บทที่ 1587 : นำเรือกลับสำเร็จ
“พระเจ้า!”
เฮลิคอปเตอร์ทั้งหกลำที่มีหลี่ป๋อเป็นหัวหน้าคุมมานั้นได้บินอยู่ห่างจากบริเวณที่เรือจอดอยู่ราวหนึ่งกิโลเมตรได้ และเขาก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหลิงหยุนจึงได้สั่งให้นำเฮลิคอปเตอร์ออกไปจากบริเวณนั้น
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นระหว่างที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์นั้น หลี่ป๋อก็ได้ใช้กล้องส่องทางไกลที่มีกำลังขยายสูง ส่องลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ และเฝ้าดูการกระทำของหลิงหยุนอย่างไม่ให้คลาดสายตา
หลังจากที่เขาได้เห็นหลิงหยุนฟาดฝ่ามือลงบนดาดฟ้าของเรือพิฆาตจากนั้นเรือพิฆาตลำใหญ่นั้น ก็ได้หายวับไปกับตาทันที จนเขาถึงกับต้องร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ!
“พระเจ้า!”
“โอ้พระเจ้า!” หลังจากร้องอุทานออกไปครั้งแรกได้เพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวหลี่ป๋อก็ได้ร้องอุทานเสียงดังออกมาติดต่อกันอีกถึงสองครั้ง เพราะหลิงหยุนได้กระทำการเช่นเดียวกับที่ทำบนเรือลำแรก แล้วเรือที่เหลืออีกสองลำ ก็ได้หายวับไปต่อหน้าต่อตาหลี่ป๋อเช่นเดิม..
หลี่ป๋อร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจครั้งแล้วครั้งเล่าและเวลานี้เขาก็กำลังนั่งอ้าปากหวอ สมองของเขาว่างเปล่าเฉียบพลัน เพราะไม่สามารถคิดหาเหตุผลมาอธิบายปรากฏการณ์ที่ตนเองเห็นได้
และในเวลานั้นเองหลี่ป๋อเพิ่งจะค้นพบความจริงว่า ความเก่งกาจที่เขาคิดว่าตนเองมีนับตั้งแต่เข้าเป็นทหารมานั้น ได้กลายเป็นเรื่องที่ไร้ความหมายไปในทันที!
ความสามารถที่เก่งกาจจนทำให้เขาได้ขึ้นเป็นหัวหน้าของหน่วยอินทรีซึ่งได้ชื่อว่าเป็นราชันแห่งหน่วยรบราชนาวีพิเศษนั้น กลับกลายเป็นไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไป..
“หัวหน้าเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” หวางเฟยในฐานะรองหัวหน้าหน่วยและเป็นผู้รับผิดชอบในการถอดรหัสอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆบนเรือ แม้ครั้งนี้จะปฏิบัติภารกิจล้มเหลว และรู้สึกผิดหวังเสียใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับฟูมฟายจนเสียสติ
นั่นเพราะเมื่อครั้งที่เขาได้รับคำสั่งให้มาปฏิบัติภารกิจนำเรือทั้งสามเรือกลับไปนั้นหวังเฟยเองก็ไม่กล้าหวังว่าตนเองจะสามารถปฏิบัติภารกิจครั้งนี้สำเร็จได้โดยง่าย เพราะเขารู้ดีว่า เทคโนโลยีทางการทหารของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกานั้น ล้ำหน้าไปมาก และเขาก็ได้คาดเดาไว้ก่อนหน้าแล้วว่า ทหารเรืออเมริกันจะต้องทำการปิดอุปกรณ์ทั้งหมดภายในเรือ ก่อนที่จะยอมสละเรือแน่ และหากปล่อยให้การถอดรหัสสามารถทำได้ง่ายๆ คงไม่มีประโยชน์อะไรที่ทหารอเมริกันจะต้องคิดค้นระบบรหัสผ่านนี้มาใช้
ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระบบอิเล็กทรอนิกส์คนหนึ่งของกองทัพเรือหวังเฟยจึงรู้ดีว่า ถึงแม้ทหารอเมริกันจะยอมทิ้งเรือหนีไป แต่ก็เป็นเพียงการล่าถอยชั่วคราวเท่านั้น พวกมันยังคงเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของเรือทั้งสามลำอย่างใกล้ชิด หากพบว่า เรือทั้งสามลำถูกขับเคลื่อนออกไป พวกมันก็อาจจู่โจมจากระยะไกลได้ เพื่อไม่ให้พวกตนสามารถนำเรือกลับไปได้ หรือไม่ก็ยิงทำลายเรือทิ้งเสียก็เป็นได้
ทหารอเมริกันคงจะยอมทำลายเรือทั้งสามลำทิ้งมากกว่าจะยอมปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือของประเทศอื่น!
แต่ในเมื่อมาแล้วหวังเฟยก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เขาพยายามอย่างสุดความสามารถ และใช้ประสบการณ์อันยาวนานในด้านนี้ของตนเองทั้งหมด แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่สามารถทำการถอดรหัสได้..
หลังจากที่ได้รายงานเรื่องนี้ให้กับหลี่ป๋อซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยรู้ใครบางคนที่ดูลึกลับ และน่าเกรงขามซึ่งรอบนเรือก่อนหน้าที่พวกเขาจะมาถึง ก็ได้สั่งให้พวกเขาทั้งหมดนำเฮลิคอปเตอร์ทั้งหกลำออกจากเรือโดยเร็ว และไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ทดลองอีก
ความจริงหวังเฟยอยากจะอยู่บนเรือต่อเพื่อทำการศึกษาระบบกลไกต่างๆบนเรือให้ได้มากที่สุด ก่อนที่สหรัฐจะยึดเรือกลับคืนไป หรือยิงถล่มทิ้ง..
แต่น่าเสียดายที่เขาไม่อาจทำได้เพราะพวกเขาได้รับคำสั่งมาว่า ให้เชื่อฟังคำสั่งของบุคคลลึกลับผู้นี้ ดังนั้น เขาจึงจำต้องขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ตามคำสั่งของชายลึกลับ
ระหว่างที่หวังเฟยกำลังนั่งเสียดายอยู่บนเฮลิคอปเตอร์นั้นจู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงของหลี่ป๋อกรีดร้องออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนอดที่จะถามกลับไปไม่ได้
“ฮ่าๆๆฉันว่านายดูเองดีกว่า!”
ในเวลานั้นหลิงหยุนเองก็ได้เก็บเรือทั้งสามลำเข้าไปในแหวนจักรวาลแล้ว ส่วนตัวเขาเองก็หายตัวไปด้วยเช่นกัน ท้องทะเลในยามนี้จึงเหลือเพียงแค่ความว่างเปล่า หลังจากที่หวังเฟยคว้ากล้องส่องทางไกลไปส่องดูนั้นหลี่ป๋อก็พูดขึ้นว่า “ถึงแม้พวกเราจะนำเรือกลับไปด้วยไม่ได้ แต่มีเรื่องอื่นที่น่าสนใจกว่า..”
หลี่ป๋อถึงกับอ้าปากค้างหลังจากที่คว้ากล้องส่องทางไกลไปส่องดู..
“โอ้..โอ้พระเจ้า!”
“นี่..นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับหัวหน้า แล้วเรือสามลำนั่นหายไปไหน? อย่าบอกนะว่าชายลึกลับนั่นได้ทำการจมเรือทั้งสามลำไปแล้ว!”
“อะไรนะ!เรือหายไปงั้นเหรอ?!”
“ขอฉันดูด้วย!”
“นี่อย่าเพิ่งแย่งกล้องส่องทางไกลไปสิขอฉันดูก่อน!”
หลังจากได้ยินหวังเฟยพูดว่าเรือทั้งสามลำได้หายไปแล้วทุกคนในห้องโดยสารต่างก็มีสีหน้างุนงง และพากันแย่งชิงกล้องส่องทางไกลที่มีอยู่ไม่กี่ตัว เพื่อที่จะส่องดูด้านล่าง
ภายในห้องโดยสารของเฮลิคอปเตอร์จึงเกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นมาทันที!
แต่ในระหว่างนั้นเสียงพูดของใครบางคนก็ดังขึ้น “พวกเจ้าไม่ต้องแย่งกัน! ด้านล่างมีแต่ท้องทะเลว่างเปล่า มีอะไรน่าดูงั้นรึ รอให้ข้าส่งพวกเจ้ากลับไปก่อน ถึงเวลานั้นพวกเจ้าจะได้นั่งดูเรือทั้งสามลำกันอย่างหนำใจเชียวล่ะ!”
“เสียงใคร”
“นั่นน่ะสิ!แล้วดังมาจากที่ไหนกัน”
“ดูท่า..เสียงนั่นคล้ายดังมาจากด้านนอก!”
เวลานี้หลิงหยุนกำลังเหาะเคียงคู่ไปกับเฮลิคอปเตอร์ที่หลี่ป๋อกับหวังเฟยโดยสารไป หลังจากได้ยินได้ฟังทุกคนในเฮลิคอปเตอร์คุยกันนั้น หลิงหยุนก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ จากนั้นจึงหันไปพูดกับหลี่ป๋อว่า
“หัวหน้าหลี่เจ้าสั่งลูกน้องของเจ้าให้รีบขับเฮลิคอปเตอร์ทั้งหกลำ ไปให้ถึงปลายทางโดยเร็วที่สุด ข้ามีเวลาไม่มากนัก!”
กัปตันหลี่คุณสั่งเครื่องบินทั้งหกให้บินด้วยความเร็วเต็มที่และรีบกลับมาโดยเร็วที่สุด เวลาของผมมีจำกัด”
“ครับผม!”
จากนั้นหลี่ป๋อก็รีบถ่ายทอดคำสั่งของหลิงหยุนให้ลูกน้องทราบทันที แล้วเฮลิคอปเตอร์ทั้งหกลำก็เร่งความเร็วขึ้น พร้อมกับมุ่งหน้าไปทางทิศเหนืออย่างรวดเร็ว
……
“รายงานหัวหน้า..จู่ๆเรือทั้งสามลำก็หายไปจากเรดาร์ของเรา!”
ในขณะเดียวกันนั้นบนเรือบรรทุกเครื่องบินโรนัลด์เรแกนของทหาอเมริกัน นายทหารคนหนึ่งที่ได้รับคำสั่งจากวิคเตอร์ ให้ไปทำหน้าที่จมเรือทั้งสามลำ ก็ได้วิ่งเข้าไปรายงานให้ผู้บังคับบัญชาของเขาฟังด้วยสีหน้าตื่นตระหนก!
“นี่มันอะไรกันมันเกิดเรื่องบ้าบออะไรขึ้นที่นี่ ใครก็ได้ช่วยบอกฉันที?”
แทบไม่ต้องรอให้ลูกน้องเข้ามารายงานเพราะเวลานี้วิคเตอร์เองก็กำลังยืนอยู่กับผู้บังคับบัญชาคนอื่นๆ และทั้งหมดก็กำลังยืนมองหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ ที่กำลังแสดงภาพของเรือทั้งสามอยู่
แต่หลังจากที่จู่ๆเรือทั้งสามลำก็หายไปต่อหน้าต่อตาทำให้วิคเตอร์ไม่สามารถทนนิ่งเฉยต่อไปได้ เขาเดินวนไปวนมาในห้องบัญชาการ พร้อมกับร้องตะโกนออกมาเสียงดัง
“แล้วนี่อีกนานมั๊ยกว่าวิลเลี่ยมกับลูกน้องงี่เง่าของมันจะมาถึง”
วิลเลี่ยมก็คือกัปตันเรือพิฆาตลำแรกนั่นเองและเวลานี้ เขาก็กำลังลอยเคว้งอยู่กลางทะเล พร้อมกับลูกเรืออีกหลายคน
ระยะห่างกว่าสามร้อยไมล์ทะเลนั้นไม่ใช่ระยะทางสั้นๆเลย เพียงแค่พายเรือกลับไปได้โดยไม่หลงเส้นทาง ก็นับว่าเก่งมากแล้ว
“ฉันต้องการรู้ให้เร็วที่สุดว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และทหารของเราไปพบเจอเหตุสุดวิสัยอะไรกันมา ถึงได้ทิ้งเรือกันมาแบบนี้?”
วิคเตอร์ร้องคำรามออกมาด้วยความเดือดดาลก่อนจะร้องตะโกนสั่งว่า “ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกไปตามหากัปตันเรือทั้งสามลำ แล้วพาตัวพวกเขาสามคนกลับมาที่นี่ก่อน ฉันต้องการจะรู้ความจริงจากปากของวิลเลี่ยม และกัปตันเรืออีกสองคนโดยเร็วที่สุด!”
จู่ๆเรือของทหารเรืออเมริกันก็หายไปถึงสามลำอย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้ อีกทั้งสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ก็ถูกตัดขาดด้วย เช่นนี้แล้วจะให้วิกเตอร์ทนนั่งนิ่งได้อีกอย่างไรกันเล่า
นับว่าการคาดเดาของหวังเฟยนั้นแม่นยำเลยทีเดียวก่อนหน้านี้วิคเตอร์ยังไม่ร้อนใจนัก และตั้งใจที่จมเรือทั้งสามลำทิ้งเสีย แต่เมื่อกำลังจะโจมตี เรือทั้งสามลำก็หายไปจากเรดาร์ตรวจจับอย่างไม่รู้สาเหตุ
“แต่เดี๋ยวก่อน!ฉันเพิ่งนึกได้ว่า ก่อนหน้านี้มีคนรายงานว่า พวกเขาพบชาวจีนที่มีพลังเหนือธรรมชาติ สามารถควบคุมสายฟ้าได้..” “ใช่แล้ว!ใครก็ได้ไปจัดการติดต่อผู้บัญชาการสูงสุดให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
จู่ๆความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา เขากำลังนึกถึงการประชุมฉุกเฉินเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ เขาจำได้ว่าในการประชุมครั้งนั้น ผู้บัญชาการสูงสุดได้พูดถึงเรื่องลี้ลับที่ลูกเรือบนเรือลาดตระเวนในเกาะเตียวหยูพบเจอ ครั้งนั้นเขาเองยังแอบหัวเราะด้วยความขบขัน
นี่หากวิคเตอร์รู้ว่าคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติ และสามารถทำเรื่องลี้ลับได้ในตอนนั้น กับตอนนี้เป็นคนคนเดียวกันแล้วล่ะก็ เขาจะมีสีหน้าอย่างไรกันแน่
……
จากหนานซาไปไหโข่วนั้นระยะทางค่อนข้างไกลมาก หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เฮลิคอปเตอร์ทั้งหกลำจำเป็นต้องร่อนลงเพื่อเติมน้ำมันก่อน พวกเขาจัดแจงเปลี่ยนเฮลิคอปเตอร์ลำใหม่ และบินต่อไปอีกราวหนึ่งชั่วโมง ทั้งหมดก็มาถึงท่าเรือลับ หลิงหยุนถามหลี่ป๋อซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมั่นใจว่า เรดาร์ของฝ่ายตรงข้ามจะไม่สามารถตรวจจับสัญญาณของเรือทั้งสามลำได้แน่ เขาจึงได้เหาะไปที่ท่าเรือ และจัดการการเรียกเรือทั้งสามลำออกมาไว้บนท้องทะเลทันที
บูม!
จู่ๆเรือหนักนับหมื่นตันที่มีความยาวกว่า 170 เมตรทั้งสามลำก็ปรากฏขึ้น และกำลังลอยอยู่กลางท้องทะเลอย่างสง่างาม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร