บทที่ 1555 : เหตุที่ต้องสังหาร
“นั่น..นั่นมันไขหยกม่วง!!”
คุนปาจ้องมองสิ่งที่หลิงหยุนนำออกมาด้วยแววตาเป็นประกายเขาตื่นเต้นจนไม่อาจบังคับปกปิดไว้ได้อีก และถึงกับก้าวเดินเข้าไปหาหลิงหยุนอย่างลืมตัว
ความจริงแล้วเมื่อหนึ่งเดือนกว่าก่อนหน้านี้ ยอดฝีมือทั้งสามที่ไปโรงประมูลตระกูลเย่กับเหออวี้ฉงนั้น แท้จริงก็คือลูกศิษย์ของคุนปานี่เอง และข้อความสุดท้ายที่พวกมันส่งจากเครื่องมือสื่อสารก่อนจะสิ้นใจนายนั้น ก็ส่งรายงานให้คุนปารู้นั่นเอง
“หลิงหยุน!!เป็นเจ้าจริงๆ!”
คุนปาหาใช่คนตาบอดมองไม่เห็นหลังจากจ้องมองไขหยกม่วงด้วยความตื่นเต้นตกใจอยู่ครู่ใหญ่ ก็ค่อยๆเคลื่อนสายตาขึ้นไปจ้องมองใบหน้าของหลิงหยุนแทน
“ถูกต้องแล้ว!เป็นข้าเอง!” หลิงหยุนจัดการเก็บไขหยกม่วงในมือกลับเข้าไปไว้ในแหวนจักรวาลดังเดิมแม้เวลานี้เขาจะไม่ล่วงรู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของคุนปา แต่ก็มิได้รู้สึกกังวลใจว่าอีกฝ่ายจะหนีรอดไปได้
ระดับสูงสุดขั้นก่อสร้างฐานแล้วอย่างไร
ในเมื่อหลิงหยุนเองก็เคยสังหารตี๋เฮ่ออี้ซึ่งเป็นมือกระบี่ที่นับว่ามีพรสวรรค์ล้ำเลิศยิ่ง และอยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐานมาแล้วเช่นกัน
แต่ครั้งนั้นด้วยความกังวลใจว่า พลังบ่มเพาะของตนเองยังอ่อนด้อยกว่าอีกฝ่ายนัก หลิงหยุนจึงจำเป็นต้องใช้วิชาพลังมังกร ช่วยเพิ่มพลังบ่มเพาะในกายให้แข็งแกร่งจากเดิมถึงสามเท่า เพื่อป้องกันมิให้อีกฝ่ายสามารถหนีรอดไปได้
แต่เวลานี้หลิงหยุนเข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นลิ่วเฉงชี่ (ขั้นพลังชี่-6) แล้ว ไม่เพียงเขาจะสามารถเคลื่อนที่ไปได้อย่างรวดเร็ว แต่เวลานี้ของวิเศษในมือเขา ก็ได้ถูกหลอมใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกระบี่เหินเงาธนู กระบี่กังฉี หรือหอกมังกรทอง ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นของวิเศษในระดับสมบัติ ที่สามารถฝ่าเกราะป้องกันของยอดฝีมือที่อยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐานได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังจะสามารถสร้างความเสียหายบาดเจ็บให้กับร่างกายของอีกฝ่ายได้ด้วยเช่นกัน
และหลิงหยุนเองก็พอที่จะประเมินพลังและความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้ เพราะก่อนหน้านี้ที่เขาแอบจู่โจมคุนปาโดยมิให้ทันตั้งตัวได้นั้น นอกจากต้องการบีบให้คุนปาคลายการควบคุมจิตใจของผู้เฒ่าเหอแล้ว ก็เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายด้วย
แต่ยิ่งในเวลาที่อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้หลิงหยุนจึงไม่ต่างจากมังกรที่แข็งแกร่ง จึงมิได้ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว หรือหวั่นเกรงคุนปากเลยแม้แต่น้อย!
หลังจากที่ได้เห็นหลิงหยุนนำไขหยกม่วงออกมาโอ้อวดเช่นนั้นคุนปาก็ถึงกับนิ่งอึ้งไป และดูเหมือนจะไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ครู่ใหญ่ แต่ความจริงแล้วเขากำลังแอบร่ายมนต์คาถาอยู่ในใจเงียบๆต่างหากและเวลานี้ จู่ๆรัศมีสว่างสีดำก็ปรากฏขึ้นรอบกายของคุนปา
หลังจากนั้นไม่นานบาดแผลที่เกิดจากการถูกกระบี่กังฉีปักเข้าที่ท้องน้อยของเขา ก็ค่อยๆเลือนหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ และสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ด้วยตาเปล่า
แต่หลิงหยุนกลับมิได้หยุดยั้งหรือขัดขวางอีกฝ่าย นั่นเพราะกระบี่กังฉีของเขานั้นเป็นของวิเศษระดับสมบัติ หากผู้ใดถูกกระบี่กังฉีทำร้ายจนบาดเจ็บเข้า ไม่เพียงจะเกิดบาดแผลภายนอกเท่านั้น แต่กระบี่กังฉียังสามารถทำลายไปถึงเส้นลมปราณภายในร่างอีกด้วย
แม้เวลานี้คุนปาจะสามารถรักษาบาดแผลภายนอกให้หายได้แต่ก็เป็นการรักษาเพียงแค่ระดับผิวหนัง เพื่อป้องกันมิให้โลหิตไหลออกมามากกว่านี้เท่านั้น จะได้สะดวกต่อการต่อสู้กับศัตรูได้ง่ายขึ้นเท่านั้นเอง
“คุณชายหลิงข้าได้ยินมาว่าเจ้าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างยิ่งของชาวยุทธในประเทศจีน ภายในเวลาไม่ถึงปี สามารถก้าวหน้าได้รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ และตระกูลของเจ้าก็นับเป็นตระกูลสูงสุดของประเทศจีนในเวลานี้อีกด้วย”
หลังจากที่รักษาอาการบาดเจ็บได้แล้วคุนปาก็ได้กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พวกเราชาวยุทธฝั่งทะเลจีนใต้ มิเคยมีเรื่องบาดหมางกับเจ้า แม้กระทั่งเจ้าแย่งชิงไขหยกม่วงจากข้าไป ข้าเองก็ยังมิเคยส่งลูกศิษย์ไปแก้แค้น แต่เหตุใดเจ้าจึงได้ตามจองล้างจองผลาญพวกเราไม่เลิกเช่นนี้!”
“เจ้ากล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกันนี่เจ้ากำลังคิดจะเจรจาต่อรองกับข้างั้นรึ?!”
หลังจากที่ได้ฟังพอลแปลคำพูดของคุนปาหลิงหยุนจึงได้แต่เอ่ยถามออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ถูกต้อง..” คุนปาไม่รอช้าและได้เอ่ยเข้าเรื่องสำคัญในทันที “ไขหยกม่วงนี้นับเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นที่ต้องการของข้ายิ่งนัก หากเจ้ายอมคืนไขหยกม่วงให้กับข้าแต่โดยดี ข้าคุนปารับปากจะปล่อยเจ้าไป และความบาดหมางที่เคยมีมาทั้งหมดก็จะเป็นอันยุติ!
“ไม่เพียงเท่านั้นนับแต่นี้เป็นต้นไป หากเจ้าเดินทางมาแถบทะเลจีนใต้อีกเมื่อใด พวกเราชาวยุทธฝั่งหนานหยาง จะต้อนรับขับสู้เจ้าเสมือนแขกคนหนึ่ง..”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายหลิงหยุนถึงกับอดไม่ได้จนต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะถามคุนปากลับไปด้วยความสนอกสนใจ
“ฮ่าๆๆท่านอาจารย์คุนปา! ไม่ทราบว่าเจ้าฝึกวิชาอะไรกันแน่ จึงทำให้ความคิดและจิตใจของเจ้ามีปัญหา จนไม่สามารถประเมินสถานการณ์ในเวลานี้ได้ เจ้าใคร่ครวญดีแล้วรึ จึงได้กล้ามาต่อรองกับข้าเช่นนี้”
“เวลานี้..เจ้าต่างหากที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ไม่เพียงเจ้าไม่ร้องขอความเมตตาจากข้า แต่กลับบังอาจมาต่อรองขอให้ข้ามอบไขหยกม่วงให้อีกงั้นรึ”
คุนปาส่ายหน้าช้าๆและตอบกลับไปว่า “คุณชายหลิง ข้ารู้ดีว่าเจ้านั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่หากเจ้าพร้อมกับพรรคพวก รวมถึงมังกรตัวนั้น ต้องการที่จะหนีไปจากที่นี่ ข้าเกรงว่าคงจะเป็นเรื่องยากเสียแล้ว!”
หลิงหยุนถึงกับนิ่งอึ้งไปจนพูดอะไรไม่ออกเพราะคิดไม่ถึงว่า คุนปาจะโอ้อวดจนลืมนึกถึงความเป็นจริงเช่นนี้!
แต่คุนปาก็ไม่รอช้าเขารีบพูดต่อในทันที “คุณชายหลิง ข้าขอบอกกับเจ้าตามตรง เมื่อครู่ในระหว่างที่เจ้าไล่ล่าข้ามานั้น ข้าได้ใช้เครื่องมือสื่อสารในมือ รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรีสอร์ททั้งหมดให้สหายของข้าล่วงรู้แล้ว ต่อให้เจ้าจะสามารถสังหารข้าได้ แต่เจ้าจะก็จะต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือฝั่งทะเลจีนใต้นี้อีกมากมาย”
นอกจากจะกล้าต่อรองแล้วคุนปายังกล้าข่มขู่หลิงหยุนอีกด้วย!
หลิงหยุนแสยะยิ้มเล็กน้อยและหลังจากที่ปล่อยให้อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอ และพล่ามจนพอใจแล้ว เขาจึงได้ถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เอาล่ะเจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกหรือไม่ หากมี ข้าจะให้โอกาสเจ้าพูดออกมาให้หมดก่อนที่เจ้าจะตาย!”
หลังจากที่เห็นสีหน้าท่าทางของหลิงหยุนที่ไม่เพียงไม่หวาดกลัวต่อคำขู่ของตน แต่ยังดูเหมือนไม่แยแสอีกด้วย ทำให้คุนปาถึงกับเดือดดาลขึ้นมาทันที เขาก้าวเท้าออกไปข้างหน้า พร้อมกับร้องตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
“หลิงหยุน!!ที่ข้าอดทนอดกลั้นเจรจากับเจ้าอย่างสันติ หาใช่เพราะข้าหวาดกลัวเจ้าไม่! แต่หากเจ้ายังคงพูดจาสามหาวเช่นนี้ ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของข้า!”
บูม! จู่ๆรอบกายของคุนปาก็ปรากฏแสงสว่างสีดำเจิดจ้า แล้วสร้อยข้อมือสีดำที่คุนปาสวมใส่อยู่นั้น ก็ได้ลอยออกมาพร้อมกับขยายใหญ่ขึ้นในทันที และเวลานี้มันก็มีขนาดใหญ่เท่ากับล้อรถ ลอยขวางหน้าหลิงหยุนไว้
จากนั้นจี้รูปกระบองสีดำที่ลำคอของคุนปาก็ลอยออกมาเช่นเดียวกัน และเวลานี้มันก็ได้ขยายใหญ่กลายเป็นกระบองยาวกว่าสองเมตร ลอยอยู่เหนือศรีษะของคุนปา แสงสีดำเจิดจรัสเปล่งประกายรอบกระบองใหญ่นั้น และเวลานี้ปลายกระบองก็พุ่งเป้าไปที่ร่างของหลิงหยุน
ของวิเศษทั้งสองชิ้นของคุนปานี้ชิ้นหนึ่งทำหน้าที่เป็นอาวุธจู่โจม ส่วนอีกชิ้นทำหน้าที่เป็นอาวุธป้องกัน!
เวลานี้..ดูเหมือนคุนปากำลังพยายามที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตน ให้หลิงหยุนได้เห็น เพื่อให้อีกฝ่ายเกรงกลัวจนยอมแพ้ และล่าถอยกลับไป
“เอาล่ะ..ในเมื่อเจ้าไม่มีสิ่งใดจะพูดแล้วข้าก็มีสองเรื่องที่จะต้องบอกกับเจ้า!”
ครั้งนี้หลิงหยุนเป็นฝ่ายพูดบ้างเขาจ้องมองของวิเศษทั้งสองของคุนปาอย่างไม่แยแสนัก พร้อมกับเอ่ยออกไปว่า
“เรื่องแรกหากข้ามิได้เห็นไขหยกม่วงในวันนั้นก็คงไม่มีอะไร แต่ในเมื่อข้าได้พบเห็นมันแล้ว ข้าย่อมไม่มีวันปล่อยให้มันหลุดไปอยู่ในมือผู้อื่นแน่ โดยเฉพาะเจ้า! อีกทั้งในคืนวันประมูลนั้น เป็นศิษย์ทั้งสามของเจ้าที่จงใจประมูลแข่งกับข้า ฉะนั้นจึงนับเป็นความโง่เขลาของพวกมันเอง..”
“เรื่องที่สอง..คุนปา หากเจ้าเพียงแค่ต้องการช่วยเหอไฉงทงยึดครองมรดกของตระกูลเหอเท่านั้น ข้าคงจะมิได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก แต่ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็มีจุดประสงค์ที่มากกว่านั้น แลข้าขอบอกกับเจ้าว่า มันไม่ง่ายเช่นนั้นแน่! ”
“เจ้าไม่เพียงควบคุมเหอไฉทงให้ต้องฟังคำสั่งของเจ้าแต่เจ้ายังคิดที่จะเอาชีวิตของเหอเหวินช่านอีกด้วย และการที่เจ้าต้องการควบคุมตระกูลเหอไว้ในกำมือเช่นนี้ ก็เพราะต้องการที่จะทำให้ชาวยุทธฝั่งหนานหยางแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่จะได้เข้าไปสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศของข้าต่อไป..”
“เหตุผลเพียงแค่นี้ก็เพียงพอที่จะให้ข้าสังหารชาวยุทธฝั่งทะเลจีนใต้ได้แล้ว!”
หลิงหยุนหยุดนิ่งไปเพียงเท่านั้นและกำลังรอคอยให้พอลแปลคำพูดทั้งหมดของตนให้คุนปาฟัง หลังจากนั้น จึงได้ถามขึ้นว่า
“คราวนี้เจ้าเข้าใจแล้วใช่หรือไม่”
“ในเมื่อเข้าใจแล้วเจ้าก็เตรียมตัวตายได้!”
บูม!
หอกมังกรทองสั่นสะท้านอย่างรุนแรงแสงสีทองเจิดจรัสเปล่งประกายไปทั่ว ก่อนจะพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของคุนปาอย่างรวดเร็ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร