บทที่ 1607 : สวรรค์ลิขิตมา
หลิงหยุนเป็นคนที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องตำนานปรัมปราของประเทศอย่างจริงจังดังนั้น เมื่อสมุดจักรพรรดิแห่งผืนแผ่นดินเอ่ยถึงที่มาของพลังงานสีแดงดุร้ายนั้น เขาจึงสามารถเข้าใจได้ในทันที
ตามตำนานปรัมปราและเรื่องเล่าพื้นบ้านของจีนนั้นก้งกงเป็นเทพแห่งน้ำ มีตัวเป็นงู มีหัวเป็นคน มีผมสีแดง อีกทั้งยังมีนิสัยหยิ่งผยอง ดุร้าย ชอบอาฆาตแค้น
พูดง่ายๆก็คือเป็นเทพปีศาจประเภทหนึ่งที่ไม่เคยสนใจต่อกฏเกณฑ์ใดๆ ไม่สนใจต่อความเป็นความตายของผู้อื่น ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนเองต้องการ และมีนิสัยชอบแสดงอิทธิฤทธิ์เรียกลมเรียกฝนตามอำเภอใจ ทำให้เกิดอุทกภัยใหญ่ น้ำท่วมแผ่นดินจีนจนกลายเป็นมหาสมุทรกว้างใหญ่
ต่อมาด้วยนิสัยที่ชอบก่อความเดือดร้อน และเป็นต้นเหตุแห่งภัยพิบัติต่างๆในโลก ที่สุดแล้วไปสู้รบกับเทวดาหลายองค์ ซึ่งรวมถึงจู้หรงเทพแห่งไฟ แล้วพ่ายแพ้ จึงถูกฆ่าตายหรือถูกอัปเปหิ ทำให้ก้งกงคับแค้นใจยิ่งนัก
และนี่คือเรื่องราวเบื้องต้นเกี่ยวกับเทพปีศาจในตำนานปรัมปราที่หลิงหยุนรู้มา..
เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าใต้ผืนแผ่นดินลึกถึงเพียงนี้ เขาจะได้พบเจอหยดโลหิตของเทพปีศาจร้ายในตำนานปรัมปรา ไม่เพียงเขาได้สัมผัสกับความดุร้ายของอีกฝ่าย แต่ยังได้รับรู้ถึงปัญญาที่เฉลียวฉลาด และเจ้าเล่ห์ของดวงจิตนี้ด้วย
หลิงหยุนได้แต่แอบคิดอยู่ในใจว่า‘หึ! เป็นเพียงแค่หยดโลหิตเท่านั้น กลับคิดอาจหาญจะครอบครองกายเนื้อของข้าเชียวรึ เจ้าคงได้แต่ฝันไปแล้ว!’
เพราะถึงแม้ว่าสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพและพู่กันจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์ จะไม่ออกมาช่วยเหลือ หลิงหยุนก็จะทำทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะต้องใช้ของวิเศษทุกชิ้นที่มีอยู่ในมือ และใช้ทุกสรรพวิชาที่ฝึกฝนมา รับมือกับหยดโลหิตเทพปีศาจตนนี้อย่างถึงที่สุด แม้จะไม่สามารถเอาชนะได้ เขาก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถหนีรอดได้
และเมื่อครู่ที่หยดโลหิตเทพปีศาจเกือบจะทำอันตรายเขาได้นั้นเป็นเพราะเขาไม่ทันได้ระวังตัว และจู่ๆวิชาใต้พิภพก็ไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้เขาเกือบจะเสียท่าให้
เมื่อคิดได้เช่นนี้หลิงหยุนก็ได้แต่จ้องมองออกไปนอกรัศมีสีทองสุกสว่างด้วยความโมโห พร้อมกับร้องถามสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพว่า
“อาวุโสเช่นนี้แล้วพวกเราควรทำอย่างไรดี”
“หยดโลหิตก้งกงไม่ควรต้องมีอยู่อีกต่อไปหาไม่แล้วหากปล่อยไว้เช่นนี้ ผ่านไปสักชั่วระยะเวลาหนึ่ง อาจเกิดหายนะใหญ่หลวงต่อโลกใบนี้ก็เป็นได้ ถึงคราเมื่อหายนะสิ้นสุดลง มันก็จะหนีไปอีกอยู่ดี!”
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพตอบหลิงหยุนกลับไปด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงการตัดสินใจบางอย่าง
หลิงหยุนจึงย้อนถามกลับไปทันที“เช่นนี้มีหนทางใดบ้างที่จะสามารถกำจัดหยดโลหิตก้งกงได้”
“ง่ายมาก!”
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพเอ่ยต่อเพียงแค่สั้นว่า“เผา!”
จากนั้นจึงหันไปทางหลิงหยุนพร้อมกับเอ่ยต่อทันที “แต่เรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!”
ยังไม่ทันที่จะกล่าวจบดีนักร่างของสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพ ก็ได้พุ่งทะยานออกจากเกราะกำบังสีทองสุกสว่าง ตรงเข้าหาหยดโลหิตก้งกง พร้อมกับขว้างสมุดในมือออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
อักขระสีดำพวยพุ่งออกจากสมุดจักรพรรดิพร้อมกับขยายใหญ่ขึ้นในทันที จากนั้นก็พุ่งเข้าห่อหุ้มปกคลุมพลังงานสีแดงนั้นไว้อย่างรวดเร็ว กลายเป็นกรงที่ขังหยดโลหิตก้งกงไว้ภายใน
ปัง!ครืน!
หยดโลหิตก้งกงแสดงความโกรธเกรี้ยวออกมาอย่างรุนแรงพลังงานสีแดงแปรเปลี่ยนเป็นแสงสว่างสีแดงโชติช่วง หลังจากบิดไปมาด้วยความโกรธแค้น มันก็ได้กลายร่างเป็นปีศาจที่มีใบหน้าเป็นมนุษย์ และลำตัวเป็นงู ผมของมันเป็นสีแดงเพลิง และดวงตาทั้งสองข้างก็ไม่ต่างจากดวงไฟลุกโชนจากแสงตะเกียง มันดิ้นรนต่อสู้กับอักขระสีดำ ที่ครอบร่างของมันไว้ประหนึ่งกรงที่แข็งแกร่ง และสีหน้าท่าทางของมันก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายมากขึ้นไปทุกที!
“รูปร่างของมันไม่เพียงเหมือนกับเทพแห่งน้ำก้งกงแต่ยังดุร้ายไม่ต่างกันด้วยสินะ!”
เมื่อเห็นหลิงหยุนเหาะตามออกมาช่วยสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพจึงได้เอ่ยกับเขาว่า “หลิงหยุน ร่างของเทพแห่งน้ำเป็นหยินก็จริง แต่หงส์ไฟของเจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเผาผลาญมันได้ เจ้าจงรีบใช้วิชาหยางพิสุทธิ์จัดการเผาผลาญมันให้สิ้น! ”
หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับเริ่มใช้วิชาหยางพิสุทธิ์ ร่างของเขาพลันเปลี่ยนเป็นแสงสว่างเจิดจ้า จากนั้นลำแสงสว่างดุดดวงตะวัน ก็ได้พุ่งเข้าแผดเผาหยดโลหิตก้งกงในทันที
หยินหยางอยู่ร่วมกันยับยั้งซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกับน้ำและไฟ นี่คือกฏของสวรรค์และโลก..
เผชิญหน้ากับวิชาหยางพิสุทธิ์เช่นนี้มีหรือที่หยดโลหิตก้งกงเทพแห่งน้ำจะสามารถทานทนได้ ดวงตาของมันเบิกโพลง เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและโกรธแค้น มันเริ่มดิ้นรนอย่างรุนแรงอยู่ภายในกรงอักขระสีดำ จนผืนดินบริเวณนั้นสั่นสะเทือนไปหมด
“ช่างดุร้ายยิ่งนัก!”
แม้แต่หลิงหยุนที่เวลานี้เป็นฝ่ายได้เปรียบยังถึงกับต้องถอนหายใจออกมา เขาอดคิดไม่ได้ว่า ‘เพียงแค่หยดโลหิตยังแข็งแกร่งและดุร้ายถึงเพียงนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ก้งกงจะสามารถพุ่งชนเขาปู้โจวจนพังทลายได้ .. แต่ถึงอย่างไร เจ้าก็คงต้องถูกสังหารตายอีกครั้งอยู่ดี!’
นี่เพียงแค่หยดโลหิตของก้งกงผู้ดุร้ายเท่านั้นยังแข็งแกร่งเทียบเท่ากับหลิงหยุนในเวลานี้!
ภายใต้ลำแสงสีขาวสว่างเจิดจ้านี้หยดโลหิตก้งกงที่ดุร้ายเริ่มสั่นสะท้าน และดวงตาทั้งคู่ปรากฏร่องรอยของความหวาดกลัวชัดเจนมากขึ้น แต่น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของดวงจิตชั่วร้ายทั่วนั้น จึงไม่สามารถร้องตะโกนของความเมตตาได้
หลิงหยุนจดจ่ออยู่กับการเดินวิชาหยางพิสุทธิ์ปลดปล่อยลำแสงร้อนแรงสีขาวเจิดจ้าออกมาอย่างต่อเนื่อง จนไม่ทันได้คิดว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่ จนกระทั่งในที่สุด เขาก็ได้ยินเสียงของสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพดังขึ้น
“พอได้แล้ว!”
หลิงหยุนจ้องมองไปยังกรงอักขระสีดำและพบว่าร่างของเทพแห่งน้ำได้อันตรธานหายไปแล้ว เหลือเพียงก้อนโลหิตเล็กๆขนาดเท่าลูกเทนนิส ล่องลอยอยู่ภายในกรง จึงอดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้
“อาวุโส..หยดโลหิตของก้งกงหยดหนึ่ง ใหญ่โตถึงเพียงนี้เชียวรึ”
“ฮ่าๆๆๆ”
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพถึงกับหัวเราะออกมาก่อนจะเอ่ยตอบหลิงหยุนไปว่า “ก้งกงเป็นถึงเทพปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต เจ้าว่าร่างของเขาต้องใหญ่โตเพียงใดจึงจะสามารถทำลายเขาปู้โจวทั้งลูกได้ นี่เป็นเพียงโลหิตหยดเล็กๆหยดหนึ่งของเขาเท่านั้นเอง..”
“…”
หลิงหยุนได้แต่นิ่งอึ้งไป..
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพยกฝ่ามือขึ้นจากนั้นทั้งสมุดและหยดโลหิตก็ได้ลอยเข้ามาอยู่ในฝ่ามือของเขา หลังจากนั้นเขาจึงได้หันไปเอ่ยบอกหลิงหยุนว่า
“พ่อหนุ่ม..หยดโลหิตก้งกงนี้นับเป็นของล้ำค่าชิ้นหนึ่งทีเดียว วันหน้ามันจะมีประโยชน์กับเจ้าอย่างมาก ข้าจะเป็นผู้เก็บไว้ให้เจ้าเอง และเมื่อใดที่เจ้าต้องการ ข้าก็จะคืนให้กับเจ้า!”
“ขอบคุณอาวุโสยิ่งนัก!”
แม้สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพจะมิได้บอกกล่าวหลิงหยุนย่อมรู้ดีว่า หยดโลหิตก้งกงนี้นับเป็นสมบัติล้ำค่าที่มิอาจหาได้อีกในโลกนี้ แต่การที่สมุดจักรพรรดิเอ่ยปากจะเป็นผู้เก็บไว้ให้เขาแทนนั้นก็เพราะว่า ด้วยความแข็งแกร่งของหลิงหยุนในเวลานี้ ยังไม่สามารถที่จะหลอมกลั่นดวงจิตภายในหยดโลหิตนี้ให้หมดจดได้ เขาจึงต้องจัดการเรื่องนี้แทน
แต่แล้วจู่ๆสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพก็ยื่นฝ่ามือออกไปด้านหน้า พร้อมบอกหลิงหยุนว่า “ส่งของวิเศษของเจ้ามาให้ข้า!”
“ของวิเศษอันใดรึ”หลิงหยุนเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง
“ประคำโลหิต!” สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพเอ่ยตอบก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “ทั้งกระบี่โลหิตเทวะ หม้อเสินหนง และประคำโลหิต ล้วนแล้วแต่ครอบครองโดยเจ้าเช่นนี้ นี่คงจะเป็นลิขิตสวรรค์กระมัง”
“เอ่อ..”
หลิงหยุนได้แต่งุนงงเขาพอเข้าใจได้ว่าสมุดจักรพรรดิต้องการประคำโลหิตไปทำอะไร แต่เขาคิดไม่ถึงว่า มันจะสามารถกลั่นหยดโลหิตก้งกงนี้ได้!
“อาวุโสที่ข้าบังเอิญไปพบหม้อเสินในหุบเขาแห่งนั้น เป็นเพราะท่านนำทางข้าไปใช่หรือไม่”
แต่เมื่อสมุดจักรพรรดิเอ่ยถึงหม้อเสินหนงขึ้นมาหลิงหยุนจึงอดที่จะเอ่ยถามถึงความสงสัยในใจออกมาไม่ได้
“ข้าจะมีความสามารถทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน”
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพเอ่ยต่อในทันที“นั่นเป็นสิ่งที่เจ้านายคนก่อนจัดเตรียมไว้ต่างหาก..”
จากนั้นสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพก็ได้เอ่ยตอบคำถามในใจหลิงหยุน “ประคำโลหิตนี้นับเป็นสมบัติล้ำค่าอีกชิ้นของเจ้า ทุกชีวิตล้วนแล้วแต่มีโลหิตหล่อเลี้ยง ฉะนั้นโลหิตจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของทุกสรรพชีวิต และประคำโลหิตนี้ ก็มีคุณสมบัติทั้งสร้างโลหิต ดูดโลหิต และแปลงโลหิต..”
“แต่เจ้ากลับให้ประคำโลหิตกับปีศาจแวมไพร์เหล่านั้นเพื่อใช้ดูดเลือดช่างน่าสมเพชนัก!”
“อาวุโส!ประคำโลหิตนี่.. คือหยดโลหิตของเทพเจ้าผู้สร้างโลก ที่เล่าขานกันในตำนานปรัมปราใช่หรือไม่”
หลิงหยุนจ้องมองใบหน้าของสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพแน่นิ่งราวกับกำลังเกรงกลัวคำตอบที่จะได้ยิน
“เป็นอะไรทำนองนั้น..” สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพเอ่ยตอบเพียงแค่นั้นแต่เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “แต่หากวันหน้าเจ้าคิดที่จะค้นหาขวานผานกู่แล้วล่ะก็ ประคำโลหิตจะช่วยเจ้าได้มากทีเดียว!”
เลือดในกายของหลิงหยุนถึงกับพุ่งพล่านขึ้นมาทันที..
“เจ้าอย่ามัวแต่ดีอกดีใจไปรีบส่งประคำโลหิตให้ข้า แล้วออกไปตามหารากปราณได้แล้ว!”
จากนั้นประคำโลหิตก็ค่อยๆลอยเข้าไปอยู่ในฝ่ามือของสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพ
“ไปกันได้แล้ว!”
หลิงหยุนรู้สึกว่าตนเองยังไม่ทันจะได้เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อยแต่แล้วจู่ๆ ร่างของเขากลับปรากฏขึ้นในห้วงมิติขนาดใหญ่
เขาได้แต่คิดอยู่ภายในใจเงียบๆว่า‘สมกับเป็นสมุดจักรพรรดิแห่งผืนแผ่นดินจริงๆ เพียงแค่คิดว่าจะไปที่ใด ก็สามารถไปได้ในทันที!’
แต่หลิงหยุนก็ไม่มีเวลาที่จะได้ถามอะไรมากนักเพราะจู่ๆ สายตาของเขาก็ถูกบางสิ่งบางอย่างดึงดูดไว้
รากปราณแห่งเขาปู้โจวที่หักทลาย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร