Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1572

บทที่ 1572 : ตกหลุมพราง
  “เชิญนั่งก่อนสิ!”
  หลังจากที่ผู้จัดการเฟิ่งออกไปแล้วโจวเหยากวงก็ได้ผายมือเชื้อเชิญหลิงหยุนกับเซิ่งหยิงหยิงให้นั่งลง ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มเล็กน้อย
  “เป็นเพราะมีเรื่องสำคัญเร่งด่วนจึงต้องเชื้อเชิญพวกคุณทั้งสองเข้ามาพบ หากห้องนี้เล็กไป หรือมีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง ผมต้องขออภัย และขอให้พวกคุณทั้งสองอย่าได้ถือสา..”
  หลิงหยุนเข้าใจดีว่าที่โจวเหยากวงบอกว่ามีเรื่องเร่งด่วนนั้น เป็นเพราะเขาคงเกรงว่า ตนกับเซิ่งหยิงหยิงจะรีบนำเงินหนึ่งร้อยล้านนี้ออกจากแซนด์คาสิโนเสียก่อน
  และหากเป็นเช่นนั้นจริงนักพนันคงจะนำไปพูดกันปากต่อปาก และแซนด์คาสิโนคงจะกลายเป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่น และต้องเสียหน้าอย่างมากเป็นแน่  โจวเหยากวงลุกขึ้นเดินไปปิดประตูห้องวีไอพีอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจก่อนจะหันกลับมาถามคนทั้งสองว่า “ไม่ทราบว่าคุณสองคนต้องการดื่มเครื่องดื่มอะไรดี”
  ที่นี่เป็นห้องวีไอพีภายในจึงค่อนข้างโอ่โถงกว้างใหญ่ หากไม่มีโต๊ะพนันตั้งอยู่กลางห้องแล้วล่ะก็ ห้องนี้ก็ดูเหมือนห้องนั่งเล่นหรูหราขนาดใหญ่นั่นเอง
  หลิงหยุนและเซิ่งหยิงหยิงเดินไปนั่งคู่กันอยู่บนโซฟาตัวหนึ่งแทนที่จะไปนั่งอยู่ที่โต๊ะพนันซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง
  หลิงหยุนหันไปยิ้มให้กับโจวเหยากวงพร้อมตอบกลับไปว่า “ไม่ดีกว่าครับคุณโจว คุณมีเรื่องอะไร ก็พูดออกมาตรงๆจะดีกว่า!”
  “ดี!”
  โจวเหยากวงเดินไปนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามคนทั้งสองเขาจ้องมองเซิ่งหยิงหยิงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงหันไปมองหลิงหยุน ก่อนที่จะหยุดจ้องมองใบหน้าของเขาแน่นิ่งอยู่เช่นนั้นครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยขึ้นในที่สุด  “ความจริงแล้วผมเองไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริงของแซนด์คาสิโน ผมมีหุ้นอยู่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น..”
  โจวเหยากวงใช้ภาษาจีนแมนดารินในการสื่อสารแต่ดูเหมือนจะยังไม่คล่องนัก แต่ก็สามารถสื่อสารกับหลิงหยุนให้เข้าใจได้
  เซิ่งหยิงหยิงหันไปกระซิบข้างหูหลิงหยุน“พื้นเพของเขาเป็นคนมาเก๊า อีกทั้งยังมีอำนาจอิทธิพลในมาเก๊าไม่น้อยด้วย”
  หลิงหยุนเพียงแค่พยักหน้ารับรู้แต่มิได้ตอบอะไรกลับไป..
  ตามกิจวัตรหลังจากที่ฉันแจ้งประตูบ้านแล้ว คุณควรพูดชื่อเจ้าของบ้านด้วย แล้วพูดว่าอะไรคือความหมายของผู้โชคดี
  โดยมารยาทนั้นหลังจากที่โจวเหยากวงแนะนำตัวเองแล้ว หลิงหยุนควรจะต้องเป็นฝ่ายแนะนำตัวเองกลับเช่นกัน แต่อีกฝ่ายกลับยังคงนิ่งเงียบ..
  เซิ่งหยิงหยิงไม่ต้องการให้สถานการณ์ภายในห้องตึงเครียดนักนางจึงเป็นฝ่ายกล่าวขึ้นว่า “คุณโจว.. หลินเทียนเป็นนิ่งเงียบ และค่อนข้างพูดน้อย!”
  “คุณหลินเป็นชายหนุ่มที่สง่างามอีกทั้งยังดูเก่งกาจหลายด้านอีกด้วย! นับเป็นความโชคดีของผมที่ได้พบเจอคุณหลินโดยบังเอิญ!”
  โจวเหยากวงรู้ว่าเซิ่งหยิงหยิงได้หาทางลงที่งดงามให้กับตน จึงรีบคว้าโอกาสนั้นไว้ พร้อมกับหันไปมองด้วยแววตาขอบคุณ
  “คุณหลินคงจะมาจากจีนแผ่นดินใหญ่สินะครับ”
  “ไม่เลวนี่!”
  “หากผมคาดเดาไม่ผิดนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่คุณหลินเดินทางมาเก๊าสินะ”
  “ใช่!”
  “เท่าที่ผมรู้มาคุณหลินคงไม่ได้ผ่านขั้นตอนของด่านตรวจคนเข้าเมืองสินะ”
  หลิงหยุนได้ยินถึงกับปรายตามองโจวเหยากวงทันทีและได้แต่คิดในใจว่า คนของแซนด์คาสิโนคงจะมีอิทธิพลไม่น้อยทีเดียว ถึงกับสามารถตรวจสอบได้แม้กระทั่งเรื่องนี้
  “ถูกต้อง!”
  แน่นอนว่าหลิงหยุนเข้ามาโดยไม่ได้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองจริงๆเพราะเขาเหาะมา..
  “แต่นั่น..”
  โจวเหยากวงอ้ำอึ้งเพราะไม่กล้าที่จะพูดออกไปตรงๆว่า การที่หลิงหยุนเข้ามาโดยไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองนั้น นับเป็นการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย
  “มีปัญหางั้นรึ”หลิงหยุนเอ่ยถามยิ้มๆ
  โจวเหยากวงรีบโบกไม้โบกมือพร้อมกับตอบไปว่า “คุณหลินอย่าเพิ่งเข้าใจทางเราผิด..”
  “ในเมื่อไม่มีปัญหาอะไรไม่ทราบเหตุใดจึงต้องถามเรื่องนี้ขึ้นมา ดูเหมือนว่าคุณโจวต้องการที่จะรู้ฐานะของผมให้ได้?” หลิงหยุนย้อนถาม  “เอ่อ..คุณหลินเข้าใจผมผิดไปมาก! ในเมื่อคุณหลินเป็นแฟนของคุณหนูเซิ่ง ผมก็แค่อยากจะทำความรู้จักกับคุณหลินให้มากกว่านี้เท่านั้นเอง!”
  “งั้นรึผมคิดว่าคุณโจวจะเรียกตำรวจมาจับตัวผมเสียอีก!”
  “คุณหลินอย่าได้กล่าวเช่นนั้นเลยครับถ้าผมคิดจะทำอะไรแบบนั้นจริงๆ ผมจะต้อนรับ และจัดเตรียมห้องพักให้ทำไมกัน”
  หลังจากที่ถูกหลิงหยุนต้อนจนมุมโจวเหยากวงก็รีบหันไปพูดกับเซิ่งหยิงหยิงยิ้มๆ “คุณหนูเซิ่ง แฟนของคุณเป็นคนพูดน้อยก็จริง แต่พูดออกมาที ทำเอาผมตอบไม่ถูกเลย!”
  “ค่ะ..”
  เซิ่งหยิงหยิงไม่ปฏิเสธเพราะหลิงหยุนมักจะเป็นผู้ฟังเสียมากกว่า แต่หากเขาพูดออกมาแล้วล่ะก็ เพียงแค่คำพูดประโยคเดียว ใครก็ยากที่จะโต้แย้งได้!   “คุณโจวคะ..ฉันขอแนะนำว่า คุณมีอะไรก็พูดออกมาตรงๆจะดีกว่า!”
  เซิ่งหยิงหยิงมาที่นี่เพื่อพักผ่อนไม่ได้มาเพื่อให้ผู้ใดสอบปากคำ นางจึงเริ่มที่จะหมดความอดทน และเอ่ยบอกโจวเหยากวงไปตามตรง
  “ก็ดีเหมือนกัน!”
  โจวเหยากวงเองก็รู้สึกว่าตนเองจะถามนอกเรื่องมากจนเกินไป ทำให้หนุ่มสาวทั้งสองเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจนัก เขาจึงรีบตัดเข้าเรื่องที่ต้องการจะพูดทันที
  “คุณหนูเซิ่ง..การที่ทางเราเปิดบ่อนคาสิโน ย่อมไม่กลัวว่าแขกที่เข้ามาเล่นจะชนะ และได้เงินพนันกลับไป เพราะนี่คือธุรกิจ! พ่อของคุณหนูเซิ่งเองก็มาเล่นที่คาสิโนของเราอยู่บ่อยๆ กฏเกณฑ์บางอย่างนั้น เชื่อว่าเขาคงต้องบอกกล่าวให้คุณหนูเซิ่งรู้เช่นกัน แต่การที่คุณหนูเซิ่งจะขนเงินออกไปเกือบร้อยล้านแบบนี้ มันออกจะเกินไปหน่อย..”
  โจวเหยากวงตัดสินใจพูดสิ่งที่ควรจะพูดทั้งหมดออกไปพร้อมกันในคราวเดียว และคำพูดของโจวเหยากวงนั้น แม้แต่เซิ่งหยิงหยิงเองก็ไม่รู้ว่าจะโต้แย้งอย่างไรเช่นกัน..
  นั่นเพราะอีกฝ่ายไม่ได้กำลังพูดถึงการแพ้ชนะระหว่างนักพนักกับเจ้าของบ่อนแต่เขากำลังพูดถึงกฏที่นักพนันต่างก็รู้กันดี อีกทั้งยังอ้างถึงพ่อของเซิ่งหยิงหยิงซึ่งเป็นนักพนันชื่อดังว่า แม้แต่โคตรเซี่ยนหกนิ้วยังปฏิบัติตามกฏข้อนี้ดี แต่เธอซึ่งเป็นลูกสาว กลับจะฉีกกฏเสียเอง..
  ในระหว่างที่เซิ่งหยิงหยิงกำลังครุ่นคิดว่าจะโต้แย้งโจวเหยากวงกลับไปเช่นไรดีนั้น จู่ๆ หลิงหยุนก็ยกมือขึ้นเกาศรีษะ พร้อมกับหันไปถามเซิ่งหยิงหยิงด้วยสีหน้างุนงง
  “หยิงหยิง..ที่เขาพูดมันหมายความเช่นใดงั้นรึ”
  “ก็หมายความว่า..จำนวนเงินที่พวกเราสองคนเล่นได้ในวันนี้ มันมากเกินไปน่ะสิ! เขากำลังบอกว่า.. ข้าไม่ปฏิบัติตามกฏของคาสิโน!”   “อ่อ..”
  หลิงหยุนพยักหน้าหงึกๆก่อนจะหันไปถามโจวเหยากวงว่า “คุณโจว.. นี่ไม่เท่ากับว่าบ่อนของคุณจะเอาแต่ได้ แต่ถึงคราวเสียกลับไม่ยอมสิะนะ”
  โจวเหยากวงคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะพูดจากตรงไปตรงมาเช่นนี้ หลังจากหายตกตะลึง จึงได้ตอบกลับไปว่า
  “นี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องยอมเสียหรือไม่ยอมเสีย แต่นี่เป็นกฏที่ทุกคาสิโน และนักพนันต่างก็รู้กันดี..”
  “กฏบ้าบออะไรกันทางเราเล่นชนะก็ต้องได้เงินกลับไปสิ! แต่นี่ดูเหมือนทางบ่อนกำลังจะให้เราคืนเงินที่ได้กลับคืนงั้นรึ?”
  หลิงหยุนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันพร้อมกับเอ่ยต่ออย่างไม่นึกเกรงใจ “อย่าลืมว่าที่นี่เป็นบ่อนของพวกคุณ เจ้ามือก็เป็นคนของพวกคุณ ไพ่ก็ไพ่ของพวกคุณ และตั้งแต่เริ่มเล่นจนเล่นเสร็จ พวกเราสองคนก็ยังไม่ได้สัมผัสไพ่แม้แต่ใบเดียว แต่พอเราชนะได้เงินพวกคุณกลับไม่ยอมให้เรากลับไป มิหนำซ้ำยังยกเรื่องกฏบ้าบออะไรขึ้นมาอ้างเพื่อให้พวกเราต้องทำตามอีก.. แบบนี้ไม่เรียกว่าไม่ยอมเสีย แล้วจะให้เรียกอย่างไรงั้นรึ”
  “คุณหลินอย่าได้เข้าใจเจตนาของทางเราผิดไป..”
  โจวเหยากวงถึงกับนิ่งอึ้งไปกับคำโต้แย้งของหลิงหยุนแต่หลังจากได้สติ ก็รีบระล่ำระลักอธิบายให้เขาฟังทันที
  “ผมกำลังหมายถึงว่า..พวกเราต่างคนต่างก็เดินอยู่บนถนนเส้นเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างควรต้องเห็นแก่หน้ากันและกันบ้าง..”
  “หึ!”
  หลิงหยุนได้ฟังคำอธิบายของโจวเหยากวงกลับยิ่งนึกเย้ยหยันมากกว่าเดิม “คุณโจวเปิดคาสิโนมานานหลายปี คงจะต้องเคยได้ยินคำพูดว่า ในบ่อนไม่คำว่าพ่อลูกมาบ้าง!”
  “ในเมื่อไม่มีกระทั่งพ่อและลูกยังต้องเห็นแก่หน้าใครอีก”   “ถ้าเช่นนั้นผมขอย้อนถามคุณโจวกลับบ้าง..หากวันนี้เป็นพวกเราสองคนที่เสียพนันร้อยล้านให้กับบ่อนของคุณ แล้วผมขอให้คุณเห็นแก่หน้าผม คืนเงินที่เสียไปให้พวกเรากลับคืน ไม่ทราบว่าคุณโจวจะคืนให้หรือไม่ครับ”
  “เอ่อ…”
  โจวเหยากังถึงกับอ้ำอึ้งและตอบกลับไปอย่างไม่เต็มปากเต็มคำนัก “คงจะไม่ได้..”
  “ฮ่าๆๆๆ”
  หลิงหยุนถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาก่อนจะพูดต่อว่า “กฏที่คุณว่ามันช่างสองมาตรฐานจริงๆ! หากพวกเราเป็นฝ่ายได้ก็อ้างกฏ แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายเสีย กลับไม่สามารถอ้างกฏได้!”
  โจวเหยากวงถึงกับหน้าเสียและเวลานี้ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด พร้อมกับน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นเย็นชามากขึ้น
  “คุณหลิน..ผมเปิดมานานนับสิบปี คุณหนูเซิ่งย่อมรู้ดี! และผมก็ยังไม่ได้พูดว่า จะไม่ยอมให้พวกคุณนำเงินที่เล่นได้ออกไปจากที่นี่!”
  หลิงหยุนเอนกายพิงโซฟาสบายๆก่อนจะย้อนถามกลับไปว่า “หมายความว่ายังไงงั้นรึ”
  “ผมเพียงแค่ต้องการบอกกับคุณหนูเซิ่งว่าด้วยความสามารถของเธอ เธอไม่ควรที่จะละเลยต่อกฏที่นักพนัน และแม้แต่พ่อของเธอก็ยึดถือปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้น การกระทำของคุณหนูเซิ่ง อาจทำให้ชื่อเสียงที่พ่อของเธอสั่งสมมานานย่อยยับลงได้!”
  “ฮ่าๆๆๆ”
  หลิงหยุนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้แล้วจึงตอบกลับไปว่า “คุณโจวกำลังจะบอกพวกเราว่า ถ้าเซิ่งหยิงหยิงนำเงินที่เล่นได้ออกไปจากบ่อนในวันนี้ จะทำให้พ่อของเธอต้องเสียหน้าสินะ”
  “เอาล่ะ!ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็จะขอบอกว่า คนที่ชวนเข้ามาเล่นพนันที่แซนด์คาสิโนในวันนี้เป็นผมเอง ไม่เกี่ยวกับเซิ่งหยิงหยิงแม้แต่น้อย แล้วผมก็ไม่ใช่นักพนันมืออาชีพ ผมแค่นึกสนุกก็เลยเดินเข้ามาเล่นเท่านั้น และที่สำคัญ.. ผมไม่ได้รู้เรื่องกฏบ้าบออะไรนั่นเลย!”
  “…”โจวเหวินอี้ถึงกับนิ่งอึ้งไป และไม่อาจโต้เถียงหลิงหยุนได้
  “คุณหลินอย่าเพิ่งโมโหไป..”
  โจวเหยากวงกดข่มความไม่พอใจไว้ภายในก่อนจะหันไปยิ้มให้หลิงหยุน พร้อมกับพูดออกไปว่า
  “ดูเหมือนคุณหลินจะมั่นใจว่าวันนี้ตนเองมือขึ้นมาสินะ”
  หลิงหยุนได้ยินคำพูดประโยคนี้โจวเหยากวงก็ถึงกับแอบยิ้มและได้แต่คิดในใจว่า ‘เจ้าจิ้งจอกเฒ่า โยกโย้อยู่นาน ในที่สุดหางของเจ้าก็โผล่ออกมาแล้ว นี่คงอยากจะดึงให้ข้าเล่นพนันกับเจ้าต่อ เพื่อหวังเอาเงินกลับคืนสินะ’
  “ใช่แล้ว!วันนี้ผมมือขึ้น และมั่นใจว่าต่อให้เล่นต่อ ก็ชนะอยู่ดี..”
  โจวเหยากวงรีบยกมือขึ้นชี้ไปที่โต๊ะพนันกลางห้องพร้อมกับถามหลิงหยุนว่า “สนใจที่เล่นต่อมั๊ยล่ะครับ”
  และนี่คือจุดประสงค์ที่โจวเหยากวงเปิดห้องสูทให้ทั้งสองคนเขาต้องการที่จะหาโอกาสเล่นพนันกับคนทั้งคู่ เพื่อนำเงินกลับคืนมา
  หลิงหยุนแสร้งทำเป็นยึกยัก“แต่ผมไม่มีเวลามากน่ะสิ..”
  “หรือคุณหลินกลัว..”โจวเหยากวงยังไม่ยอมแพ้ เขายกมือขึ้นชี้ไปที่กล่องชิปบนโต๊ะ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
  “ถ้าคุณหลินไม่กล้าก็ขอเชิญนำชิปไปแลกเงิน แล้วกลับไปได้เลย..”
  “ใครว่าผมไม่กล้า!”
  หลิงหยุนผุดลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับหันไปท้าทายโจวเหยากวง “นัดหมายเวลามาได้เลย!”   โจวเหยากวงเห็นหลิงหยุนตกหลุมพรางจึงรีบตอบกลับไปว่า “สี่ทุ่มตรง..”
  “แล้วจะเล่นพนันอะไรดีล่ะ”
  โจวเหยากวงไม่ทันได้คิดเรื่องนี้แต่หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย จึงหันไปบอกกับหลิงหยุนว่า “โป๊กเกอร์ก็แล้วกัน.. แต่ถ้าคุณหลินไม่ถนัด จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็ได้!”
  “โป๊กเกอร์ก็โป๊กเกอร์!”
  “ตอนนี้คุณหลินมีชิปอยู่เกือบหนึ่งร้อยล้านแต่ถ้าไม่พอ ทางเราสามารถให้คุณหลินยืมเพิ่มอีกสิบล้าน..”
  หลิงหยุนตอบกลับไปยิ้มๆ“ขอบคุณ!”
  “เอาล่ะ..ผมจะให้คนพาพวกคุณทั้งสองคนขึ้นไปพักผ่อนเอาแรงก่อน แล้วค่อยพบกันเวลาสี่ทุ่มตรงคืนนี้!”
  หลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลิงหยุนก็ได้เดินโอบเอวเซิ่งหยิงหยิงออกไปจากห้อง แต่ในระหว่างนั้น หลิงหยุนก็หันหลังกลับไปบอกโจวเหยากวงว่า  “ไม่ต้องวุ่นวายเตรียมการอะไรมากอย่างไรผมก็ต้องชนะแน่!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร