บทที่ 1595 : เงาพุทธองค์
เมื่อครั้งที่หลิงหยุนเข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นชีเฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-7) นั้น เขาก็พร้อมที่จะบุกถล่มสำนักหมื่นพุทธรูปแล้ว นับประสาอะไรที่ตอนนี้เขาได้เข้าสู่ขั้นปาเฉิงชี่ ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์จากรูปปั้นขององค์พระโพธิสัตว์กวนอิมในระหว่างเดินทางมาที่นี่
อีกทั้งเวลานี้หลิงหยุนยังมีพลังเหนือธรรมชาติอย่างดวงตาเทวะเทียนเอี๋ยนทง และก้าวเทวะเทียนจู๋ทง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในอภิญญาหกทางพุทธศาสนา
และด้วยข้อได้เปรียบของพลังเหนือธรรมชาติทั้งสองนี้ทำให้หลิงหยุนสามารถไล่ล่าศิษย์ของสำนักหมื่นพุทธรูปได้อย่างง่ายดาย เท้าเทวะเทียนจู๋ทงช่วยให้หลิงหยุนสามารถก้าวหลบอาวุธที่พุ่งเข้ามาได้รวดเร็ว จนอาวุธเหล่านั้นไม่สามารถสัมผัสได้แม้กระทั่งอาภรณ์ของเขา
หลิงหยุนดูดเอาพลังพุทธะจากร่างของพยัคฆ์จนหมดแล้วจึงได้โยนร่างที่ไร้เรี่ยวแรงประหนึ่งซากศพนั้นคืนให้กับอาจารย์พายุไป
“ข้าคืนศิษย์ให้กับเจ้า!”
ในเวลานั้นอาจารย์พายุกำลังควงคทาในมือฟาดฟันเข้าใส่หลิงหยุนราวกับคนคลุ้มคลั่ง แต่เมื่อเห็นหลิงหยุนโยนร่างของน้องชายกลับมาเช่นนั้น ด้วยความตกใจ เขาจึงรีบพุ่งตรงเข้าไปรับร่างของพยัคฆ์ไว้อย่างรวดเร็ว
“พยัคฆ์!”
อาจารย์พายุโอบร่างของพยัคฆ์ไว้มือพร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความคั่งแค้นใจ แม้พยัคฆ์จะยังมีชีวิตอยู่ แต่จุดตันเถียนได้ถูกทำลายสิ้น และพลังพุทธะในกายก็ถูกดูดไปจนหมด ใบหน้าของเขาจึงซีดขาวราวกับกระดาษ ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก และต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น
อาจารย์พายุอุ้มร่างของน้องชายกระโดดออกจากสนามต่อสู้เข้าไปหาศิษย์กลุ่มหนึ่งที่ยืนดูอยู่ พร้อมกับร้องตะโกนสั่ง ก่อนจะกระโดดกลับไปที่ลานจตุรัสด้วความโกรธแค้น
“พวกเจ้าช่วยดูแลพยัคฆ์แทนข้าทีถ้าเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี รีบพาเขาหนีไปจากที่นี่ทันที!”
“ครับท่านอาจารย์!”ศิษย์ทั้งหมดพยักหน้ารับคำสั่งพร้อมกันทันที
“อ๊าก!!”
ในเวลานั้นเองเสียงกรีดร้องของใครบางคนก็ดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ศิษย์ที่โชคร้ายของอาจารย์พายุก็คือสิน!
หลิงหยุนทำทุกอย่างเหมือนที่ทำกับพยัคฆ์เขาจัดการทำลายจุดตันเถียนของสิน แล้วจึงทำการดูดเอาพลังพุทธะเข้าไปในร่าง
ช่างน่าแปลก..ที่หลังจากหลิงหยุนดูดเอาพลังพุทธะของพยัคฆ์เข้าไปในร่างแล้ว แสงสว่างเจิดจ้าตามจุดฝังเข็มต่างๆในร่างกาย ก็เริ่มเปล่งประกายเจิดจ้ามากขึ้น ประหนึ่งดวงตะวันลูกเล็ก
และเมื่อทำการดูดซับเอาพลังพุทธะจากสินเข้าไปร่างพลังพุทธะที่บริสุทธิ์นี้กลับพุ่งตรงเข้าไปตามจุดฝังเข็มทั่วร่างของหลิงหยุนในทันที โดยมิต้องผ่านกระบวนการกลั่นให้บริสุทธิ์แต่อย่างใด
และนั่นทำให้หลิงหยุนยิ้มออกมาอย่างมีความสุข!
“ท่านอาจารย์..ช่วยข้าด้วย!”
หลังจากที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อีกสินจึงได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ร่างของเขาแน่นิ่งไม่ขยับคล้ายกับคนที่กำลังสิ้นหวังท้อแท้
“หึ!พวกเจ้าต่างก็ใช้ความเป็นนักบวชบังหน้า ก่อตั้งพันธมิตรหนานหยางขึ้นมา จุดประสงค์ก็เพื่อก่อกวนประเทศของข้า จึงจำเป็นที่ข้าจะต้องให้บทเรียนกับพวกเจ้าบ้าง พวกเจ้าจะได้หลาบจำ มิกล้าทำเรื่องเช่นนี้อีก!”
หลิงหยุนหลบการจู่โจมของอีกฝ่ายไปด้วยและร้องตะโกนบอกไปด้วย.. หลังจากที่อาจารย์พายุจัดการเรื่องของน้องชายแล้วเขาก็ได้กระโดดเข้าไปยืนข้างกายท่านอาจารย์จันทร์ พร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางหลิงหยุน และกล่าวออกมาว่า
“ท่านเจ้าสำนัก..ท่านอาจารย์จันทร์.. ท่านทั้งสองก็เห็นแล้วว่าเจ้าหนุ่มหลินเทียนนั่นทำร้ายพยัคฆ์กับสิน พวกเท่านสองคนยังจะทนนิ่งเฉยอยู่ได้อีกอย่างนั้นหรือ เหตุใดยังไม่ลงมือจัดการกับเขาอีก?”
ท่านอาจารย์กระทิงและท่านอาจารย์จันทร์ ได้แต่หันไปมองหน้ากัน จนอาจารย์พายุต้องร้องตะโกนออกไปว่า
“หากวันนี้ท่านทั้งสองไม่ลงมือสำนักหมื่นพุทธรูปของเราคงได้สิ้นชื่อจริงๆแน่!”
หลังจากกล่าวจบอาจารย์พายุก็ไม่สนใจที่จะรอฟังคำตอบจากท่านอาจารย์ทั้งสองอีก แสงสีทองสุกสว่างก็ได้พวยพุ่งออกมาจากศรีษะของอาจารย์พายุ และค่อยๆหลอมรวมกัน กลายเป็นพระพุทธรูปสีทองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้า ทันทีที่แสงสีทองหลอมรวมเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่แล้วอาจารย์พายุก็ได้ใช้นิ้วเขียนอักขระบางอย่างบนฝ่ามือของตนเอง พร้อมกับซัดฝ่ามือนั้นไปทางร่างของหลิงหยุน
“ฆ่ามัน!”
พระพุทธรูปสีทองขนาดใหญ่นั้นเริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวและเพียงแค่พริบตาเดียว ก็ไปปรากฏอยู่ตรงหน้าหลิงหยุน พร้อมกับซัดฝ่ามือที่มีขนาดใหญ่เท่าอาสนะเข้าใส่ร่างของเขาทันที!
“นี่มันอะไรกัน!”
หลิงหยุนสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจึงได้ตัดสินใจก้าวถอยหนีออกจากรัศมีของฝ่ามือพระพุทธรูปสีทองทันที
ก้าวเทวะเทียนจู๋ทงเพียงก้าวเดียวก็ได้พาร่างของหลิงหยุนถอยห่างออกไปได้ไกลได้ถึงหนึ่งหนึ่งกิโลเมตร แต่หลิงหยุนกลับรู้สึกว่า แรงกดดันนั้นมิได้ลดลงเลย เขาจึงได้เงยหน้าขึ้นมองและพบว่า เงาพุทธองค์สีทองนั้นกลับยังคงปรากฏอยู่ตรงหน้าเช่นเดิม และระยะห่างระหว่างตนเองกับเงาพุทธองค์สีทองนั้น ก็ยังคงเท่าเดิม และฝ่ามือนั้นก็ยังคงกดลงอยู่เหนือศรีษะของเขาเช่นเดิม
“หึ!พระพุทธรูปสีทองนี้เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าสินะ”
หลิงหยุนร้องคำรามออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางร่างของอาจารย์พายุ
อาจารย์พายุรู้ตัวว่าหากยังคงต่อสู้กับหลิงหยุนเช่นเดิมอย่าว่าแต่จะสังหารหลิงหยุนเลย แม้แต่จะทำให้บาดเจ็บก็ยังทำไม่ได้ เขาจึงได้ตัดสินใจใช้พลังขั้นสุดของตนเองจัดการกับหลิงหยุน
ในเมื่อไม่สามารถหลีกหนีฝ่ามือของอีกฝ่ายได้พ้นหลิงหยุนจึงคร้านที่จะหนีอีก เขาใช้พลังชี่ในร่างสร้างโล่ลมปราณขึ้นปกป้องร่างกาย พร้อมกับยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้น รับฝ่ามือที่กดลงบนศรีษะทันที
บูม!
พลังของหลิงหยุนไม่อาจต้านทานแรงกดของฝ่ามือขนาดใหญ่นั้นได้และร่างของเขาก็ร่วงหล่นลงจากท้องนภากว่าสามร้อยเมตรในทันที!
ฟิ้ว..ฟิ้ว.. ฟิ้ว..
ในจังหวะที่หลิงหยุนกำลังถูกกดร่วงลงมานั้นอาวุธเจ็ดถึงแปดชิ้นก็ได้พุ่งเข้าใส่ร่างของเขาพร้อมๆกัน
แต่นับว่าโชคดีที่อาวุธเหล่านั้นไม่สามารถทำอันตรายหลิงหยุนได้เขาเงยหน้าขึ้นมองไปด้านบนอีกครั้งและพบว่า ฝ่ามือขนาดใหญ่นั้นกำลังกดลงมาบนศรีษะของเขาอีก และครั้งนี้ดูเหมือนอาจารย์พายุจะลงมือหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม
“พวกเจ้ารนหาที่ตายกันเอง!”
แววตาของหลิงหยุนเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกมากขึ้นจากนั้น แสงสีทองก็ได้พวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา ก่อนที่หอกมังกรทองจะพุ่งตามออกมา!
กระบี่เหินเงาธนูและตราหยกจักรพรรดิก็ได้พุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของเขา ในขณะที่กระบี่กังฉีก็ได้พุ่งออกมาจากจุดตันเถียน!
“สังหารพวกมันให้หมด!”
หลิงหยุนใช้อาวุธวิเศษทั้งสี่ของตนจู่โจมเข้าใส่ศัตรูทันที!
บูม!
ยังไม่ทันที่ฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่จะทำอันตรายหลิงหยุนได้ของวิเศษทั้งสี่ชิ้นก็ได้ทำร้ายศิษย์สำนักหมื่นพุทธรูปสี่คนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว
“อ๊าก!”
“อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังระงมขึ้นสองคนถูกหอกมังกรทอง และกระบี่เหินเงาธนู แทงและฟันเข้าใส่ร่างจนร่วงลงไปกองกับพื้น คนที่สามก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกตราหยกจักรพรรดิกระแทกใส่ร่าง ในขณะที่อีกคนก็ถูกกระบี่กังฉีแทงเข้า!
และเวลานี้มือข้างซ้ายของหลิงหยุนก็มีกระบี่โลหิตเทวะปรากฏขึ้น เขาตวัดกระบี่ในมือขึ้นเหนือศรีษะไปมาโดยแทบไม่ต้องเงยหน้ามอง ลำแสงสีแดงสว่างเจิดจ้าพุ่งผ่านไปมา จากนั้น ฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่ก็ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“แย่แล้ว!”
อาจารย์พายุที่อยู่ด้านล่างนั้นกำลังกระหยิ่มยิ้มย่องใจว่า หลิงหยุนจะไม่สามารถรับมือการจู่โจมของตนในครั้งนี้ได้ และกำลังคิดว่าจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะสามารถพลิกกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ และน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิมเช่นนี้ หลังจากที่ฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่ถูกฟันจนขาดเป็นเสี่ยงๆ ตัวเขาเองก็ถึงกับกระเด็นถอยหลังออกไปหลายก้าว
“นี่..นี่มัน..”
ใบหน้าของอาจารย์พายุเปลี่ยนเป็นซีดเผือดและตกตะลึงนิ่งอึ้งไป จนลืมที่จะจู่โจมหลิงหยุนใหม่อีกครา แต่ถึงแม้อาจารย์พายุคิดจะใช้เงาพุทธองค์จู่โจมเข้าใส่หลิงหยุนอีกครั้งก็คงทำเช่นนั้นไม่ได้แล้ว เพราะหลังจากที่หลิงหยุนฟันฝ่ามือสีทองใหญ่จนขาดสะบั้น เงาพุทธองค์สีทองนั้นก็ได้มลายหายไปในพริบตาเช่นกัน!
เงาพุทธองค์สีทองเลือนหายไปกลายเป็นพลังพุทธะที่บริสุทธิ์ ให้หลิงหยุนดูดซับเข้าไปในร่างกายได้อย่างง่ายดาย
หลังจากการประมือกับหลิงหยุนในครั้งนี้ศิษย์สำนักหมื่นพุทธองค์สองคน ถูกหลิงหยุนดูดเอาพลังพุทธะไปจากร่าง อีกสี่คนได้รับบาดเจ็บสาหัส และแม้แต่ตัวอาจารย์พายุเอง ก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน
เวลานี้..จึงเหลือผู้ที่จะรับมือหลิงหยุนได้ไม่ถึงครึ่ง!
หลิงหยุนถลาลงมาพร้อมกับร้องตะโกนก้อง“พวกเจ้าเตรียมตัวตายได้แล้ว!”
��
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร