้ามากมายถึงเพียงนั้น ยังหวังว่าพวกเขาจะยอมถอยอีกรึ
แต่ในที่สุดเย่เทียนสุ่ยก็ได้เข้าใจเหตุผลที่หลิงหยุนขับไล่หลงฮ่าวหลานออกไปเช่นนั้น และได้แต่นึกอัศจรรย์ใจอยู่ไม่น้อย!
สิ่งที่หลิงหยุนทำลงไปนั้นก็ไม่ต่างจากการสังหารผู้คนโดยมิต้องหลั่งโลหิต ซึ่งเหนือกว่าหลายเท่านัก..
และหลิงหยุนเองก็เข้าใจความหมายนี้ดีหาไม่แล้วหากเหตุการณ์ในวันนี้เปลี่ยนเป็นผู้อื่นที่มิใช่หลิงหยุน คงต้องถูกหลงฮ่าวหลานสังหารโดยมิต้องหลั่งโลหิตต่อหน้าแขกเหรื่อมากมายไปแล้ว มิหนำซ้ำยังต้องรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของอีกฝ่ายด้วย “นับว่าหลิงหยุนเก่งกาจยิ่งนักทุกคนต่างก็รู้ว่าหลิงหยุนอยู่ในระดับสูงสุดขั้นลิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-6) เหตุใดเขาจึงสามารถวิเคราะห์โอสถนั่นได้”
เย่เทียนตูซึ่งนั่งจิบเหล้าอยู่ข้างเย่เทียนสุ่ยเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาด้วยความงุนงงสงสัย เขาถึงกับต้องอาศัยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ กลบเกลื่อนความรู้สึกด้อยของตนเองในเวลานี้ไว้
ในเมื่อวันนี้มีแขกสำคัญมากันอย่างล้นหลามภายในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่นี้ จึงต้องตั้งโต๊ะขนาดใหญ่ถึงสองโต๊ะ และแต่ละโต๊ะนั้นก็สามารถรับแขกมากถึงยี่สิบกว่าคน
ภายในโต๊ะที่หลิงลี่นั่งนั้นก็มีหลิงเสี่ยว หลิงเย่ว จินเหยียว รวมถึงหลิงหยุน และเหล่าทายาทรุ่นเล็กของตระกูลหลิงทั้งหมด แม้กระทั่งเกาเฉินเฉินก็นั่งอยู่ในโต๊ะนี้ด้วย เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของหลิงเสี่ยว เหล่าสมาชิกตระกูลหลิงทั้งหมดจึงต้องมานั่งร่วมโต๊ะกัน ไม่เพียงเพื่อให้สะดวกต่อการที่สมาชิกในตระกูลจะสนทนากันแต่ยังง่ายต่อการที่แขกเหรื่อจะเข้ามาทักทายคนในตระกูลหลิงอีกด้วย
ส่วนคนอื่นๆที่มีสิทธิ์นั่งร่วมโต๊ะนี้ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนสนิทของหลิงหยุน และตระกูลหลิงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโจวเหวินอี้ เกาจิ้นสง หลี่กวนผิง และอีกสองสามคน
ส่วนเย่ชิงเฟิงนั้นด้วยท่าทีของเขาที่แสดงออกมาอย่างจริงใจต่อหน้าทุกคนที่บ้านบรรพชนตระกูลหลิง จึงได้รับเกียรติให้นั่งข้างโจวเหวินอี้ด้วยเช่นกัน ในขณะที่เย่ชิงซินนั้นก็ได้นั่งอยู่ข้างจินเหยียว
และโต๊ะขนาดใหญ่นี้ก็ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของห้องส่วนตัว..
ส่วนโต๊ะอีกหนึ่งตัวซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกก็ล้วนแล้วแต่เป็นแขกที่เดินทางมาจากจิงฉู ซึ่งก็คือมู่หลงเวิ่นฉี และเฉิงเทียนกับคณะ นอกจากนั้นก็ยังมีถังเมิ่ง ตี้เสี่ยวอู๋ ตู้กู่โม่ และตงฟางถิง.. แม้ว่าทั้งตู้กู่โม่และตงฟางถิงจะมิได้มีพลังบ่มเพาะที่สูงส่งนักอีกทั้งยังมาจากตระกูลผู้ฝึกวรยุทธเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับยอดฝีมือที่สูงส่งอีกหลายคนภายในงาน แต่เป็นเพราะทั้งคู่คือสหายของหลิงหยุน จึงได้รับเกียรติให้นั่งในโต๊ะนี้
แต่เนื่องจากเพียงแค่แขกของหลิงหยุนจากจิงฉูก็แทบเต็มโต๊ะแล้วทำให้เย่เทียนสุ่ยกับเย่เทียนตู ที่แม้จะมีฐานะที่สูงส่ง กลับต้องถูกแยกไปนั่งอีกห้องหนึ่ง แต่ทั้งคู่ก็ไม่อาจโต้แย้งอันใดได้
วันนี้นับเป็นอีกหนึ่งวันที่หลิงลี่มีความสุขยิ่งนัก!
เรื่องที่หลิงหยุนประกาศต่อหน้าทุกคนในห้องจัดเลี้ยงกว่าเจ็ดแปดเรื่องนั้นจะมีสมาชิกตระกูลหลิงคนใดที่ไม่รู้สึกภาคภูมิใจบ้างเล่า
เพราะเรื่องที่เขาประกาศออกไปทั้งหมดนั้นไม่มีเรื่องใดเลยที่ไม่ทำให้ผู้คนในงานต้องตกตะลึง
แม้กระทั่งหลงฮ่าวหลานที่เดินทางมาด้วยตัวเองยังถูกหลิงหยุนไล่บดขยี้ตั้งแต่มาจนกระทั่งกลับไป เรียกได้ว่าหลงฮ่าวหลานต้องเสียหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะยังไม่ทันได้ดื่มแม้กระทั่งชาสักถ้วย ก็ถูกหลิงหยุนไล่กลับไปอย่างไม่ใยดี!
……
เหตุการณ์ในวันนี้แสดงให้เห็นว่าตระกูลหลิงเหมาะสมยิ่งนักที่จะได้ก้าวขึ้นมาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของประเทศนี้
หลิงลี่ดื่มชาอย่างมีความสุขและภาพแห่งความรุ่งเรืองของตระกูลหลิงเมื่อสี่สิบปีก่อน ก็ปรากฏขึ้นในห้วงมโนของเขาอีกครา
“หยุนเอ๋อ..เจ้าทำได้ดีมาก! ทุกอย่างในวันนี้ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งปีเท่านั้น!”
หลิงลี่เอ่ยชมหลิงหยุนต่อหน้าทุกคนและประโยคหลังนั้นก็ทำเอาเย่ชิงเฟิงกับโจวเหวินอี้ถึงกับต้องนั่งนิ่ง เพราะทั้งคู่รู้สึกละอายใจว่า หากเป็นตนก็ไม่สามารถทำได้ดังเช่นที่หลิงหยุนทำอยู่ ไม่เพียงแค่เย่ชิงเฟิงกับโจวเหวินอี้ที่รู้สึกเช่นนั้นทุกคนในงานต่างก็รู้ดีว่า เวลาเพียงแค่ครึ่งปีที่หลิงหยุนนำพาตระกูลหลิงขึ้นสู่อันดับสูงสุดได้อีกครั้งนั้น ช่างเป็นเวลาที่รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์และน่าตกใจยิ่ง!
“ท่านปู่ท่านดื่มมากเกินไปแล้ว อย่าลืมว่าคืนนี้ท่านปู่จะต้องเข้ารับทัณฑ์สวรรค์!”
หลิงหยุนยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยเตือนหลิงลี่ทั้งที่รู้ดีว่า หลิงลี่สามารถขับแอลกอฮอล์ในร่างของตนเองออกได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
หลังจากที่หลิงหยุนเอ่ยเรื่องการรับทัณฑ์สวรรค์ขึ้นมาโจวเหวินอี้จึงได้เอ่ยถามออกไปว่า “หลิงหยุน ในเมื่อวันนี้จะมีคนรับทัณฑ์สวรรค์ถึงสามคน เจ้าต้องการให้ข้าไปช่วยคุ้มกันให้หรือไม่”
หลิงหยุนได้ยินเช่นนั้นจึงได้ตอบกลับไปยิ้มๆ“อาวุโสโจว.. ข้ายังคิดว่าท่านจะแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้กับเรื่องนี้เสียอีก และในเมื่อท่านเสนอตัวเช่นนี้ ข้าย่อมยินดี..” ความจริงแล้วการที่หลิงลี่ หลิงเสี่ยว และจินเหยียวรับทัณฑ์สวรรค์พร้อมกันเช่นนี้ หลิงหยุนมั่นใจว่า เพียงแค่เขาผู้เดียวก็สามารถดูแลมิให้เกิดอันตรายใดๆได้ แต่ในเมื่อโจวเหวินอี้เสนอตัวเช่นนี้ หลิงหยุนย่อมมิต้องการที่จะปฏิเสธให้อีกฝ่ายต้องเสียหน้า..
เย่ชิงเฟิงกระแอมเบาๆก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ท่านลุงหลิง.. น้องหลิงเสี่ยว.. หากไม่เกรงว่าข้าจะไปสร้างความวุ่นวายให้กับพวกท่านแล้วล่ะก็ การคุ้มครองพวกท่านในคืนนี้ ให้นับรวมข้าไปด้วย!”
โจวเหวินอี้ปรายตามองเย่ชิงเฟิงอย่างรู้ทันเพราะรู้ดีว่าเย่ชิงเฟิงต้องการที่จะไปดูการรับทัณฑ์สวรรค์ของทั้งสามคนด้วยตาตัวเองนั่นเอง
“พี่หลิงเสี่ยวพี่จินเหยียว ข้าเองก็ต้องการไปช่วยคุ้มครองพวกท่านด้วย!” เย่ชิงซินเอ่ยขึ้นเช่นกัน
“เยี่ยมๆยิ่งมีคนไปช่วยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นเรื่องดี!” หลิงหยุนไม่ปฏิเสธและยอมให้ทุกคนไปด้วยโดยไม่เอ่ยถามอันใดแม้แต่น้อย..
หลังจากนั้นหลิงหยุนก็ได้เรียกถังเมิ่งกับตี้เสี่ยวอู๋มา และได้ถือโอกาสฝากฝังคนทั้งคู่กับโจวเหวินอี้ และเย่ชิงเฟิง
“อาวุโสทั้งสองนี่คือถังเมิ่งกับตี้เสี่ยวอู๋ พวกเขาล้วนเป็นพี่น้องของข้า ในวันข้างหน้าขอให้พวกท่านช่วยดูแล และปกป้องพวกเขาแทนข้าด้วย”
การที่ทุกคนจะมีโอกาสได้มารวมตัวกันเช่นนี้นับเป็นเรื่องที่เกิดได้ยากยิ่ง หลิงหยุนจึงไม่ยอมทิ้งโอกาสดีๆเช่นนี้ให้เสียเปล่าเป็นแน่
“ระดับสูงสุดขั้นอู่เฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-5)!”
“พรสวรรค์ล้ำเลิศทีเดียว!”
ทั้งโจวเหวินอี้และเย่ชิงเฟิงต่างก็อดที่จะเอ่ยชมตี้เสี่ยวอู๋ไม่ได้แต่หลิงหยุนกลับเพียงแค่ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ..
“เสี่ยวอู๋ก่อนหน้านี้เจ้ายังอยู่ในขั้นเดียวกับข้าอยู่เลย เหตุใดวันนี้จึงได้ล้ำหน้าข้าไปมากเช่นนี้”
หลิงลี่แสร้งทำเป็นบ่นพึมพำแต่สีหน้ากลับเปี่ยมไปด้วยความสุขยิ่งนัก ส่วนตี้เสี่ยวอู๋ก็ได้แต่นิ่งเงียบด้วยความเก้อเขิน
หลังจากนั้นมู่หลงเวิ่นฉีเฉิงเทียน และคนอื่นๆ ต่างก็ทะยอยกันมาแนะนำตัว สำหรับมู่หลงเวิ่นฉีกับเฉิงเทียนนั้น หากไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ระหว่างหลิงหยุนกับมู่หลงเฟยจื่อและเฉิงเม่ยเฟิงแล้วล่ะก็ ด้วยฐานะของพวกเขาทั้งสองคน คงไม่อาจที่จะเข้ามาอยู่ในงานนี้ที่ใหญ่โตนี้ได้เป็นแน่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉิงเทียนที่เวลานี้ถึงกับใจเต้นแรง เมื่อคิดที่จะมาเปิดตลาดทางด้านเหนือของแม่น้ำฮวงโห ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เขายอมให้เฉิงเม่ยเฟิงหมั้นหมายกับหนุ่มเจ้าสำราญอย่างซันจิ้ง ก็ด้วยเหตุผลนี้!
แต่เวลานี้..ไม่เพียงตระกูลซันกับตระกูลเฉินได้ล่มสลายไปแล้ว แต่ทุกคนที่อยู่ต่อหน้าเขาเวลานี้กลับเหนือกว่าสองตระกูลอย่างมากมายนัก! หลังจากนั้นแขกเหรื่อจากห้องอื่นๆ ก็ทะยอยเข้ามาทักทายเหล่าสมาชิกตระกูลหลิงกันอย่างไม่ขาดสาย
และเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ก็ได้บ่งบอกถึงสถานะของตระกูลหลิงในเวลานี้ได้เป็นอย่างดี!
……
แต่ไม่ว่างานเลี้ยงจะยิ่งใหญ่เพียงใดย่อมต้องมีวันเลิกรา งานเลี้ยงวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ของหลิงเสี่ยวก็เช่นเดียวกัน ในที่สุดก็จบลงในเวลาสี่โมงเย็น..
หลังจากงานเลี้ยงจบลงและแขกเหรื่อทะยอยกลับออกไปแล้ว หลิงหยุนจึงได้เรียกหลี่กวนผิงและหลี่จวิ้นหัวให้มาพบ สองพ่อลูกตระกูลหลี่มีสีหน้าที่ตื่นเต้นยิ่งนัก!
“ท่านปู่หลี่ท่านลุงหลี่ งานเลี้ยงวันเกิดของท่านพ่อในวันนี้ ข้าพอใจอย่างยิ่ง ขอบคุณพวกท่านทั้งสองเป็นอย่างมาก!”
หลี่กวนผิงรีบโบกไม้โบกมือพร้อมกับเอ่ยตอบไปว่า“นี่เป็นเรื่องที่ตระกูลหลี่ของข้าสมควรทำยิ่ง ในวันข้างหน้าตระกูลหลี่ของข้าย่อมต้องพึ่งพาอาศัยเจ้าให้ดูแล เรื่องเล็กน้อยเพียงแค่นี้มิควรต้องเอ่ยถึงด้วยซ้ำไป..”
หลี่จวิ้นหัวเองก็พยักหน้าเห็นด้วย“นั่นสิหลิงหยุน! พวกเราต่างก็เสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน อย่าได้เอ่ยอะไรเช่นนี้อีกเลย”
หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยแล้วโอสถเยาว์วัยกับโอสถโฉมสะคราญสามชุด ก็ปรากฏขึ้นในมือของหลิงหยุน
“ท่านปู่หลี่ขอบอกตามตรงว่า โอสถเยาว์วัยที่อยู่ในมือข้าเวลานี้ สามารถทำให้ผู้คนอ่อนเยาว์ลงได้มากถึงห้าสิบปีเลยทีเดียว ที่ข้ายังมิได้มอบให้ก่อนหน้านี้ เพราะเกรงว่าหลังจากที่พวกท่านกลืนเข้าไปแล้ว จะตกอยู่ในสภาพที่กระอักกระอ่วนใจ…”
ระหว่างที่หลิงหยุนกำลังอธิบายนั้นหลี่กวนผิงกับหลี่จวิ้นหัวต่างก็จ้องมองขวดโอสถในมือของหลิงหยุนตาเขม็ง “หลิงหยุน..เรื่องนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องอธิบาย ข้าเห็นท่านปู่ของเจ้า และพ่อของเจ้าก่อนหน้านี้แล้ว ว่าแต่.. นี่เจ้ามิได้ล้อข้าเล่นใช่หรือไม่ เจ้าจะมอบโอสถล้ำค่านี้ให้กับข้าจริงๆรึ?”
“ข้าขอมอบโอสถทั้งสามชุดนี้ให้กับพวกท่านทั้งสองหากเห็นว่าโอสถโฉมสะคราญไม่จำเป็น ก็เก็บไว้มอบเป็นของขวัญได้ ส่วนอีกหนึ่งชุดข้าท่านเก็บสำรองไว้..”
จากนั้นหลิงหยุนก็ได้มอบโอสถทั้งสองขวดให้กับหลี่จวิ้นหัว..
“พวกท่านสามารถกลืนโอสถนี้ได้ทันทีแต่หากยังกังวลใจ ก็สอบถามรายละเอียดจากท่านลุงสองได้”
“เยี่ยม..เยี่ยม..”
หลี่จวิ้นหัวกำขวดโอสถทั้งสองไว้ในมือแน่นพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆปากก็พร่ำเอ่ยออกไปว่า
“หลิงหยุนวันข้าหน้าหากเจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใด ได้โปรดบอกข้า ข้ายินดีที่จะทำทุกอย่าง..”
หลิงหยุนเอ่ยตอบยิ้มๆ“ทั้งการร่วมลงทุนในบริษัทของข้าที่จิงฉู การก่อสร้างบ้าน รวมถึงงานเลี้ยงในวันนี้ ท่านลุงหลี่ได้ทำมามากพอแล้ว ในวันข้างหน้า.. พวกเราสองตระกูลจะจับมือก้าวเดินไปด้วยกัน!”
หลังจากได้ฟังคำพูดของหลิงหยุนสองพ่อลูกตระกูลหลี่ถึงกับสะอึกสะอื้น เพราะคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะดีต่อพวกตนถึงเพียงนี้
สองพ่อลูกตระกูลหลี่ต่างก็รู้ดีว่าเรื่องที่หลิงหยุนเอ่ยมาทั้งสามเรื่องนั้น เทียบไม่ได้เลยกับโอสถทั้งสามชุดที่หลิงหยุนได้มอบให้ แต่ความจริงต้องพูดว่าเทียบไม่ได้เลยกับโอสถแม้เพียงเม็ดเดียวจึงจะถูกต้อง..
อีกทั้งหลิงหยุนไม่ใช้คำว่าเขาจะปกป้องตระกูลหลี่แต่กลับใช้คำว่า จับมือเดินไปข้างหน้าด้วยกัน!
นั่นเท่ากับให้หน้าตระกูลหลี่ยิ่งนัก! หลังจากนั้นหลิงหยุนก็จากไป..
“จวิ้นหัวพรุ่งนี้เจ้าจัดการส่งของขวัญไปที่ตระกูลหลิง ในวันข้างหน้าเจ้าต้องซื่อสัตย์ต่อหลิงหยุน ตระกูลหลิงเพิ่งจะได้รับกิจการกลับมาอีกมากมาย ฉะนั้น จากนี้ไปตระกูลหลิงจะร่ำรวยมากกว่าตระกูลหลี่ของเราไม่รู้เท่าไหร่”
“ลูกเข้าใจดีท่านพ่อวางใจได้!”
เวลานี้พ่อลูกตระกูลหลี่ต่างก็ได้แต่ขอบคุณสำหรับของขวัญที่หลิงหยุนได้มอบให้ในวันนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร