Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1590

บทที่ 1590 : สำนักเทียนหลิง
  สำหรับหลิงหยุนเวลานี้สิ่งกีดขวางใดๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ ทะเล หรือว่าภูเขา ก็ล้วนแล้วแต่ไม่อยู่ในสายตาของเขาทั้งสิ้น
  เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆและเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ความสามารถของหลิงหยุนในเวลานี้ ไม่ต่างจากที่คนธรรมดาทั่วไปก้าวเดินไปบนผืนดิน ต่อให้ข้างหน้าจะมีรังมดสักกี่รัง ก็สามารถก้าวข้ามไปได้ โดยไม่รู้สึกว่ารังมดเหล่านั้นเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด
  ภายในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่นั้นในดินแดนแห่งประตูเซียน มีสำนักน้อยใหญ่ที่ฝึกฝนบ่มเพาะพลัง สำนักต่างๆเหล่านี้สามารถครอบครองดินแดนได้ตั้งแต่หลายสิบลี้ ไปจนถึงหลายล้านลี้ และภายในดินแดนซึ่งเป็นที่อยู่ของมนุษย์ธรรมดาทั่วไปนั้น หากมีปรมาจารย์ผู้สูงส่งย่างกรายเข้าไป อย่าว่าแต่ประชาชนทั่วไปเลย เพราะแม้แต่หัวหน้าเผ่าไปจนถึงกษัตริย์ ก็ยังต้องก้มหัวให้กับปรมาจารย์เหล่านี้
  หลิงหยุนและพอลไปถึงฝั่งในราวสี่ทุ่มครึ่งเมื่อขึ้นฝั่งได้ หลิงหยุนก็มิได้หยุดพักเลยแม้แต่น้อย เขามุ่งหน้าไปยังเทือกเขาที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ต่อทันที
  หลังจากที่ได้สนทนาลับกับโจวเหวินอี้เมื่อเช้านี้ทำให้หลิงหยุนได้รู้ว่า หน่วยนภานั้นใช่ว่าจะไร้น้ำยา เพราะนอกจากจะรู้เรื่องของสำนักฝึกวรยุทธบ่มเพาะต่างๆในประเทศจีนทั้งหมดอย่างละเอียดแล้ว ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ฝึกบ่มเพาะพลังด้วยวิธีหลากหลายในประเทศอื่นๆอีกด้วย
  กลุ่มที่เรียกตัวเองว่าพันธมิตรหนานหยางนั้นแม้จะฟังดูยิ่งใหญ่ แต่ความจริงแล้วเกิดจากการรวมกลุ่มกันของสำนักเล็กๆ ที่แยกย้ายอยู่ตามประเทศต่างๆโดยรอบในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั่นเอง สำนักที่แยกย้ายกันอยู่ตามประเทศต่างๆ เปรียบเสมือนสาขาต่างๆของพันธมิตรหนานหยางนั่นเอง
  รูปแบบก็จะคล้ายๆกับพรรคมารของจีน!   สำนักที่ใหญ่โตที่สุดและมีอำนาจมากที่สุดในกลุ่มพันธมิตรหนานหยางก็คือ สำนักเทียนหลิง หลิงหยุนจึงเลือกที่จะมาถล่มสำนักนี้แทนสำนักอื่นๆ
  หลังจากที่เหาะมาตามเส้นทางที่ระบุไว้ในเครื่องมือสื่อสารแล้วในที่สุดหลิงหยุนก็ร่อนลงบนยอดเขาแห่งหนึ่ง เขาใช้ดวงตาเทวะเทียนเอี๋ยนทงซึ่งเป็นพลังวิเศษที่เพิ่งได้มา ทำการสำรวจไปทั่วบริเวณโดยรอบ และในที่สุดก็พบว่า สำนักเทียนหลิงนี้ซ่อนอยู่ในหุบเขาที่เข้าถึงยากแห่งหนึ่ง
  “หึ!ช่างเลือกที่ตั้งสำนักได้ยอดเยี่ยมนัก บริเวณหุบเขาแห่งนั้น เป็นตำแหน่งดวงตามังกรเลยทีเดียว และเป็นบริเวณที่มีพลังชีวิตหนาแน่นมากที่สุด”
  หลิงหยุนจัดการคลายวิชาล่องหนและร่างของเขากับพอลก็ปรากฏขึ้นให้เห็น หลิงหยุนหันไปบอกกับพอลพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
  “ไปจัดการภารกิจให้จบสิ้นเสียทีฮ่าๆๆ”   บูม!
  ระหว่างที่พูดนั้นหลิงหยุนก็ได้ปลดปล่อยกระแสวนหยิน–หยางออกจากร่าง และใช้พลังเหนือธรรมชาติของตนเอง ทำการขยายกระแสวนหยิน–หยางให้มีขนาดใหญ่ขึ้นถึงหนึ่งกิโลเมตร เรียกได้ว่าครอบคลุมพื้นที่บนยอดเขาแห่งนี้เกือบทั้งหมด และเริ่มดูดซับเอาพลังชีวิตที่แข็งแกร่งในบริเวณนั้นเข้าไป
  หลิงหยุนและพอลเหาะมาถึงหน้าสำนักเทียนหลิงแล้วยังจำเป็นที่จะต้องล่องหนพรางตัวไปอีกทำไมกันอีกเล่า เขาเปิดเผยตัวตนของตัวเองอย่างชัดเจน
  กระแสวนหยิน–หยางที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าหนึ่งกิโลเมตรนั้นได้ดูดซับเอาพลังชีวิตที่อยู่บนยอดเขาแห่งนี้เข้าไปเป็นจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านั้น พลังชีวิตจากหุบเขาใกล้เคียงยังถูกพลังหยิน–หยางในรูปพายุเฮอริเคนนี้ ดูดเข้าไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
  “ผู้ใดกัน!ผู้ใดบังอาจเข้ามารบกวนสำนักเทียนหลิงของข้า?”
  ภายในหุบเขาลึกที่เข้าถึงได้ยากเจ้าสำนักเทียนหลิงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง จึงรีบร้องตะโกนออกไปเสียงดัง บรรดาลูกศิษย์ที่ได้ยิน ต่างก็พากันพุ่งทะยานออกไปทันที และทุกคนต่างก็ตรงเข้าไปยังทิศทางที่หลิงหยุนและพอลยืนอยู่
  “พอล..เจ้าฟังคำสั่งของข้าให้ดี! นับจากนี้ไป เจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นล่ามให้กับข้า หน้าที่ของเจ้าคือปกป้องดูแลตัวเองให้ปลอดภัย เว้นแต่ข้าจะเอ่ยปากถามเท่านั้น!”
  “ครับเจ้านายที่เคารพ!”
  หลังจากที่ร้องตะโกนสั่งพอลแล้วหลิงหยบุนก็กระโดดออกไปด้านหน้า พร้อมกับพุ่งหมัดใส่หน้าอกของยอดฝีมือนับสิบ ที่พากันกระโจนเข้าใส่ตนเองมาคนแล้วคนเล่า บ้างก็ล้มลงไปกองกับพื้น บ้างก็ลอยละลิ่วออกกไปปะทะกับกระแสวนหยิน–หยาง และถูกพัดหมุนวันอยู่กลางอากาศเช่นนั้น
  หลิงหยุนยังคงก้าวเดินไปด้านหน้าต่อไปเรื่อยๆและทุกย่างก้าวของเขานั้น ก็ไปพร้อมกับหมัดที่พุ่งกระแทกเข้าใส่ร่างของยอดฝีมือ ที่พากันกระโดดออกมาจากหุบเขาด้านหน้า แต่เวลานี้ พวกมันกลับต้องไปหมุนวนอยู่ภายในกระแสวนหยิน–หยางแทน
  หลังจากที่เข้าสู่ขั้นปาเฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-8) จุดตันเถีนอันน่าอัศจรรย์ และจุดซือไห่ของหลิงหยุน ก็ยิ่งรองรับพลังชีวิตและเสินหยวนได้มากขึ้น และเวลานี้จุดซือไห่ของเขาที่เคยมีเสินหยวนอยู่อย่างมากมายจนล้นนั้น ก็ได้ขยายใหญ่จนทำให้ดูเหมือนมีหยดเสินหยวนลดลง หลิงหยุนจึงต้องการหาพลังชีวิตจากภายนอกมาเพิ่มเติม เพื่อใช้กลั่นเสินหยวนให้เต็ม
  ด้วเหตุนี้หลิงหยุนจึงจงใจไม่สังหารยอดฝีมือที่พากันดาหน้าเข้ามา แต่เพียงแค่ทำให้พวกมันบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น เพื่อให้กระแสวนหยิน–หยาง ดูดซับเอาพลังชี่ของพวกมันเข้าไปได้ง่ายมากขึ้น
  “อ๊าก!”   “โอ๊ย!”
  “พลังปราณของข้า!”
  ผ่านไปเพียงครู่เดียวเสียงร้องโหยหวนก็ดังระงมขึ้นไม่หยุด แต่ยิ่งกว่าความเจ็บปวด ก็คือความตกใจกลัว เพราะแต่ละคนที่ถูกดูดเข้าไปในกระแสวนหยิน–หยางนั้น ล้วนแล้วแต่ค้นพบว่า พลังปราณของตนได้ถูกพายุหมุนนี้ดูดออกไปอย่างบ้าคลั่ง
  หลังจากที่จัดการกับยอดฝีมือสิบกว่าคนที่จู่โจมเข้ามาแล้วหลิงหยุนก็ค่อยๆ ก้าวย่างเข้าไปภายในสำนักเทียนหลิง!
  พรึบ..พรึบ..
  โซ่หยิน–หยางนับสิ้นเส้นได้พุ่งออกมาจากฝ่ามือของหลิงหยิน และโลดแล่นราวกับมังกรที่ดุร้าย โซ่แต่ละเส้นต่างก็พุ่งเข้ารัดรึงร่างของเหล่าศิษย์แห่งสำนักเทียนหลิง ก่อนจะโยนพวกมันเข้าไปในรัศมีของกระแสวนหยิน–หยางอีกที
  “ในเมื่อข้าบุกมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าได้คิดว่าจะมีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”
  หลิงหยุนยังคงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งพร้อมกับร้องตะโกนบอกด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
  “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
  น้ำเสียงดุดันดังขึ้นจากแท่นบูชาด้านบนของสำนักเทียนหลิงบนแท่นบูชาสีดำสนิทนั้น มีร่างของชายชราผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ที่ใบหน้าสลักอักขระโบราณไว้ กระโดดออกมาพร้อมกับร้องตะโกนถามด้วยความเดือดดาล
  “สหายจากเมืองจีนไม่ทราบว่าศิษย์สำนักเทียนหลิงหรือตัวข้า ไปทำสิ่งใดที่ผิดต่อท่านงั้นรึ ท่านจึงได้บุกเข้ามาสังหารศิษย์ของข้าโดยมิคิดที่จะถามไถ่เช่นนี้!”
  หลิงหยุนเห็นชายชราผู้นี้ก่อนแล้วและรู้ว่าเขาเป็นยอดฝีมือในขั้นก่อสร้างรากฐาน แต่ที่ไม่คาดคิดก็คือ ชายชราผู้นี้กลับสามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว  “ไม่ว่าอย่างไร..คืนนี้เจ้าก็ต้องตาย!”
  หลิงหยุนแสยะยิ้มก่อนจะเอ่ยต่อ“คุนปาซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรหนานหยาง และศิษย์ของเขาทั้งหมด ได้ถูกข้าสังหารตายจนหมดแล้ว! ข้าบอกเจ้าเพียงเท่านี้ เจ้าก็คงจะสามารถคาดเดาเรื่องราวทั้งหมดได้เองสินะ”
  “อะไรนะ!”
  ชายชราถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเขาอ้าปากคล้ายต้องการจะกล่าวอะไรบางอย่างออกมา แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นสูดลมหายใจเข้าลึกแทน จากนั้น ก็ได้ซัดหอกสีดำทมิฬเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว!
  “ไร้ประโยชน์!”
  หลิงหยุนแสยะยิ้มพร้อมกับยื่นฝ่ามือออกไปสะกัดปลายแหลมของหอกดำทมิฬนั้นไว้ และไม่ว่าชายชราจะควบคุมไปทางใด หลิงหยุนก็สามารถใช้ฝ่ามือสะกัดกั้นไว้ได้ทันทุกครั้งไป
  “เป็นไปได้อย่างไรกัน!”   ชายชราพยามอยู่ครู่ใหญ่แต่ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ ก่อนจะร้องตะโกนบอกเสียงดัง “สำนักเทียนหลิงถึงคราวต้องจบสิ้นแล้ว รีบหนีไปจากที่นี่กันให้หมด!”
  ในระหว่างที่ร้องตะโกนออกไปนั้นชายชราก็มิได้สนใจหลิงหยุน หรือศิษย์คนใดอีก เขารวบรวมพลังทั้งหมดที่มี แล้วรีบเหาะหนีออกไปทันที
  แต่ช่างโชคร้ายยิ่งนักเพราะไม่ว่าจะเหาะหนีไปทางใด เขาก็ไปพบหลิงหยุนไปดักรออยู่ด้านหน้า และยืนยิ้มให้เขาได้ก่อนทุกครั้งไป
  “เจ้ากล่าวได้ถูกต้องแล้ว!นับแต่นี้ไป สำนักเทียนหลิงของเจ้าได้จบสิ้นลงแล้ว และเจ้าเองก็ต้องจบชีวิตลงด้วยเช่นกัน!”
  หลิงหยุนเหาะเข้าไปหาชายชราอย่างรวดเร็ว..
  ทั้งหอกมังกรทองและกระบี่เหินเงาธนู ต่างก็พุ่งออกมาจากร่างของหลิงหยุนพร้อมกัน เขาไม่รอให้ชายชราได้มีโอกาสตอบโต้ใดๆ และเพียงแค่พริบตา หอกมังกรทองก็แทงทะลุเข้าที่หน้าอกของเขา ส่วนกระบี่เหินเงาธนูก็ตัดเข้าที่ขาทั้งสองข้างของเขาจนขาด!
  ยอดฝีมือขั้นก่อสร้างรากฐานสิ้นใจตายด้วยฝีมือของหลิงหยุนภายในเวลาอันรวดเร็ว!
  ภายในเวลาไม่กี่นาทีสำนักเทียนหลิงกลับถูกหลิงหยุนถล่มราบ และไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร