Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1596

บทที่ 1596 : รนหาที่ตาย!
  เวลานี้..ภายในลานจตุรัสด้านนอกของสำนักหมื่นพุทธองค์ เริ่มเกิดความโกลาหลวุ่นวายมากขึ้น
  หลังจากที่หลิงหยุนได้ถล่มสำนักเทียนหลิงไปจนกระทั่งบุกมาถึงหน้าประตูสำนักหมื่นพุทธรูปนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยไปมากกว่าสองชั่วโมง ในช่วงระยะเวลานี้ สำนักหมื่นพุทธรูปจึงพอมีเวลาที่จะเชื้อเชิญศิษย์และอาจารย์จากสำนักต่างๆทั่วประเทศ ให้มาร่วมกันรับมือกับศัตรูที่กำลังจะบุกมา และเวลานี้ศิษย์และอาจารย์จากสำนักต่างๆ ก็ได้มารวมตัวกันอยู่หน้าลานจตุรัสแห่งนี้แล้ว
  ในบรรดาพระสงฆ์กว่าสองร้อยรูปนี้มีทั้งผู้ที่อยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐาน และอยู่ในขั้นพลังชี่ระดับต่างๆแล้ว ในสายตาของพวกเขา การรับมือกับผู้บุกรุกเพียงแค่คนเดียว ด้วยกำลังคนที่มากมายเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ออกจะเกินไป  ด้วยเหตุนี้เมื่อหลิงหยุนบุกเข้ามา อาจารย์หลายท่านกลับไม่เห็นด้วย ที่จะช่วยกันรุมเขาเพียงคนเดียว และดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจกับการกระทำเช่นนี้สักเท่าไหร่ พวกเขาไม่เชื่อว่า ผู้บุกรุกเพียงแค่คนเดียว จะสามารถทำอะไรได้มากนัก
  แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังอาจารย์หลายท่านก็เริ่มตระหนักว่า ความคิดของพวกตนนั้นช่างไร้สาระสิ้นดี เพราะความแข็งแกร่งของชาวยุทธจากเมืองจีนผู้นี้ น่าสะพรึงกลัวกว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้มากนัก!
  นั่นเพราะหลิงหยุนสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วอย่างน่าอัศจรรย์เขาเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างอิสระ แม้จะมีศัตรูรอบกายคอยขัดขวาง แม้แต่ศิษย์ และอาจารย์ที่มีฝีมือสูงส่งของสำนักหมื่นพุทธรูป ก็ยังถูกหลิงหยุนจับตัวได้อย่างง่ายดาย และต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า
  “หนีเร็ว!”
  หลังจากที่เห็นหลิงหยุนจับร่างของพยัคฆ์ซึ่งอยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐานแต่เวลานี้กลับมีสภาพที่ไม่ต่างจากตายทั้งเป็นโยนออกมานั้น ศิษย์หมื่นพุทธรูปหลายคนต่างก็พากันหวาดกลัว และต้องการที่จะหนีเอาชีวิตรอด!
  และกลุ่มที่หนีไปก่อนใครๆก็คือกลุ่มที่อาจารย์พายุฝากน้องชายไว้ในความดูแลนั่นเอง ศิษย์กลุ่มนี้ล้วนเข้าสู่ขั้นจิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-9) แล้ว แต่ทุกคนกลับไม่ลังเลที่จะหนีเอาชีวิตรอด และรีบพาร่างสลบไสลของพยัคฆ์พุ่งตรงไปที่หน้าประตู
  หลิงหยุนได้เปิดจิตหยั่งรู้ครอบคลุมไว้ทั่วทั้งอาณาบริเวณของสำนักหมื่นพุทธรูปทำให้เขาสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวทุกอย่างได้ชัดเจน มีหรือที่เขาจะยอมปล่อยให้ศัตรูหนีรอดไปได้ง่ายๆ
  หลิงหยุนกระโดดหมุนตัวตามศิษย์กลุ่มนั้นของสำนักหมื่นพุทธรูปไปอย่างรวดเร็วและเพียงแค่พริบตาเดียว ก็ไปยืนขวางหน้าพวกเขาทั้งหมดไว้ได้แล้ว..
  ในสายตาของหลิงหยุนเวลานี้ยอดฝีมือในขั้นจิ่วเฉิงชี่ ล้วนไม่แตกต่างจากลูกแกะในกำมือ ที่เขาสามารถลงมือสังหารได้อย่างง่ายดาย หลิงหยุนจัดการจี้จุดของพวกเขาทีละคน ไม่นานนักทั้งหมดก็ไม่ต่างจากหุ่นกระบอก ที่ถูกหลิงหยุนลากกลับไปที่เดิมได้อย่างง่ายดาย
  “คิดจะหนีงั้นรึ!พวกเจ้าฝันไปแล้ว!”
  หลิงหยุนเกือบตายเพราะความปราณีเมื่อครั้งที่ปล่อยศิษย์สำนักเทียนหลิงไป เขาจะไม่ยอมทำผิดพลาดเพราะความใจอ่อนเป็นครั้งที่สองแน่!
  บูม!
  หลังจากนั้นหลิงหยุนก็ได้ปลดปล่อยกระแสวนหยิน–หยางออกมาจากร่าง พายุหมุนลูกใหญ่ปกคลุมไปทั่วทั้งลานจตุรัสแห่งนี้ ก่อนจะเริ่มดูดเอาพลังปราณจากศิษย์ที่อยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐานเข้ามาอย่างคลุ้มคลั่ง
  ก่อนหน้านี้หลิงหยุนไม่สามารถใช้กระแสวนหยิน–หยาง ดูดเอาพลังปราณในขั้นก่อสร้างรากฐานจากศิษย์สำนักหมื่นพุทธรูปเข้าไปได้ แต่หลังจากที่ได้รับพลังพุทธะบริสุทธิ์เข้าไปก่อนหน้านี้ ทำให้เขาสามารถดูดซับเอาพลังของยอดฝีมือเหล่านี้เข้าไปได้อย่างไร้ซึ่งอุปสรรค
  ในเวลาเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวกระแสวนหยิน–หยางก็ได้ดูดเอาพลังปราณจากพระสงฆ์นับร้อยรูปที่อยู่ในบริเวณนั้นเข้าไป หลังจากที่พลังปราณถูกดูดเข้าไปจนหมด เสียงกรีดร้องก็ดังระงมขึ้นทั่วทั้งบริเวณอีกครั้ง!
  “ท่านเจ้าสำนักช่วยข้าด้วย!”
  “ท่านผู้คุ้มกฏช่วยพวกเราด้วย!พลังปราณของพวกเราถูก…”
  “อ๊าก!!”
  กรแสวนหยิน–หยางนั้นหมุนไปด้วยความเร็วที่สูงยิ่งจึงยากที่จะมีผู้ใดหนีรอดจากรัศมีของมันได้ ผู้ที่ถูกพายุหมุนดูดเอาพลังปราณออกไปจากร่าง ต่างก็พากันกรีดร้องโหยหวนจนดังระงมไปทั่ว
  “โอ้!ไม่นะ..”   อาจารย์พายุไม่คิดไม่ฝันว่าความมุทะลุของตนเอง จะนำพาหายนะใหญ่หลวงมาสู่สำนักหมื่นพุทธรูปได้มากถึงเพียงนี้ จึงได้แต่กรีดร้องออกมาด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ บุกเข้าจู่โจมหลิงหยุนด้วยคทาในมืออีกครั้ง
  บูม!
  เวลานี้หลิงหยุนเองก็มีของวิเศษเช่นเดียวกันเขาจึงได้แต่ยืนนิ่ง และไม่คิดที่จะหลบหนีแม้แต่น้อย ทันทีที่อาจารย์พายุบุกจู่โจมเข้ามา เขาก็ได้เรียกตราจักรพรรดิเข้ามาขวางกั้นคทาในมือของอาจารย์พายุไว้ เกิดเป็นแสงสีทองสุกสว่างปะทะกับแสงสีขาวเจิดจ้า และมีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ
  ในขณะเดียวกันนั้นกระแสวนหยิน–หยางก็ยังคงทำหน้าที่ดูดซับเอาพลังปราณเข้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง พระสงฆ์บางรูปถึงกับตกใจจนตายไปเลยก็มี
  การจู่โจมของอาจารย์พายุดูเหมือนจะไม่มีผลใดๆกับหลิงหยุนแม้เขาจะเคียดแค้นมากเพียงใด แต่ก็รู้ตัวดีว่าไม่อาจเอาชนะหลิงหยุนได้ หากยังฝืนต่อไปก็เท่ากับรนหาที่ตาย
  อาจารย์พายุได้แต่ล่าถอยกลับมาและตรงเข้าไปหาอาจารย์กระทิงกับอาจารย์จันทร์ ที่ยังคงนั่งสงบนิ่งราวกับผืนน้ำ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
  “ท่านกระทิงท่านจันทร์ หลินเทียนบุกมาอาละวาดเข่นฆ่าศิษย์ภายในสำนักราวกับผักปลาเช่นนี้ พวกท่านทั้งสองยังจะวาดฝันถึงการไม่สูญเสียเลือดเนื้อ หรือการเจรจาต่อรองอีกงั้นรึ”
  “แต่สำหรับข้า– พายุ.. ต่อให้คืนนี้ต้องสิ้นชีพ ก็จะต้องนำเจ้าคนชั่วช้านี้ไปลงนรกให้ได้!”
  หลังจากพูดจบอาจารย์พายุก็ได้นั่งลงขัดสมาธิ พร้อมกับหลับตาอีกครั้ง ครานี้ลำแสงสีทองสุกสว่างได้พวยพุ่งออกมาจากศรีษะของเขาอีกครั้ง และได้หลอมรวมกันเป็นเงาพุทธองค์ที่เกือบจะใหญ่เป็นสองเท่าก่อนหน้านี้
  อาจารย์พายุได้ใช้พลังปราณในร่างทั้งหมดที่มีเป็นครั้งสุดท้ายและครานี้ทวารทั้งเจ็ดของเขาก็เริ่มมีโลหิตสีแดงไหลออกมา เงาพุทธองค์ค่อยๆเคลื่อนออกไป พร้อมกับเอื้อมฝ่ามือขนาดใหญ่นั้นไปคว้าร่างของหลิงหยุนไว้อย่างรวดเร็ว
  “เจ้านี่มันราวีข้าไม่หยุดจริงๆ!”
  เวลานี้หลิงหยุนกำลังใช้กระแสวนหยิน–หยาง ดูดเอาพลังปราณจากพระสงฆ์นับร้อยรูปเข้ามาพร้อมกัน เขากำลังรู้สึกสดชื่น และมีความสุขกับพลังปราณที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การถูกขัดจังหวะในเวลานี้จึงเป็นเรื่องที่น่าโมโหอย่างมาก หลิงหยุนจึงได้เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
  เคร้ง!
  กระบี่โลหิตเทวะปรากฏขึ้นในมือของหลิงหยุนอีกครั้งก่อนจะกระหน่ำฟันลงไปบนฝ่ามือของเงาพุทธองค์ แต่กลับปรากฏเสียงดังคล้ายโลหะกระทับกันดังขึ้น แม้แต่มือของหลิงหยุนเองยังถึงกับชา
  เงาพุทธองค์เพียงแค่ชะงักเล็กน้อยหลังจากที่ถูกกระบี่โลหิตเทวะฟันเข้าแต่ฝ่ามือนั้นยังคงบีบร่างของหลิงหยุนแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ
  เห็นได้ชัดว่าอาจารย์พายุถึงตาย ก็ต้องสังหารหลิงหยุนให้ได้!
  หลิงหยุนตวัดกระบี่ในมือไปมาอย่างรวดเร็วและฟันเข้ากับฝ่ามือขนาดใหญ่นั้นพร้อมกันคราเดียวถึงเก้าครั้ง
  เคร้ง..เคร้ง.. เคร้ง..
  เสียงโลหะกระทบกันดังต่อเนื่องกันครู่ใหญ่ร่างของอาจารย์พายุที่ยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่กับพื้นนั้น ถึงกับสั่นสะท้านอย่างรุนแรง และกระเด็นถอยหลังออกไปราวสิบก้าว ก่อนจะกระอักโลหิตสีแดงออกมา แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้!
  “ตายยากนักรึ!”
  หลิงหยุนกระหน่ำฟันกระบี่โลหิตเทวะเข้าที่ฝ่ามือขนาดใหญ่อีกนับสิบครั้งแม้จะรู้ดีว่านี่ไม่อาจทำให้ตนเองหลุดพ้นจากการบีบรัดไปได้ แต่เขาก็ไม่รีบร้อนอะไรนัก หลิงหยุนกัดฟันโคจรดาราคุ้มกายขั้นสุด
  บูม!
  ฝ่ามือพุทธองค์ขนาดใหญ่นั้นบีบรัดร่างของหลิงหยุนแน่นขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกว่าเวลานี้แขนขาเริ่มขยับเขยื้อนไม่ได้ การหายใจก็ลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ลมปราณและโลหิตในร่างเริ่มหมุนเวียนได้ช้าลง
  เมื่อพลังปราณในร่างของหลิงหยุนเริ่มหมุนเวียนได้ช้าลงกระแสวนหยิน–หยางที่อยู่ภายนอก ก็เริ่มอ่อนกำลังลงเช่นกัน ทำให้หลายคนสามารถใช้โอกาสนี้หลบหนีไปได้ แต่ถึงอย่างนั้น ก็หมดเรี่ยวหมดแรงกันไปมาก เพราะได้ถูกดูดพลังปราณไปจากร่างจนหมดแล้ว
  และในที่สุดอาจารย์พายุก็สามารถจับหลิงหยุนไว้ได้สำเร็จ แต่ใบหน้าของเขากลับเปื้อนไปด้วยโลหิตสีแดงอย่างน่าสยดสยอง ปากก็ร้องตะโกนออกไปว่า  “ท่านกระทิงท่านจันทร์ พวกท่านทั้งสองยังจะนิ่งเฉยอยู่ทำไม เหตุใดยังไม่รีบฉวยโอกาสนี้สังหารผู้บุกรุกอีกเล่า?”
  “ลงมือ!”
  เจ้าสำนักกระทิงและผู้คุ้มกฏจันทร์ร้องตะโกนออกมาพร้อมกัน ในช่วงเวลาที่เกี่ยวพันถึงความเป็นความตายของคนทั้งคู่นั้น ในที่สุดท่านอาจารย์ทั้งสองก็ต้องตัดสินใจ!
  ฟิ้ว..ฟิว..
  ลำแสงสีขาวพุ่งออกจากหว่างคิ้วของท่านอาจารย์ทั้งสองพร้อมกัน..
  สิ่งที่พุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของอาจารย์กระทิงนั้นคือหลังคาขนาดใหญ่ที่มีแสงสีทองสุกสว่าง ปกคลุมพื้นที่ส่วนหนึ่งของลานจตุรัสไว้ในทันที!
  “ศิษย์สำนักหมื่นพุทธรูปพวกเจ้ารีบเข้าไปหลบใต้หลังคานี้เร็วเข้า!”
  ผู้ที่ยังคงมีชีวิตรอดต่างก็พากันดีอกดีใจ และรีบวิ่งเข้าไปหลบภายใต้หลังคาสีทองสุกสว่างนั้นทันที
  ส่วนของวิเศษที่พุ่งออกจาหว่างคิ้วของท่านอาจารย์จันทร์นั้นกลับเป็นกระจกสีดำที่อีกด้านเป็นแสงสว่างเจิดจ้า และทันทีที่ปรากฏขึ้น ก็ปลดปล่อยลำแสงสีขาวออกมา ทำให้ทั่วทั้งลานจตุรัสสว่างเจิดจ้าราวกับเวลากลางวันขึ้นในทันที!
  ลำแสงสีขาวที่พวยพุ่งออกมาจากกระจกวิเศษนี้คือพลังพุทธะที่ทรงอานุภาพ และมีความแข็งแกร่งยิ่ง ลำแสงสีขาวพุ่งทะยานเข้าใส่ของวิเศษของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว และเมื่อกระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนปะทะเข้ากับลำแสงจากกระจกวิเศษเข้า มันก็ร่วงหล่นลงมาราวกับเป็นเพียงแค่กระบี่ธรรมดา!
  “พวกเจ้ารนหาที่ตายแท้ๆ!”
  เวลานี้ร่างของหลิงหยุนถูกฝ่ามือของเงาพุทธองค์บีบรัด และกักขังไว้ จึงไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกได้ แต่ถึงแม้เขาจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยดวงตา แต่ก็สามารถรับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดได้จากจิตหยั่งรู้ของตนเอง
  เขาจึงได้รู้ว่าเวลานี้อาจารย์ทั้งสามแห่งสำนักหมื่นพุทธรูป กำลังร่วมมือกันกำจัดตนเองอยู่!
  “หึ!คิดจะกักขังข้าไว้ในนี้งั้นรึ พวกเจ้าอย่าได้ฝันไปเลย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร