บทที่ 1591 : สัญญาณอันตราย
หลิงหยุนได้เข้าสู่ขั้นปาเฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-8) แล้ว และถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ระดับเริ่มต้น แต่ก็สามารถสังหารยอดฝีมือขั้นก่อสร้างรากฐานตายได้ง่ายดายยิ่งกว่าเชือดไก่..
หลิงหยุนไม่สนใจว่าชายชราผู้นี้จะเป็นเจ้าสำนักเทียนหลิงเขาทำการดูดเอาพลังปราณในร่างของชายชราเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะทำให้ชายชราได้ตายอย่างไม่ต้องทรมาน
ส่วนศิษย์คนอื่นๆที่ถูกจับตัวได้โดยไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียวนั้นหลิงหยุนก็มิได้สังหารเข่นฆ่าแต่อย่างใด เขาจับร่างของพวกมันโยนเข้าไปในกระแสวนหยิน–หยาง เพื่อทำการดูดเอาพลังปราณในจุดตันเถียนของพวกมันออกมา
หลังจากที่ได้กลายเป็นเพียงแค่คนธรรมดาหลิงหยุนก็ได้ใช้วิชาเคลื่อนย้ายขุนเขา ทำการย้ายร่างของบรรดาศิษย์สำนักเทียนหลิงที่ไร้วรยุทธกลุ่มนี้ ออกไปไว้ยังพื้นที่ราบ ส่วนตัวเขานั้นก็เหาะขึ้นไปบนแท่นบูชาสีดำนั้น
ก่อนหน้านี้หลิงหยุนเห็นว่าชายชราผู้เป็นเจ้าสำนัก ได้ทะยานออกมาจากแท่นบูชาสีดำนี้ ซึ่งเป็นแท่นบูชาที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก เป็นพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่กว้างยาวด้านละสิบเมตรเท่านั้น แต่ด้านหลังผนังบนแผ่นหินสีดำเงานี้ กลับมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมาอย่างมากมาย
แท่นบูชาแห่งนี้ประเมินไม่ได้ว่ามีอายุมานานเท่าไหร่แต่เขาสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่หนาแน่นของมัน ตรงกลางมีกองหินรูปกรวยสูงหนึ่งเมตร และหินพลังชีวิตเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสีน้ำตาลเข้ม ด้านบนของกองหิน มีผีเสื้อหยกขาวที่กำลังทอประสายสว่างสุกใสเกาะอยู่ ใต้ฝ่าเท้าเล็กๆของมันคือกองดินขนาดเท่ากำมือ
ภายในกองดินนั้นประกอบไปด้วยอนุภาคเล็กๆที่มีขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวและแต่ละเม็ดก็มีลักษณะใส และกำลังเปล่งประกายสีสันสดใสอยู่ภายใต้แสงสีขาวของผีเสื้อหยก อีกทั้งยังมีพลังชีวิตหนาแน่นแผ่ซ่านออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย!
“นี่มันคือดินห้าสี!”
เพียงแค่ปราดมองแวบเดียวหลิงหยุนก็รู้ว่ามันคือดินห้าสี ซึ่งสามารถนำไปปลูกสมุนไพร เพื่อนำมาหลอมโอสถล้ำค่าได้!
และแทบไม่ต้องคิดหลิงหยุนจัดการเรียกกองหินสีน้ำตาล ผีเสื้อหยกขาว และสมบัติล้ำค่าอย่างดินห้าสี เข้าไปเก็บไว้ในแหวนจักรวาลของตนเองทันที
“มิน่าล่ะถึงได้ฝึกฝนจนเข้าสู่ขั้นก่อสร้างรากฐานได้ เพราะภายในสำนักเทียนหลิง มีสมบัติล้ำค่าอยู่มากมายเช่นนี้นี่เอง!”
หลังจากที่ทำการเก็บสมบัติล้ำค่าเข้าไปแล้วหลิงหยุนก็ได้สำรวจบริเวณแท่นบูชาอย่างละเอียดอีกครั้ง และเมื่อพบว่าไม่มีสิ่งใดน่าสนใจหลงเหลืออยู่อีก เขาจึงได้หันมองไปทางกำแพงเบื้องหน้า ถึงแม้หลิงหยุนจะมิได้เป็นศิษย์ของสำนักเทียนหลิงแต่เขาก็รู้ดีว่า กำแพงทั้งสี่ด้านนี้ทำมาจากอะไร
ผนังทั้งสี่ด้านบนแท่นบูชานี้ทำจากหินออบซิเดียนเกรดสูง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หินออบซิเดียนที่ดีที่สุด แต่มันก็มีพลังชีวิตแฝงอยู่ หลิงหยุนจึงไม่ยอมทิ้งไว้ที่นี่ให้เสียของแน่ เขาจัดการดึงกำแพงแต่ละด้านออก พร้อมกับเรียกเข้าไปเก็บไว้ในแหวนของตนเองทันที
“หนักมากทีเดียว!”
เนื่องจากน้ำหนักที่มากมายทำให้หลิงหยุนต้องใช้วิชาเคลื่อนย้ายขุนเขา ทำการลากกำแพงแต่ละด้านออกมา
“ขอข้าเถิดนะ!”
ครืน..
ผืนดินบริเวณนั้นเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมาทันทีจากนั้น กำแพงหินใหญ่ทั้งอันที่ถูกหลิงหยุนลากดึงออกมา ก็ได้อันตรธานหายไปในทันที นั่นเพราะหลังจากที่ขยับเขยื้อนมันได้แล้ว หลิงหยุนก็ได้เรียกเข้าไปเก็บไว้ในแหวนจักรวาลของตนเองทันทีนั่นเอง
และเวลานี้แท่นบูชาของสำนักเทียนหลงก็ได้ถูกหลิงหยุนรื้อทิ้ง และยึดไปเป็นของตนเองแล้ว ต่อให้เหล่าศิษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่คิดที่จะกลับมาฝึกฝนใหม่ ก็คงเป็นไปได้ยากยิ่งแล้ว
จากนั้นหลิงหยุนก็ได้เปิดจิตหยั่งรู้ออกครอบคลุมบริเวณทั้งหมดของสำนักเทียนหลิง และได้ใช้พลังเหนือธรรมชาติของตน รวบรวมอาวุธที่บรรดาศิษย์ทั้งหมดทำตกไว้ มากองรวมกัน ก่อนจะเก็บเข้าไปในแหวนอีกเช่นกัน
หลังจากเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการมาในครั้งนี้ได้แล้วหลิงหยุนก็ได้แต่ยิ้มออกมา และคิดอยู่ในใจว่า โจวเหวินอี้มิได้หลอกเขาจริงๆ เพราะครั้งนี้เขาได้ของติดไม้ติดมือกลับไปไม่น้อยทีเดียว
“พอลมานี่!”
หลิงหยุนร้องตะโกนเรียกพอลให้มาหาและพอลก็รีบบินมาตามคำสั่งของเขาทันที “ครับเจ้านายที่เคารพ!”
“ประคำโลหิตที่ข้าให้เจ้าเก็บไว้เจ้านำติดตัวมาด้วยหรือไม่”
“นำมาครับเจ้านายที่เคารพ!”
“ดีมาก!”
จากนั้นหลิงหยุนก็ยกมือขึ้นชี้ไปที่ร่างไร้ลมหายใจของชายชราเจ้าสำนักที่อยู่ไกล พร้อมกับเอ่ยบอกพอลว่า
“เขาคือยอดฝีมือขั้นก่อสร้างรากฐานเช่นเดียวกับคุนปาเจ้าไปจัดการได้เลย แต่อย่าตะกละตะกรามให้มากนักล่ะ!”
“ขอบคุณเจ้านายที่เคารพ!”
พอลรีบเหาะไปที่ร่างของชายชราทันทีและจัดการใช้ประคำโลหิตทำให้เลือดในกายของชายชรากลายเป็นของเหลว แล้วจึงทำการดูดเลือดของเขาเข้าไป
ส่วนหลิงหยุนนั้นก็นั่งขัดสมาธิลงบนพื้นของแท่นบูชา พร้อมกับใช้เปลวไฟห้าธาตุหยิน–หยาง หลอมกลั่นพลังชีวิตหลากหลายภายในร่าง ในขณะที่กระแสวนหยิน–หยางยังคงดูดซับเอาพลังชีวิตโดยรอบเข้าไปไม่หยุด
หลิงหยุนยอมรับว่าสำนักเล็กๆอย่างสำนักเทียนหลิง แต่กลับสามารถเลือกตำแหน่งสร้างแท่นบูชาที่มีพลังชีวิตหนาแน่นได้ถึงเพียงนี้ นั่นเพราะตรงจุดที่มีกองหินสีน้ำตาลวางอยู่ก่อนหน้านั้น ก็คือตำแหน่งดวงตามังกรนั่นเอง!
เทือกเขาแห่งนี้ทอดยาวจากเหนือจรดใต้เป็นระยะทางกว่าพันกิโลเมตร พลังชีวิตที่ปรากฏอยู่ก็หนาแน่นยิ่งนัก หลิงหยุนไม่สามารถทำใจปล่อยทิ้งไปเฉยๆได้ เขาต้องการดูดซับเอาพลังชีวิตภายในบริเวณนี้เข้าไปให้หมด!
หลิงหยุนนั่งอยู่เช่นนั้นนานกว่าครึ่งชั่วโมงจนกระทั่งรู้สึกว่า พลังชีวิตที่แผ่ซ่านออกมาจากบริเวณดวงตามังกรเริ่มเบาบางลงเรื่อยๆ จนแทบไม่เหลือ
แต่แล้วจู่ๆดวงตาของหลิงหยุนก็เบิกโพลงขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงสัญญาณอันตรายบางอย่าง!
“แย่แล้ว!”
เพียงแค่พริบตาเดียวร่างของหลิงหยุนก็มายืนอยู่ข้างพอล พร้อมกับคว้าข้อมือของมันไว้ ปากก็ร้องตะโกนออกไปว่า
“หนีเร็ว!”
หลิงหยุนใช้วิชาใต้พิภพดำดิ่งลงไปใต้ผืนดินด้านล่างอย่างรวดเร็ว..
ผืนดินบริเวณใต้ฝ่าเท้าของหลิงหยุนกับพอลพลันเปลี่ยนเป็นอ่อนนุ่ม และขยับขึ้นลงดั่งเกลียวคลื่น จากนั้นร่างของทั้งคู่ก็ได้จมหายเข้าไปใต้ผืนปฐพี
ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เข้าสู่ขั้นชีเฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-7) หลิงหยุนก็สามารถฝึกวิชาสลายปัญจธาตุได้ถึงขั้นสุด และนั่นช่วยให้หลิงหยุนสามารถใช้วิชาใต้ปฐพี เปลี่ยนดินและหินที่แข็งแกร่ง ให้กลายเป็นคลื่นอ่อนนุ่มดั่งธาราได้
หลิงหยุนพาพอลดำดิ่งลึกลงไปใต้ดินและไม่ว่าร่างของเขาเคลื่อนผ่านไปบริเวณใด ทั้งดินและหินก็จะกลายเป็นของเหลวอ่อนนุ่มขึ้นมาทันที และหลิงหยุนก็ได้ใช้โล่ลมปราณปกป้องร่างของตนกับพอลไว้อีกชั้น
สิบเมตร..ยี่สิบเมตร.. สามสิบเมตร.. ห้าสิบเมตร!
หลังจากที่หลิงหยุนกับพอลดำลึกลงไปได้ราวห้าสิบเมตรทั้งคู่ก็ชนเข้ากับหินที่แข็งแกร่งยิ่ง แม้เขาจะใช้วิชาใต้พิภพขั้นสุดแล้ว ก็ยังไม่สามารถเจาะลงไป หรือทำให้หินชั้นนี้สลายเป็นของเหลวได้
“เอาล่ะ!ลึกเพียงนี้ก็น่าจะพ้นอันตรายแล้ว!”
แต่ถึงอย่างนั้นหลิงหยุนก็ยังไม่มั่นใจพอเขาเรียกกระบี่โลหิตเทวะออกมา และจัดการใช้กระบี่ด้ามนี้ขุดลงไปในหินที่แข็งแกร่ง จนกระทั่งเป็นหลุมลึงลงไปราวสองเมตร
“เกิดอะไรขึ้นงั้นรึเจ้านาย”
ในที่สุดพอลก็เอ่ยถามหลิงหยุนออกมาด้วยความงุนงงสงสัยหลิงหยุนยกมือขึ้นชี้ไปด้านบนเหนือศรีษะ พร้อมกับตอบไปว่า
“ระเบิดน่ะสิ!เจ้าฟังดูให้ดี..”
ตูม!ครืน..
หลังจากหลิงหยุนเอ่ยจบไม่นานนักบนผืนดินเหนือศรีษะของพวกเขาทั้งคู่ ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น ตามมาด้วยแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนจะกลายเป็นทะเลเพลิงในเวลาต่อมา!
ทางด้านทิศเหนือและเทศใต้ของสำนักเทียนหลงนั้นฐานทัพทหารทั้งสองแห่ง มีการสั่งยิงขีปนาวุธนับพันลูกเข้าใส่สำนักเทียนหลิง!
แม้กระทั่งผ่านไปราวสิบนาทีก็ยังคงมีเสียงระเบิดรุนแรงดังต่อเนื่องไม่หยุด และเวลานี้หลิงหยุนและพอลที่หลบอยู่ใต้ดิน ก็ถึงกับหูอื้อไปหมด
บริเวณใต้ดินที่ทั้งคู่หลบซ่อนตัวอยู่นั้นเริ่มร้อนระอุจากทะเลเพลิงด้านบน แต่ความร้อนระดับนี้ ก็มิได้ส่งผลต่อหลิงหยุนกับพอลเลยแม้แต่น้อย!
“หึ!ดูเหมือนข้าคงจะเมตตาคนผิดสินะ! นี่พวกมันคงคิดที่จะสังหารข้าด้วยขีปนาวุธ และฝังร่างข้าไว้ที่นี่เลยสินะ!”
หลังจากที่แรงระเบิดเริ่มสงบลงแล้วหลินหยุนถึงกับกัดฟันกรอด พร้อมกับคำรามรอดไรฟัน
จากการยิงขีปนาวุธในครั้งนี้ทำให้สำนักเทียนหลิงยุบหายลงไปในหลุมลึก ที่มีความกว้างถึงสองร้อยเมตร และลึกกว่าสามสิบเมตรในทันที ซึ่งนับว่าโชคดี เพราะหากแรงระเบิดสามารถทำลายล้างลึกลงไปอีกสักสิบเมตร หลิงหยุนกับพอลก็คงต้องแหลกเป็นจุล
“ออกไปจากที่นี่กันดีกว่า!”
หลิงหยุนพาพอลดำออกจากหุบเขาแห่งนี้และได้แต่คิดในใจว่า ‘ในเมื่อพวกเจ้าไร้เมตตา ก็อย่าได้ตำหนิว่าข้าไร้ปราณี!’
จากนั้นหลิงหยุนก็ได้มุ่งหน้าไปทางด้านทิศใต้..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร