Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1573

บทที่ 1573 : คิดถึงใครบางคน
  โจวเหยากวงตัดสินใจเดินตามไปส่งหลิงหยุนและเซิ่งหยิงหยิงที่ลิฟท์สำหรับขึ้นไปห้องพักด้วยตัวเอง
  แต่เมื่อประตูลิฟท์ปิดลงสีหน้ายิ้มแย้มของโจวเหยากวง พลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันที ก่อนจะรีบหันหลังเดินกลับไปที่ห้องวีไอพีเมื่อครู่ทันที
  “เจ้านาย..”
  ผู้จัดการเฟิ่งที่เข้ามายืนรออยู่ก่อนรีบเอ่ยทักทายโจวเหยากวงทันที..
  “ปิดประตูห้องก่อน!”
  โจวเหยากวงออกคำสั่งในขณะที่ตนเองเดินไปทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา เขาซุกร่างลงไปในโซฟาตัวใหญ่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง!
  “ไปตรวจสอบให้ฉันด่วนเลย!ตรวจดูให้ละเอียดว่า เด็กหนุ่มนั่นมันเป็นใครกันแน่”   สีหน้าท่าทางของโจวเหยากวงดุดันเป็นอย่างมากและหันไปตวาดใส่ผู้จัดการเฟิ่งเสียงดัง “ก่อนสามทุ่มตรงคืนนี้ จะต้องสืบรู้ฐานะที่แท้จริงของเด็กหนุ่มที่ชื่อหลินเทียนให้ได้!”
  “ครับเจ้านาย!”
  ผู้จัดการเฟิ่งเห็นโจวเหยากวงผู้เป็นเจ้านายโมโหเกรี้ยวกราดขนาดนี้จึงไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
  “ครับๆอะไรกัน”
  โจวเหยากวงปรายตามองผู้จัดการเฟิ่งพร้อมกับตวาดเสียงดัง“หนังสือเดินทางของเด็กหนุ่มนั่นไม่ต่างจากกระดาษเปล่า คุณจะตรวจสอบยังไงผู้จัดการเฟิ่ง”
  ผู้จัดการเฟิ่งถึงกับต้องยกมือขึ้นปาดเหงื่อและตอบกลับไปว่า “เอ่อ.. เจ้านายพอมีวิธีมั๊ยครับ!”
  โจวเหยากวงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดก็พูดขึ้นว่า “เมื่อครู่หยิงหยิงบอกว่าเด็กหนุ่มหลินเทียนเป็นแฟนของเธอ การที่ทั้งคู่พักห้องเดียวกันแบบนี้ แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต้องไม่ธรรมดา เพราะฉะนั้น ฐานะของหลินเทียนก็ต้องไม่ธรรมดาด้วยเหมือนกัน..”
  “เด็กหนุ่มคนนี้อาจจะเป็นศิษย์ของโคตรเซียนหกนิ้วที่อยู่จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้หรือไม่ก็อาจเป็นนักพนันหน้าใหม่ที่้เพิ่งเข้าสู่วงการ! ฉันไม่ปล่อยให้เด็กนั่นเอาเงินกลับไปได้แน่!” ระหว่างที่คาดเดานั้น ศรีษะของโจวเหยากวงก็สะบัดขึ้นสะบัดลงไม่ต่างจากไก่ที่กำลังจิกข้าว
  ยังไม่ทันที่จะได้เล่นกับหลิงหยุนโจวเหยากวงก็เริ่มมีอารมณ์แล้ว!
  ผู้จัดการเฟิ่งได้แต่ตอบกลับไปพึมพำคล้ายต้องการจะพูดอะไร“แต่ว่า เจ้านายครับ..”
  โจวเหยากวงเงยหน้าขึ้นมองผู้จัดการเฟิ่งพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “มีอะไรจะพูดก็พูดมาเถิดผู้จัดการเฟิ่ง เรื่องวันนี้จะโทษคุณก็ไม่ถูกนัก เพราะแม้แต่ฉันก็ยังยากที่จะจัดการกับเรื่องนี้ได้..”
  “ขอบคุณครับเจ้านาย!เซิ่งหยิงหยิงไม่ได้เพิ่งจะมาเล่นที่บ่อนของเราเป็นครั้งแรก เธอมาเล่นพนันที่นี่หลายต่อหลายครั้งแล้ว แม้เธอจะมีเล่ห์เหลี่ยมในการเล่นพนันแพรวพราว แต่ที่ผ่านๆมา เธอก็แทบไม่เคยเล่นบาคาร่าเลย มีบางครั้งที่เธอนึกสนุกอยากจะเล่นบ้าง แต่ก็ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ไม่ได้ชนะทุกตาเหมือนวันนี้..”
  “อีกอย่างที่ผ่านมาเซิ่งหยิงหยิงก็ปฏิบัติตามกฏของคาสิโนเสมอมา เธอไม่เคยเล่นได้เงินเกินกว่าสามล้านเลยสักครั้ง แต่คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้..”
  โจวเหยากวงเหลือบมองผู้จัดการเฟิ่งพร้อมกับบอกไปว่า “เรื่องพวกนี้คุณไม่จำเป็นต้องเล่าให้ผมฟัง ผมรู้เรื่องทั้งหมดดีอยู่แล้ว..”
  “ปัญหาในคืนนี้ไม่ได้อยู่ที่เซิ่งหยิงหยิงแต่อยู่ที่เด็กหนุ่มที่เธอพามาด้วยต่างหาก! หากเป็นเซิ่งหยิงหยิง ฉันคงจะสามารถจัดการเรื่องนี้จบไปได้ตั้งนานแล้ว! ดูก็รู้แล้วว่าเด็กหนุ่มหลินเทียนนั่นต้องไม่ธรรมดาแน่ ฉันมั่นใจว่าเขาแกล้งทำตัวไม่รู้อะไร แม้กระทั่งเรื่องกฏของบ่อนคาสิโน..”
  ผู้จัดการเฟิ่งก้มลงไปกระซิบเสียงเบาข้างหูโจวเหยากวง“เจ้านาย.. ผมรู้สึกว่าเด็กนั่นสามารถมองเห็นไพ่ในมือได้ทะลุปรุโปร่ง..”
  โจวเหยากวงได้แต่แน่นิ่งไม่ตอบอะไร..
  มีคนที่สามารถทำเช่นนั้นได้จริงๆน่ะหรือย่อมมีแน่นอน!
  ด้วยเหตุนี้โจวเหยากวงจึงไม่คิดว่า สิ่งที่ผู้จัดการเฟิ่งพูดนั้น จะเป็นเรื่องไร้สาระ!
  หาไม่แล้ว..จะมีใครบ้างที่กล้าเล่นพนันครั้งละสิบๆล้าน โดยที่มองไม่เห็นไพ่ในมือของอีกฝ่าย คนที่จะทำเช่นนั้นได้ ก็คงมีแต่คนบ้า หรือไม่ก็คนโง่เท่านั้นล่ะ
  แต่แน่นอนว่าทั้งหลิงหยุนและเซิ่งหยิงหยิงย่อมไม่ใช่ทั้งคนบ้า และคนโง่แน่!
  “ถ้าเขาสามารถมองทะลุได้จริงๆแล้วการพนันในคืนนี้..”
  โจวเหยากวงรีบห้ามไม่ให้ผู้จัดการเฟิ่งพูดแต่กลับกวักมือเรียกเขาให้เข้ามาใกล้ พร้อมกับกระซิบบอกข้างหูเบาๆ
  ผู้จัดการเฟิ่งฟังแล้วก็ได้แต่พยักหน้า..
  “ในเมื่อเข้าใจแล้วก็ไปจัดการตามนั้น!”
  โจวเหยากวงบอกกับผู้จัดการเฟิ่งพร้อมกับโบกมือไล่ให้ออกไปจากห้อง แต่แล้วจู่ๆ ก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงได้ร้องสั่งผู้จัดการเฟิ่งว่า
  “อ่อ..อย่าลืมโทรหาคนของเราที่คนที่เราเลี้ยงไว้ด้วยล่ะ ได้เวลาที่เราจะต้องเรียกใช้งานเขาแล้ว!”
  “ครับเจ้านาย..ผมจะรีบทำตามคำสั่ง!”
  ผู้จัดการเฟิ่งพยักหน้ารับคำสั่งจากนั้นจึงรีบเดินออกไปจากห้องวีไอพีทันที ในขณะที่โจวเหยากวงก็ไม่ได้นิ่งเฉย เขากำลังขมักเขม้นอยู่กับการโทรหาใครบางคน
  ……  “ว้าว!!ห้องนี้ใหญ่โตมากเลย ติดทะเลด้วย สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ถึง 270 องศา!”
  เวลานี้ทั้งหลิงหยุนและเซิ่งหยิงหยิง กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องชุดขนาดใหญ่ของโรงแรมแซนด์มาเก๊า นับว่าโจวเหยากวงลงทุนกับหนุ่มสาวทั้งสองไม่น้อยเลยทีเดียว
  “หลินเทียน..ข้ามาเล่นพนันที่มาเก๊าหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้พักในห้องชุดที่ใหญ่โตหรูหราแบบนี้มาก่อนเลย!”
  ทันทีที่เข้าไปในห้องชุดซึ่งโจวเหยวกวงจัดไว้ให้เซิ่งหยิงหยิงก็วิ่งไปที่กระจกหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมกับจ้องมองดูทิวทัศน์สวยงามด้านนอก ก่อนจะหันมาร้องบอกหลิงหยุนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ
  หลิงหยุนยังคงยืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมสายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เรือนร่างงดงามของเซิ่งหยิงหยิง ริมฝีปากเผยอยิ้มออกมาเล็กน้อย..
  โจวเหยากวงหารู้ไม่ว่าบทสนทนาระหว่างตนเองกับผู้จัดการเฟิ่งนั้น ได้ถูกหลิงหยุนล่วงรู้จนหมด..
  “อืมม..งั้นรึ”
  จากนั้นเซิ่งหยิงหยิงก็หันมาหาหลิงหยุนนางเอนกายพิงกระจกหน้าต่าง พร้อมกับเอ่ยออกไปว่า
  “ข้าไม่เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถทำให้เจ้าพ่ายแพ้ได้!”
  ระหว่างนั้นเซิ่งหยิงหยิงก็ได้สอนทักษะการเล่นพนันในแบบต่างๆให้กับหลิงหยุน และนางก็ค่อนข้างมั่นใจว่า โอกาสที่หลิงหยุนจะแพ้นั้นแทบจะไม่มีเลย
  “ระมัดระวังคำพูดด้วย!”
  หลิงหยุนเอ่ยบอกพร้อมกับกล่าวต่อทันที “กำแพงมีหู ประตูมีช่อง..”
  ระหว่างที่ทั้งคู่สนทนากันอยู่นั้นหลิงหยุนก็ได้แอบใช้จิตหยั่งรู้ของตนสำรวจภายในห้องพักทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการซ่อนกล้องไว้ภายใน และไม่มีการติดเครื่องดักฟังไว้มุมใดมุมหนึ่งของห้อง หลังจากนั้น จึงได้จัดการวางค่ายกลสะกัดกั้นไว้ เพื่อไม่ให้ผู้ใดสามารถใช้จิตหยั่งรู้ดักฟังได้เช่นกัน
  “โอ้โห!หินระยิบระยับเป็นประกาย นั่นมันหินอะไรรึ” เซิ่งหยิงหยิงเอ่ยถามด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น
  “นี่คือหินพลังชีวิตใช้สำหรับสร้างค่ายกล เอาล่ะ.. คราวนี้เจ้าสามารถพูดได้ตามสบาย ไม่ต้องเกรงว่าจะมีผู้ใดแอบฟังได้..”
  หลิงหยุนเอ่ยบอกเซิ่งหยิงหยิงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมกับกำชับว่า “อย่าได้ไปแตะต้องหินเหล่านี้ หรือเคลื่อนย้ายมันโดยเด็ดขาด หาไม่แล้วค่ายกลที่ข้าสร้างไว้จะถูกทำลายทิ้งเสีย..”
  เซิ่งหยิงหยิงพยักหน้าและใบหน้างดงามของนางก็ดูมีความสุขไม่น้อย “ว่าแต่.. ข้าสามารถเรียกชื่อของเจ้าได้หรือไม่”
  หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับโคจรลมปราณทั่วร่าง แล้วรูปลักษณ์ของเขาก็เริ่มเปลี่ยนกลับมาเป็นหลิงหยุนคนเดิม  “โอ้โห..หล่อมากจริงๆ!”
  “…”หลิงหยุนได้แต่นิ่งอึ้งกับท่าทางตกอกตกใจเกินจริงของเซิ่งหยิงหยิง
  “เอาล่ะ..ก่อนอื่น ตอบมาก่อนว่า ข้าไปเป็นแฟนของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
  หลิงหยุนเริ่มสะสางบัญชีกับเซิ่งหยิงหยิงก่อน..
  “เหตุใดจึงไม่บอกให้ข้ารู้ล่วงหน้าว่าพวกเราสองคนจะต้องแสดงเป็นคู่รักกัน”
  ใบหน้างดงามของเซิ่งหยิงหยิงเชิดขึ้นพร้อมกับโต้เถียงอย่างไม่ยอมแพ้ “นี่.. เลิกทำไขสือได้แล้ว! เจ้าเองก็รู้ว่าข้าคิดเช่นใดกับเจ้า หรือชาตินี้เจ้าไม่เคยคิดที่จะมีคู่งั้นรึ”
  “…”
  หลิงหยุนได้แต่นิ่งอึ้งไปอีกครั้งกับคำตอบตรงไปตรงมาของเซิ่งหยิงหยิงเขาไม่คิดว่าหญิงสาวผู้นี้จะกล้าสารภาพความรู้สึกของตนเองอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ นับว่านางตรงเสียยิ่งกว่าเสี่ยวเม่ยหนิงอีก  แต่หลิงหยุนก็ไม่ใช่คนโง่เขาดูออกตั้งแต่อยู่ปักกิ่งแล้วว่า เซิ่งหยิงหยิงรู้สึกกับเขาเช่นใด จึงได้แต่ตอบกลับไปเสียงเรียบ
  “เจ้ากับข้าเหมือนอยู่กันคนละโลก..ข้าฝึกบ่มเพาะตนเพื่อความเป็นเซียน..”
  หลังจากที่สารภาพความรู้สึกของตนเองให้หลิงหยุนรู้ไปแล้วนางจึงค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปหาพร้อมกับเอ่ยบอกไปว่า
  “เรื่องนั้นข้ารู้..แต่เจ้าไม่ได้บวชเป็นหลวงจีนไม่ใช่รึ เหตุใดจะมีหญิงรอบกายไม่ได้เล่า?”
  หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆ“ข้ามีคู่หมั้นแล้ว..”
  เซิ่งหยิงหยิงโต้กลับทันที“นั่นไม่ใช่เหตุผล! ข้ารู้ว่าเจ้ามีคู่หมั้นแล้ว แต่ก็รู้อีกว่าเจ้ามีหญิงสาวรอบกายมากมายเช่นกัน!”
  “หน่วยข่าวกรองของเจ้ารายงานละเอียดถึงเพียงนี้เชียวรึ”หลิงหยุนเอ่ยถาม
  เซิ่งหยิงหยิงตอบกลับด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ“แน่นอน! หาไม่แล้วข้าจะตามเจ้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไร”
  เวลานี้เซิ่งหยิงหยิงได้อยู่ห่างจากหลิงหยุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นางจ้องมองเขาด้วยแววตาเป็นประกาย..
  “นี่เจ้า..เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่” หลิงหยุนร้องถามออกมา พร้อมกับถอยหลังหนีทันที
  “ชายหญิงอยู่ในห้องด้วยกันตามลำพังย่อมไม่ต่างจากไฟกับน้ำมัน เจ้าเห็นด้วยหรือไม่” เซิ่งหยิงหยิงเดินบิดเอวเข้าไปใกล้หลิงหยุนมากขึ้น
  เซิ่งหยิงหยิงยิ้มเย้ายวนพร้อมกับเดินผ่านหน้าหลิงหยุนไป ปากก็บ่นพึมพำว่า “เฮ้อ.. เนื้อตัวมีแต่เหงื่อ ข้าคงต้องไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายก่อน..”
  จากนั้นเซิ่งหยิงหยิงจึงได้เดินไปที่ห้องน้ำ และทำราวกับว่าไม่มีหลิงหยุนอยู่ในห้องด้วย จนหลิงหยุนต้องร้องตะโกนโวยวายเสียงดัง
  “นี่..เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะไม่สามารถอดกลั้นไว้ได้หรือยังไง”
  “ประตูไม่ได้ลงกลอนหากเจ้าอยากจะเข้ามา ก็เข้ามาได้เลย!”
  หลิงหยุนกัดฟันกรอดด้วยความโมโหและรีบกระโดดไปยืนที่กระจกหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมกับเหม่อมองออกไปทางเกาะฮ่องกง เขาตั้งใจว่า หลังจากเสร็จภารกิจที่มาเก๊าเมื่อไหร่ เขาจะไปฮ่องกงต่อทันที!
  หลังจากนั้นตราหยกจักรพรรดิก็พุ่งออกมาลอยอยู่ตรงหน้า ทำให้หลิงหยุนอดคิดถึงใครบางคนไม่ได้
  ‘ข้าไม่ได้พบมู่หลงเฟยจื่อมานานสามเดือนแล้วสินะ!ไม่รู้ว่าป่านนี้นางจะเป็นเช่นใดบ้าง’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร