Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1602

บทที่ 1602 : เส้นทางหยก
  “สมบัติล้ำค่างั้นรึเจ้านายที่เคารพ”
  พอลร้องอุทานออกมาพร้อมกับหันมองไปรอบตัว ก่อนจะยักไหล่เล็กน้อย และตอบหลิงหยุนกลับไปว่า
  “เจ้านายที่เคารพนอกจากป่าไม้หนาทึบแล้ว ข้าก็เห็นแต่สำนัก และเหมืองร้างที่ไร้ผู้คน..”
  แต่หลังจากที่เอ่ยตอบไปแล้วจู่ๆความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของพอล เขายกมือขึ้นชี้ไปทางเหมืองร้างที่อยู่ไกลออกไป พร้อมกับเอ่ยต่อในทันที
  “เหมืองร้าง..สมบัติล้ำค่าที่เจ้านายเอ่ยถึงเมื่อครู่คือเหมืองร้างงั้นรึ”
  “ไม่เลวนี่พอล!”
  หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆพร้อมกับยกมือขึ้นตบไหล่พอลเบาๆ ด้วยสีหน้าพึงพอใจ “เจ้ามาอยู่กับข้าได้ไม่นาน แต่กลับเฉลียวฉลาดขึ้นมากทีเดียว..”
  ที่ตั้งของสำนักภูติผีหมื่นพิษนั้นอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงหนือของประเทศพม่า และอยู่ห่างจากเขตชายแดนไปไม่ถึงสองร้อยกิโลเมตรเท่านั้น
  ทางตอนเหนือของประเทศพม่านั้นอุดมไปด้วยอัญมณีล้ำค่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นพลอยทับทิมแดง พลอยไพลินน้ำเงิน พลอยบุษราคัมเหลือง แต่อัญมณีที่ขึ้นชื่อที่สุดก็ดูเหมือนจะเป็น “หยก” ซึ่งมีมากเป็นภูเขาเลากาเลยทีเดียว!
  เมื่อครั้งที่หลิงหยุนบุกมาถึงสำนักภูติผีหมื่นพิษนี้เขามุ่งแต่ถล่มทำลายทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากอง และดูดซับเอาพลังหยินที่หนาแน่นเข้าไปในร่างเท่านั้น อีกทั้งพลังชั่วร้ายรุนแรงนี้ ก็ได้บดบังทรัพยากรล้ำค่าใต้ดินไว้ จนหลิงหยุนไม่อาจสัมผัสได้
  แต่หลังจากที่ได้ดูดซับเอาพลังหยินที่หนาแน่นปกคลุมทั่วทั้งบริเวณเข้าไปจนหมดแล้ว บรรยากาศรอบๆสำนักวิญญาณหมื่นพิษก็เริ่มกระจ่างใสขึ้น ไม่ขมุกขมัวเหมือนก่อน ทำให้หลิงหยุนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตจากหยกจำนวนมาก ที่กำลังแผ่ซ่านออกมา
  เขาไม่รอช้ารีบเปิดจิตหยั่งรู้ออกสำรวจรอบตัวทันที และในที่สุดก็พบว่า ทางด้านทิศเหนือของสำนักภูติผีหมื่นพิษแห่งนี้ มีเหมืองร้างตั้งอยู่
  แต่เรื่องเช่นนี้หลิงหยุนไม่มีทางบอกกับไวยอย่างแน่นอน เขาจึงได้จัดการส่งไวยกลับไปยังสำนักหมื่นพุทธรูปเสียก่อน จากนั้นจึงได้เหาะไปหาพอล และพาบริวารที่ซื่อสัตย์เหาะกลับมาที่นี่อีกครั้ง
  “เป้าหมายที่แท้จริงของข้าหาใช่เหมืองเล็กๆแห่งนี้ไม่ แต่เป็น..”
  หลิงหยุนหยุดนิ่งอยู่เพียงเท่านั้นแววตาทั้งคู่เป็นประกายวูบขึ้นมา พร้อมกับเอ่ยบอกพอลด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ
  “ไปกันเลยดีกว่า!”
  ในเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีทั้งหลิงหยุนและพอล ต่างก็เหาะไปถึงบริเวณเหมืองร้าง ทั้งคู่สัมผัสได้ถึงพลังชีวิตเข้มข้นโดยรอบ และดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นในทันทีที่พวกเขาทั้งคู่ไปถึง
  “ตามข้ามา!”
  บูม!
  หลิงหยุนเปิดจิตหยั่งรู้ออกสำรวจโดยรอบและรัศมีของมันก็ครอบคลุมบริเวณเหมืองแห่งนี้ทั้งหมด จากนั้นจึงได้สำรวจหาบริเวณที่มีพลังชีวิตหนาแน่นที่สุด เมื่อพบแล้วจึงได้เดินเข้าไปในบริเวณนั้นทันที
  “ที่นี่ล่ะ!”
  หลังจากนั้นหลิงหยุนจึงได้เดินวิชาพลังลับหยิน–หยาง เปลี่ยนดวงตาทั้งสองข้างของตนให้เป็นเนตรหยิน–หยาง และเริ่มใช้เนตรหยิน–หยางสำรวจเข้าไปในโขดหิน และศิลารอบตัวทันที เมื่อพบว่าหินก้อนใดเป็นอัญมณีล้ำค่า ก็จัดการนำฝ่ามือไปทาบ พร้อมกับเรียกเข้าไปเก็บไว้ในแหวนจักรวาลอย่างรวดเร็ว  เวลานี้หลิงหยุนได้เข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นปาเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-8) แล้ว จึงใช้เวลาไม่นานในการสำรวจหาหินพลังชีวิต ที่ภายในเป็นหยกเนื้อดีได้รวดเร็วมากขึ้น ต่างจากเมื่อครั้งที่ไปพนันหินในตลาดค้าของเก่าเมืองจิงฉู
  นอกเหนือจากขั้นพลังบ่มเพาะที่ก้าวหน้าจากเดิมแล้วเวลานี้หลิงหยุนยังมีทั้งเนตรหยิน–หยาง และดวงตาเทวะเทียนเอี๋ยนทง ทำให้สามารถมองเห็นเนื้อหินที่อยู่ภายในได้อย่างง่ายดาย เขาจึงสามารถนำหินหยกกลับไปได้ในจำนวนมาก
  และเพียงแค่เนตรหยิน–หยางอันทรงพลังก็ทำให้หลิงหยุนสามารถเลือกหินล้ำค่ากลับไปได้อย่างแม่ยำ และไม่ยากเย็นอะไร..
  ทั้งดวงตาและฝ่ามือของหลิงหยุนทำงานประสานกันไม่หยุด หินหยกขนาดต่างๆกันจำนวนมากมาย ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ และหมุนวนอยู่รอบตัวเขา ก่อนจะค่อยๆหายเข้าไปในแหวน
  แม้แต่หินหยกกองใหญ่ที่ถูกขุดค้างไว้ก่อนหน้าที่เหมืองจะร้าง ก็ถูกหลิงหยุนเก็บกลับเข้าไปในแหวนด้วยจนหมด
  จากนั้นไม่กี่นาทีต่อมาหลิงหยุนก็ก้มลงมองที่ปลายเท้าของตนเอง และสุ่มเลือกหินสีเทารูปร่างบิดเบี้ยวมีขนาดเท่าลูกฟุตบอลขึ้นมาหนึ่งก้อน ทันทีที่หินก้อนนี้ลอยขึ้นกลางอากาศ กระบี่เหินเงาธนูก็พุ่งออกมา
  ผิวด้านนอกของหินก้อนนั้นถูกคมกระบี่เฉือนออกเผยให้เห็นเนื้อในสีเขียวใสสว่างเจิดจ้า และแสงนั้นก็ค่อยๆสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ หลิงหยุนทำการเปิดเนื้อหินชั้นนอกออกทั้งหมด แล้วหยกเนื้อดีขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าตนเอง
  และนี่คือหยกสีเขียวเนื้อดีที่สุดเนื้อของมันนั้นนอกจากจะละเอียด และบริสุทธิ์ไร้รอยตำหนิแล้ว ยังเป็นสีเขียวใสเปล่งปลั่ง ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นหยกน้ำดีมากอีกด้วย!
  “ฮ่าๆๆข้าได้หยกเนื้อดีกลับไปมากมายเช่นนี้ วันหน้า ทั้งเซียนหยกและซ่งเจิ้งหยาง คงจะไม่ต้องกังวลใจเรื่องหยกหมดสต๊อคอีกแล้วสินะ!”
  หลิงหยุนหัวเราะออกมาพร้อมรำพึงรำพันกับตัวเองก่อนจะเรียกหยกล้ำค่าก้อนนั้นกลับเข้าไปไว้ในแหวนจักรวาล แล้วจึงจัดการเรียกหินหยกจำนวนมากที่กองอยู่ เข้าไปไว้ในแหวนเช่นกัน
  ถึงแม้ว่าหยกทั้งหมดที่หลิงหยุนนำกลับไปนั้นจะไม่ใช่หยกเนื้อดีที่สุดทุกก้อน แต่ก็นับว่าเป็นประโยชน์กับเขาอย่างมากในวันข้างหน้า อย่างน้อย หากเขาต้องการที่จะทำขวดสำหรับบรรจุโอสถที่ตนเองหลอมกลั่น เขาก็จะได้ไม่ต้องใช้หยกจักรพรรดิให้เป็นการสิ้นเปลือง
  หาไม่แล้วการที่เขาจะต้องมอบโอสถ พร้อมขวดหยกที่ทำจากหยกจักรพรรดิให้ผู้อื่น แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังอดนึกเสียดายไม่ได้..
  “เจ้านายที่เคารพครั้งนี้เจ้านายได้ผลประโยชน์กลับไปมากมายไม่น้อยทีเดียว อย่างน้อยๆ ก็ได้หยกกลับไปเป็นจำนวนมาก!”
  พอลซึ่งยืนมองหลิงหยุนอยู่ตลอดด้วยความเพลิดเพลินนั้นอดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ “ไม่ทราบว่าหากเจ้าของเหมืองได้มาเห็นภาพนี้เข้า เขาจะรู้สึกเช่นใดกันนะ”
  “เขาจะคิดเช่นใดก็ไร้ประโยชน์!”
  หลิงหยุนหันไปมองพอลพร้อมกับยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยต่อว่า “เหมืองแห่งนี้อยู่ใกล้กับสำนักภูติผีหมื่นพิษมาก คาดว่าเจ้าของเหมืองคงจะถูกคนเหล่านี้ก่อกวน จนต้องยอมตัดใจทิ้งเหมืองไปเช่นนี้..”
  พอลพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปถามหลิงหยุนต่อว่า “หลังจากนี้.. พวกเรายังต้องทำอะไรที่นี่ต่ออีกหรือไม่เจ้านาย”
  หลิงหยุนหัวเราะร่วนพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปด้านหน้า และบอกกับพอลว่า “ที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจอีกแล้ว แต่ที่หลุมข้างหน้าโน้นต่างหาก ที่มีสมบัติล้ำค่าของจริงซ่อนอยู่ เอาล่ะ.. เจ้าตามข้ามา!”
  ………..
  ทางเข้าหลุมนั้นค่อนข้างใหญ่โตและดูคล้ายกับปากทางเข้าถ้ำเสียมากกว่า ถึงแม้ภายในจะค่อนข้างมืดมิด แต่ก็หาใช่ปัญหาสำหรับหลิงหยุนกับพอลไม่ เพราะพวกเขาทั้งคู่สามารถมองเห็นได้ไม่ต่างจากเวลากลางวัน
  ทั้งสองคนเหาะลงไปในหลุมนั้นและเมื่อลงลึกไปราวสามร้อยเมตร ด้านในก็ค่อยๆขยายกว้างขึ้น และเพียงอีกไม่กี่ร้อยเมตร ทั้งสองคนก็เหยียบอยู่บนผืนดินเบื้องล่างแล้ว
  “เป็นเส้นทางหยกอย่างที่ข้าคาดไว้จริง!”
  หลิงหยุนเปิดใช้เนตรหยิน–หยางอีกครั้งและใช้ดวงตาวิเศษคู่นั้นมองเข้าไปภายในกำแพงหินเบื้องหน้า แม้ว่าด้านนอกจะเป็นกำแพงหินหนา แต่หลิงหยุนก็สามารถมองเห็นประกายสีเขียวเจิดจ้าที่อยู่ด้านในเต็มไปหมดได้อย่างชัดเจน จนอดที่จะร้องอุทานออกมาไม่ได้
  ฟิ้ว..
  จากนั้นกระบี่เหินเงาธนูก็พุ่งออกมาอีกครั้ง มันบินฉวัดเฉวียนกลับไปกลับมา ทำการเจาะและตัดกำแพงหินที่อยู่เหนือศรีษะของพวกเขาขึ้นไปราวหนึ่งร้อยเมตร
  ครืน..ครืน..
  จากนั้นหินก้อนใหญ่ด้านบนที่ถูกตัดออก ก็พังครืนลงมา ทำการปิดปากหลุมด้านบนไว้อย่างแน่นหนา
  “ฮ่าๆๆๆพอล.. นับจากนี้ไป เส้นทางหยกทั้งหมดก็เป็นของพวกเราแต่เพียงผู้เดียวแล้ว!”
  “ยินดีด้วยเจ้านายที่เคารพ!”
  แม้ว่าปากหลุมจะถล่มลงปิดแล้วแต่พอลก็มิได้รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด ภายใต้หลุมลึกที่มืดสนิทนั้น พอลยังคงเดินตามหลิงหยุนไปอย่างสบายใจ ทั้งคู่เดินไปตามเส้นทางหยกที่ยาวกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตร
  เดิมทีพอลคิดว่าหลิงหยุนต้องการเดินไปตามเส้นทางหยกนี้ เพื่อดูดซับเอาพลังชีวิตที่เข้มข้นเข้าไปในร่างเท่านั้น แต่เขาประเมินหลิงหยุนต่ำจนเกินไป เพราะหลิงหยุนต้องการขุดเอาหยกตลอดเส้นทางนี้กลับไปด้วย ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ยากมากทีเดียว..
  หลิงหยุนไม่รอช้าสำแดงใช้วิชาใต้พิภพ นำพอลเดินฝ่าเข้าไปในกำแพงหินตรงหน้าทันที!บทที่ 1603 แหล่งกำเนิดพลังชีวิต
  “ว้าว..มันสุดยอดไปเลยเจ้านายที่เคารพ! นี่นับเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับข้าจริงๆ มันเหมือนฝัน เหมือนกับว่าไม่ใช่ความจริง!”
  ทันทีหลิงหยุนหายดึงร่างของตนหายเข้าไปในผนังหินที่แข็งแกร่งนั้นพอลถึงกับหลับตาแน่น และใช้เวลาปรับตัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมา และเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็ถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจ
  พอลแทบไม่อยากจะเชื่อว่าร่างกายและเลือดเนื้อของตนเอง จะสามารถผลุบเข้าไปอยู่ภายในผนังหินที่แข็งแกร่งนั้นได้ ระหว่างนั้นพอลก็ได้แต่สวดภาวนาอยู่ในใจ และสงสัยว่า หลิงหยุนจะไม่พาเขาเข้าไปตายอยู่ภายในกำแพงหินใช่หรือไม่
  ‘ไม่รู้เจ้านายใช้คาถาอะไรว่าแต่มันจะอยู่ในกำแพงหินได้นานแค่ไหน? จะขาดอากาศหายใจตายก่อนหรือไม่?’   แต่หลังจากที่ปรับตัวได้และลืมตาขึ้นมอง พอลก็สัมผัสได้ว่า รอบกายของตนและหลิงหยุนนั้นมีช่องว่างล้อมรอบ ทำให้สามารถอยู่ได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัด และสามารถหายใจได้อย่างสะดวก ดวงตาทั้งคู่ก็สามารถมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน และยังสามารถพูดคุยกับหลิงหยุนได้เป็นปกติ
  พอลไม่ได้รู้สึกว่าร่างของตนกำลังแทรกอยู่ในกำแพงหินที่แข็งแกร่ง แต่รู้สึกราวกับว่ากำลังเดินฝ่าผืนน้ำที่อ่อนนุ่ม หลังจากที่พวกเขาทั้งคู่เดินผ่านไป บริเวณหินแกร่งที่อ่อนนุ่มดั่งผืนน้ำนั้น ก็พลันเปลี่ยนเป็นหินแข็งดังเดิม!
  “พอลเจ้าไม่ต้องกลัว!แค่เดินตามข้ามาก็พอ!”
  หลิงหยุนเอ่ยบอกพอลในขณะที่ตัวเขาเองยังคงเดินไปฝ่ากำแพงหินต่อไป และเมื่อพบเห็นบริเวณใดที่เป็นหยกเขียวเข้า เขาก็จะรีบจัดการเก็บหยกเหล่านั้นเข้าไปในแหวนจักรวาลทันที ท่ามกลางสีหน้าอัศจรรย์ใจของพอล  เวลานี้หลิงหยุนได้เข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นปาเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-8) แล้ว และวิชาใต้พิภพของเขานั้น ก็สามารถละลายหินแข็งระดับฟอสซิลให้อ่อนนุ่มได้ โดยมีรัศมีครอบคลุมหนึ่งร้อยเมตร
  แต่เนื่องจากนี่คือหินที่แข็งแกร่งยิ่งหาใช่การดำลงไปในผืนดินที่อ่อนนุ่ม หลิงหยุนจึงจำเป็นต้องใช้เสินหยวนจำนวนมากช่วย แต่เขาก็ไม่ได้นึกเสียดายแม้แต่น้อย เพราะเวลานี้จุดซือไห่กึ่งกลางหน้าผากของเขานั้น สามารถกลั่นเสินหยวนได้ในอัตราที่รวดเร็วยิ่ง
  “เส้นทางหยกสายนี้น่าจะทอดยาวมาจากทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แต่ยิ่งเดินลึกไปไกลมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนหยกจะยิ่งอยู่กันกระจัดกระจายมากขึ้น..”
  หลังจากที่หลิงหยุนเดินมาได้ไกลในระดับหนึ่งและสามารถเก็บหินหยกก้อนใหญ่ๆได้มากมาย แต่เมื่อมาถึงที่นี่ ดูเหมือนหินหยกที่มีอยู่ จะเริ่มอยู่กระจัดกระจายออกไป ทำให้การค้นหาหินหยกเริ่มเป็นไปได้ยากลำบากมากขึ้น
  “เจ้านายที่เคารพ!ข้าว่าหยกเกือบทั้งหมดในแถบนี้ คงจะอยู่ในมือของเจ้านายหมดแล้วล่ะ พวกเรารีบออกจากที่นี่ไม่ดีกว่ารึ”
  พอลออกความเห็น..
  “ยังไม่ใช่ตอนนี้!”
  หลิงหยุนส่ายหน้ายิ้มๆพร้อมตอบกลับไปว่า “หินหยกเพียงแค่นี้ ยังไม่คุ้มค่าพอสำหรับความพยายามในครั้งนี้ของข้า!”
  ในสายตาของหลิงหยุนที่นี่หาใช่เป็นเพียงเส้นทางหยกเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นเสมือนเส้นลมปราณของผืนดินด้วย ในเมื่อมีเส้นลมปราณ ย่อมต้องมีแหล่งกำเนิดของพลังชีวิต!
  การที่หลิงหยุนยอมเสียหยดเสินหยวนจำนวนมากขุดเข้ามาภายในผนังหินที่แข็งแกร่งนี้ หาใช่เพียงแค่ต้องการหินหยกเพียงอย่างเดียวไม่ แต่เขาต้องการค้นหาแหล่งกำเนิดของพลังชีวิตที่หล่อเลี้ยงเส้นลมปราณสายนี้ต่างหากเล่า!
  และนี่ต่างหากคือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงในสายตาของหลิงหยุน!
  แต่เมื่อมาถึงที่นี่กลับพบว่าหินหยกที่ควรจะมีพลันกระจัดกระจายออกไป ซึ่งสิ่งนี้บ่งบอกว่า เส้นลมปราณของผืนดินเส้นนี้ได้ถูกทำลายเสียหาน หลิงหยุนจึงมีทางเลือกอยู่เพียงแค่สองทางคือ จะเสาะหาต่อไป หรือจะหยุดเพียงเท่านี้!
  “ขอข้าค้นหาต่ออีกสักครู่..”
  หลิงหยุนยังคงออกค้นหาแหล่งกำเนิดพลังชีวิตของเส้นลมปราณเส้นนี้ต่อเขาเดินต่อไปข้างหน้าอีกราวหนึ่งกิโลเมตร แต่ก็ยังไม่พบอยู่ดี
  “เส้นลมปราณแห่งผืนดินของดาวเคราะห์ดวงนี้ช่างแตกต่างจากโลกบ่มเพาะที่ข้าจากมาจริงๆ และดูเหมือนจะถูกทำลายเสียหายแล้วด้วย”
  หลิงหยุนขมวดคิ้วเข้าหากันและได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง..
  หลิงหยุนหยุดยืนแน่นิ่งเขาเปิดจิตหยั่งรู้ออกขั้นสุด เพื่อสำรวจหาแหล่งพลังชีวิต แต่ก็เปล่าประโยชน์
  “เป็นไปไม่ได้!เซียนหยกเคยบอกว่าหยกจักรพรรดิก้อนนั้น เขานำมาจากตอนเหนือของประเทศพม่า ถ้าแหล่งกำเนิดพลังชีวิตถูกทำลายไปแล้วจริงๆ จะมีหยกจักรพรรดิก้อนนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน”
  หลิงหยุนทำสีหน้าครุ่นคิดและกำลังใคร่ครวญว่า จะหยุดค้นหาเพียงแค่นี้ดีหรือไม่ แต่แล้วจู่ๆ คำพูดหนึ่งก็ผุดเข้ามาในหัวของเขาพอดี!
  “ฟ้าเอียงพายัพดินทรุดอาคเนย์!”
  จู่ๆคำพูดประโยคที่ท่านอาจารย์จันทร์แห่งสำนักหมื่นพุทธรูปเคยเปรยกับหลิงหยุน ก็ผุดขึ้นมา ทำให้หลิงหยุนนึกขึ้นได้ว่า แหล่งกำเนิดหยกที่มีชื่อของประเทศพม่า ซึ่งเซียนหยกกับซ่งเจิ้งหยางเคยบอกเขานั้น ก็อยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือเช่นกัน  สีหน้าของหลิงหยุนพลันเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันทีและรีบร้องตะโกนบอกพอลเสียงดัง “พอล..รีบไปเร็วเข้า!”
  หลังจากนั้นหลิงหยุนก็รีบเปลี่ยนเส้นทาง และมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือทันที ในช่วงระยะเวลายี่สิบนาที หลิงหยุนได้ใช้เสินหยวนไปมากกว่าหนึ่งแสนหยด หลังจากเดินทางไปได้ไกลกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตร หลิงหยุนก็เริ่มสัมผัสถึงพลังชีวิตที่หนาแน่นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
  และเวลานี้ทั้งคู่ก็ได้อยู่ห่างจากบริเวณเหมืองมาไกลมากแล้ว..
  “พอล..เวลานี้พวกเราทั้งคู่กำลังเดินอยู่บนผืนดินใต้แม่น้ำ”
  หลิงหยุนเอ่ยบอกพอลด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นหลังจากที่พิจารณาจนมั่นอกมั่นใจแล้ว ทั้งเซียนหยกและซ่งเจิ้งหยางต่างก็เคยเล่าให้เขาฟังว่า หยกน้ำดีที่สุดของประเทศพม่านั้น ล้วนเป็นหยกที่ขุดพบใต้แม่น้ำ
  และเวลานี้พวกเขาทั้งสองคนก็กำลังเดินอยู่ใต้ก้นแม่น้ำ และสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่หนาแน่นมากขึ้นเรื่อย ภายใต้รัศมีจิตหยั่งรู้ของหลิงหยุน พลันปรากฏแสงสว่างสีแดงสดใสเจิดจ้าขึ้น..
  และมันก็คือหินหยกแดง!
  แน่นอนว่าหลิงหยุนย่อมไม่ปล่อยหินหยกแดงไว้เช่นนี้แน่ เขารีบเรียกหินหยกแดงที่พบเห็นตลอดทาง เข้าไปไว้ในแหวนของตนเองทันที!
  ระหว่างทางทีเดินไปนั้นเมื่อหลิงหยุนสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่หนาแน่นในบริเวณใด เขาก็จะขุดลงไปดู และกวาดเอาหินหยกที่พบเห็นกลับไปด้วยจนหมด แล้วจึงค่อยออกเดินทางต่อ
  หินหยกที่หลิงหยุนได้ไปในครั้งนี้มีทั้งหยกเขียว หยกแดง หยกม่วง และหยกขาว รวมถึงหินพลังชีวิตอื่นๆอีกมากมาย
  ยิ่งเดินต่อไปไกลเท่าไหร่หลิงหยุนก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่หนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆจากปลายทาง และนั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่า เขากำลังเข้าใกล้แหล่งกำเนิดพลังชีวิตของเส้นลมปราณนี้มากขึ้นเรื่อยๆแล้วนั่นเอง!
  หลังเดินมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆในที่สุดทั้งคู่ก็ออกจากเขตของแม่น้ำ เข้าสู่เขตที่เป็นภูเขาอีกครั้ง หลิงหยุนหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาตรวจสอบตำแหน่งที่ตนเองอยู่
  “ใช่แล้ว..เป็นที่นี่จริงๆ!”
  มิตจีนาเมืองหลวงของรัฐคะฉิ่น!
  เซียนหยกเคยเล่าให้หลิงหยุนฟังว่าที่มิตจีนานี้นับเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการขุดหยก แต่เมื่อมาถึงที่นี่ เขากลับสัมผัสได้ว่า พลังชีวิตรอบๆบริเวณนี้ดูเหมือนจะเบาบางลง
  หลิงหยุนไม่รีบร้อนนักเพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตหยกที่มีชื่อของประเทศพม่า บริเวณโดยรอบจึงมีแต่เหมืองอยู่เต็มไปหมด
  หากเขาต้องการที่จะค้นหาแหล่งกำเนิดพลังชีวิตเขาจะต้องลงไปยังใต้ดินลึก แต่ในเมื่อเขามาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรนัก  หลิงหยุนนำพอลเข้าไปในป่าบนเขาแห่งหนึ่งจากนั้นจึงได้เรียกหินพลังชีวิตออกมานับพันก้อน ก่อนจะนั่งลงขัดสมาธิดูดซับเอาพลังชีวิตทั้งหมดเข้าไป หลิงหยุนนั่งอยู่เช่นนั้นไปตลอดหนึ่งวันหนึ่งคืน จนกระทั่งร่างกายกลับมาสมบูรณ์สูงสุดอีกครั้ง
  “พอล..เจ้าไม่ต้องตามข้าไปอีกแล้ว รอข้าอยู่ในป่านี้!”
  หลังจากบอกพอลแล้วหลิงหยุนก็เหาะขึ้นฟ้าสำรวจภูมิทัศน์โดยรอบ และในที่สุดเขาก็พบหุบเขาที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง ในรัศมีกว่าสองร้อยกิโลเมตร บริเวณนี้เป็นบริเวณที่มีพลังชีวิตหนาแน่นที่สุด!
  หลิงหยุนเหาะลงไปยังหุบเขาด้านล่างอย่างไม่ลังเลจากนั้นจึงใช้วิชาใต้พิภพดำดิ่งลงไปใต้ดินอย่างรวดเร็ว
  และในที่สุดหลิงหยุนก็ค้นพบแหล่งกำเนิดพลังชีวิต!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร