บทที่ 1551 : ฆ่าข่มขวัญ
หลิงหยุนยืนมองด้วยสีหน้านิ่งเรียบเย็นชาและเวลานี้ ภายใต้จิตหยั่งรู้ของเขาก็สำรวจพบชาวยุทธอีกมากกว่าร้อยคนอยู่ภายในรีสอร์ทใหญ่แห่งนี้ และส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ร่างเตี้ยและมีผิวคล้ำ จากเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่นั้น บ่งบอกว่าเป็นชาวยุทธในแถบหนานหยางทั้งสิ้น
ดูเหมือนศัตรูของเขาจะวางแผนคุ้มกันแน่นหนาเช่นนี้มานานแล้ว!
ในเมื่อแม้แต่โจวเหวินอี้ยังมอบภารกิจพิเศษในการสะกัดกั้นชาวยุทธหนานหยางมิให้เข้าสู่ประเทศจีนหลิงหยุนจึงไม่คิดที่จะปราณีพวกมันเช่นกัน..
พลังปราณภายในร่างของหลิงหยุนได้พุ่งผ่านนิ้วตรงเข้าสู่จุดกึ่งกลางหว่างคิ้วของชาวยุทธหนานหยางทั้งหก แล้วพวกมันก็ทรุดลงไปกองกับพื้นในทันที
“ตามข้ามา!” หลิงหยุนร้องสั่งทุกคนแล้วทั้งหมดก็เดินตรงเข้าไปในรีสอร์ททันที..
พรึบ..พรึบ.. พรึบ..
ร่างคนนับสิบกว่าร่างพุ่งทะยานออกมาจากทั่วทุกสารทิศของรีสอร์ทแห่งนี้และมายืนขวางหน้าหลิงหยุนกับพวกไว้ทันที
“ช้าก่อนสหาย!”
หนึ่งในนั้นเป็นชายร่างสูงสวมเสื้อคลุมตัวสั้น ในมือถือกระบี่ยาว และสามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว
หลิงหยุนจ้องมองชายร่างสูงที่เดินตรงเข้ามาหาคนผู้นั้นยกมือขึ้นประสานตรงหน้าโน้มศรีษะลงเล็กน้อย พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า
“ข้า..หัวเชาฟานเป็นมือกระบี่จากสำนักกระบี่หนานไห่ เป็นแขกของตระกูลเหอ ไม่ทราบว่าข้าขอทราบนามของสหายจะได้หรือไม่”
“ข้านามว่าหลินเทียนเป็นชาวยุทธจากฝั่งทะเลจีนตะวันออก..” เวลานี้หลิงหยุนไม่ได้เกรงว่าจะมีใครจดจำเขาได้หรือไม่ เพราะก่อนที่จะเข้ามานั้น เขาได้ทำการเดินลมปราณในร่าง ทำการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไว้ก่อนแล้ว แม้ร่างกายของเขาจะมิได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่ใบหน้าที่เคยหล่อเหลานั้น ได้ถูกปรับแต่งให้มีโครงหน้าคล้ายกับชาวยุทธในแถบทะเลจีนตะวันออก เวลานี้จึงไม่สามารถใช้คำว่าหล่อเหลากับเขาได้อีก!
หลังจากแนะนำชื่อปลอมของตนเองไปแล้วหลิงหยุนจึงได้ย้อนถามกลับไปว่า “สำนักกระบี่หนานไห่ คงจะเป็นผู้ฝึกวรยุทธบ่มเพาะในแถบทะเลจีนใต้สินะ..”
“เอ่อ..เรื่องนั้น..”
หัวเชาฟานค่อนข้างรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันทีเพราะเขาสัมผัสได้ว่า หลินเทียนผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นปรปักษ์กับชาวยุทธฝั่งทะเลจีนใต้
หัวเชาฟานอึกอักและตอบหลิงหยุนกลับไปตามตรง ในเมื่อหลิงหยุนมากับเหออวี้ฉงจึงไม่มีประโยชน์อันใดจะต้องปกปิดความจริง
หลิงหยุนได้แต่นึกหยัน..
หัวเชาฟานยิ้มให้หลิงหยุนพร้อมกับเป็นฝ่ายถามขึ้นว่า “สหายหลิน ไม่ทราบว่าเจ้ามีเรื่องบาดหมางอันใดกับตระกูลเหองั้นรึ จึงได้บุกมากลางดึกเช่นนี้”
หลิงหยุนตอบกลับอย่างนึกขัน“หัวชาวฟาน เจ้าเลิกแสร้งทำเป็นโง่เสียที! ข้าก็พาแม่นางเหอมาพบท่านปู่ของนางน่ะสิ!”
“เหตุผลเพียงเท่านี้สหายหลินถึงกับต้องสังหารผู้คนเชียวรึ”
“ข้าไม่ถูกชะตากับพวกเขาก็เลยสังหารทิ้งเสีย..”
“…”
หัวเชาฟานถึงกับนิ่งอึ้งไปด้วยความตกตะลึงหลังจากหันมองไปรอบตัว จึงได้เอ่ยขึ้นว่า “สหายหลิน ไม่ว่าจะเป็นชาวยุทธฝั่งทะเลยจีนตะวันออก หรือทะเลจีนใต้ พวกเราต่างก็เป็นคนเหมือนกัน เหตุใดจึงต้องกล่าววาจาเช่นนี้ด้วยเล่า”
“ข้าไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว..”
น้ำเสียงของหลิงหยุนเปลี่ยนเป็นเย็นชาก่อนจะเอ่ยต่อว่า “หากเจ้ายังไม่ถอยออกไป และพยายามที่จะถ่วงเวลาข้าเช่นนี้ ก็อย่าได้หาว่าข้าทำเกินไปก็แล้วกัน..”
หลังจากถูกหลิงหยุนบีบบังคับหัวเชาฟานก็เริ่มรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะเป็นคนไร้เหตุผลไม่น้อย!
“คุณชายหัวข้าขอแนะนำให้ท่านถอยออกไปแต่โดยดีจะดีกว่า..”
เหออวี้ฉงย่อมรู้จักหัวเชาฟานเป็นอย่างดีเพราะเขาเป็นแขกท่านลุงของนาง แม้หัวเขาฟานจะทำงานให้กับท่านลุงของนาง แต่ก็หาใช่คนเลวร้ายอะไรไม่ นางจึงไม่ต้องการให้หัวเชาฟานต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้
หัวเชาฟานเอ่ยตอบยิ้มๆ“แม่นางเหอได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย หากวันนี้เจ้ามาที่นี่ตามลำพัง ข้าย่อมสามารถปล่อยเจ้ากลับไปได้ แต่เวลานี้.. ”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องปล่อยพวกเราไป..”
ยังไม่ทันที่หัวเชาฟานจะกล่าวจบหลิงหยุนก็ได้ใช้วิชาเงาลวงตาพุ่งตรงเข้าใส่ยอดฝีมือสิบกว่าคนที่ยืนขวางทางอยู่อย่างรวดเร็ว
หมัดปีศาจเถียนกัง!
ปัง!
เสียงกำปั้นกระแทกเข้ากับร่างของยอดฝีมือสิบกว่าคนดังขึ้นเกือบจะพร้อมกัน จากนั้นไม่ถึงสามวินาที เสียงกรีดร้องของยอดฝีมือทั้งหมดก็ดังขึ้น!
ในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตายอดฝีมือทั้งสิบห้าคนต่างก็กระดูกหักกันหมด มีเพียงหัวเชาฟานเท่านั้นที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมอย่างปลอดภัย และกำลังจ้องมองยอดฝีมือที่เชี่ยวชาญวิชามวยไทยล้มลงไปกองกับพื้นต่อหน้าต่อตา เวลานี้ทั้งสิบห้าคนต่างก็กำลังกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ยอดฝีมือที่ฝึกวิชามวยไทยนั้นจะต้องผ่านการฝึกฝนจนถึงจุดที่กระดูกซี่โครงแข็ง และกระดูกทั่วร่างแกร่งดั่งโลหะเลยทีเดียว และสามเตะเส้าหินหักได้อย่างง่ายดาย!
แต่เวลานี้ทั้งหมดกลับไม่สามารถต้านทานยอดฝีมือจากทะเลจีนตะวันออกเพียงแค่คนเดียวได้ ถึงกับลงไปนอนกองอย่างหมดสภาพอยู่ที่พื้น!
แต่แน่นอนว่านั่นยังไม่ใช่สภาพที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดกำลังจะเกิดขึ้นกับอีกฝ่าย..
ต่อหน้ายอดฝีมือจากผืนทะเลจีนใต้ทั้งทีเป็นไปไม่ได้ที่หลิงหยุนจะไม่สร้างความน่าสะพรึงกลัวให้ตราตรึงใจได้
“ที่ข้ายังปล่อยให้เจ้ายืนอยู่เช่นนี้ได้ก็เพื่อที่จะถามเจ้าอีกครั้งว่า จะให้พวกข้าผ่านเข้าไปได้หรือยัง”
หลิงหยุนจ้องมองที่ข้อมือของอีกฝ่ายพร้อมกับเอ่ยถามยิ้มๆ
หัวเชาฟานเป็นถึงมือกระบี่ที่เข้าสู่ขั้นพลังเหนือธรรมชาติแล้วแต่เวลานี้กลับไม่กล้าแม้แต่จะชักกระบี่ของตนเองออกมา เขาจ้องมองหลิงหยุนแน่นิ่ง พร้อมกับเป็นฝ่ายยอมแพ้เอง..
“ขอบคุณอาวุโสที่เมตตา..”
และเวลานี้หัวเชาฟานก็ไม่กล้าแม้แต่จะเรียกหลิงหยุนว่าสหายอีกจึงรีบเปลี่ยนคำเรียกขานเป็นอาวุโสทันที
“หึ!”
หลิงหยุนทำเสียงเย้ยหยันอยู่ในลำคอก่อนจะปลดปล่อยพลังปราณผ่านนิ้วชี้ เข้าใส่ร่างของนักมวยไทยที่นอนกรีดร้องอยู่บนพื้น จากนั้นพวกมันทั้งหมดก็ไม่สามารถส่งเสียงร้องได้อีกเลย
หัวเชาฟานเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับแข้งขาสั่นเหงื่อเย็นไหลเต็มร่างและใบหน้า แต่ก็พยายามที่จะสะกดกั้นความหวาดกลัวให้อยู่เพียงแค่ภายในใจของตนเท่านั้น และเวลานี้เขาก็หวาดกลัวจนแทบไม่กล้าหายใจ หลินเทียนผู้นี้สามารถสังหารผู้คนได้โดยไม่กระพริบตา!
หลิงหยุนเดินนำหน้าไปและเมื่อเหออวี้ฉงเดินผ่านหัวเชาฟาน เขาก็รีบกระซิบบอกไปว่า “แม่นางเหอ ขอบคุณที่เจ้าเมตตาเตือนข้าก่อนหน้านี้..”
เหออวี้ฉงเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น..
นั่นเพราะนางรู้ดีว่าการที่หลิงหยุนไว้ชีวิตของหัวเชาฟานนั้น เป็นเพราะเขาไม่ต้องการสังหารต่างหาก เพราะหากหลิงหยุนต้องการสังหารผู้ใด ต่อให้นางเตือนไปก็คงไร้ประโยชน์
ทั้งหมดเดินผ่านหัวเชาฟานไปแต่เพียงไม่ถึงสิบเมตร พวกเขาก็พบเห็นกลุ่มคนราวเจ็ดแปดคน กำลังเดินตรงเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทางรีบร้อน
จากแสงไฟภายในบริเวณรีสอร์ทและกลุ่มคนเหล่านั้นก็ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น หลังจากที่เห็นหน้าคนผู้หนึ่งชัดเจน เหอองี้ฉงจึงได้ร้องตะโกนถามออกไปว่า “เหอไฉทงแกคงนำตัวท่านปู่มาซ่อนไว้ที่นี่สินะ”
หลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่าในที่สุด ตัวการก็ปรากฏตัวแล้วสินะ!
เหอไฉทงเป็นบุตรชายคนโตของเหอเหวินช่านซึ่งเป็นปู่ของเหออวี้ฉงและมีศักดิ์เป็นลุงของนาง เวลานี้มีคนบุกเข้ามาสังหารยอดฝีมือตายพร้อมกันถึงยี่สิบกว่าศพ มีหรือที่เหอไฉทงจะไม่หวาดกลัว และทนนิ่งเฉยอยู่ได้
จะไม่ให้เหอไฉทงหวาดกลัวได้อย่างไรกันเล่าในเมื่อชายเหนุ่มที่มาในคืนนี้ทั้งเก่งกาจ และโหดเหี้ยมไม่ต่างจากเทพสังหาร แต่ต่อให้หวาดกลัวมากเพียงใด เขาก็ต้องแข็งใจออกมาอยู่ดี..
เขาเองเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่ต้องการที่จะฮุบกิจการทั้งหมดของตระกูลเหอเท่านั้น มีหรือที่จะเคยพบเจอการต่อสู้ และการสังหารที่โหดเหี้ยมเช่นนี้มาก่อน!
“อวี้ฉงครั้งนี้หลานเข้าใจลุงผิดไปมากจริงๆ เวลานี้อาการของท่านพ่อดีขึ้นมาก ลุงไม่ได้นำตัวท่านพ่อมากักขังไว้อย่างที่หลานคิดเลยนะ แต่เป็นท่านพ่อเองต่างหากที่ขอให้ลุงพามาอยู่ที่นี่ เพราะต้องการอยู่อย่างเงียบสงบ..”
เหอไฉทงรีบอธิบายให้เหออวี้ฉงฟังทันทีพร้อมกับหันมองไปทางหลิงหยุนด้วยเหงื่อที่อาบเต็มใบหน้าและลำตัว พร้อมกับยิ้มให้เขา
“ท่านลุงท่านพูดเพ้อเจ้ออะไรกัน ท่านปู่นอนไม่ได้สติมาตั้งนานแล้ว จะสามารถขอให้ท่านลุงพามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน?”
เหออวี้ฉงรีบวิ่งเข้าไปหาหลิงหยุนพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางเหอไฉทง พร้อมกับตอบโต้ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดโมโห
“อวี้ฉง..ลุงจะโกหกหลานไปทำไมกันลุ่ ถ้าหลานไม่เชื่อก็เข้าไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง พาคุณชายหลินท่านนี้เข้าไปด้วยก็ได้ จะได้รู้ว่าท่านปู่ของหลานดีขึ้นมากแค่ไหนแล้ว?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร