บทที่ 1608 : โลกจะเปลี่ยนแปลงเพราะเจ้า
รากปราณที่ว่านี้แท้ที่จริงก็คือศิลาขนาดใหญ่ ที่มีความสูงกว่าหกเมตร รูปร่างคล้ายหน่อไม้เอียง หากดูผิวเผินก็จะคล้ายกับขุนเขาที่หดเล็กลง และกำลังลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ
เพียงแต่เขาลูกเล็กนี้มีทั้งหมดห้าสีอีกทั้งยังเปล่งแสงสว่างเจิดจรัสงดงามยิ่งนัก หากผู้ใดได้พบเห็นเข้า คงจะต้องตกตะลึง และหลงไหลไปกับแสงสีที่งดงามนี้อย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้
พลังชีวิตที่ถูกปลดปล่อยออกมานั้นก็เข้มข้นและหนานแน่นยิ่งนัก!
หลิงหยุนใช้เนตรหยิน–หยางมองทะลุแสงสว่างเจิดจ้าสวยงามนั้นเข้าไปด้านในจึงพบว่า ที่พื้นผิวของรากปราณนี้ มีพลังชีวิตเข้มข้นจนเป็นของเหลวผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และค่อยๆไหลลงสู่ตีนเขาของรากปราณ จนกระทั่งกลายเป็นแอ่งน้ำพลังชีวิตที่ไหล่บ่าออกไปทั่วทุกสารทิศ และไม่รู้ว่าเป็นเช่นนี้มาเนิ่นนานหลายปีเพียงใดแล้ว
และของเหลวพลังชีวิตนี้ก็คือน้ำอมฤตในตำนานปรัมปรานั่นเอง!
หินและดินที่น้ำอมฤตนี้ไหลผ่านมาเนิ่นนานหลายปีจึงได้จะกลายเป็นหิน และดินพลังชีวิตไปด้วย
และสิ่งสุดท้ายที่ไปปรากฏตามเหมืองให้คนได้ขุดกันนั้นก็คือหยกล้ำค่านั่นเอง!
เวลานี้หลิงหยุนราวกับกำลังยืนอยู่ในวังแก้วหลากสี กำแพงทั้งสี่ด้านกอปรด้วยหินพลังชีวิตหลากสีสัน จึงแทบไม่ต้องพูดถึงกระแสพลังชีวิตว่าจะมีมากเพียงใด หยกจักรพรรดิที่ล้ำค่ามีให้เห็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง!
ช่างเป็นธรรมชาติที่งดงามและอัศจรรย์ใจยิ่งนัก!
“พลังชีวิตและสายน้ำพลังชีวิตที่ไหลไปตามเส้นเลือดมังกรนี้ เมื่อพบรูอากาศที่สามารถไหลมาบรรจบกันได้ ก็จะไหลไปบรรจบรวมตัวกันอยู่บนพื้นผิว เกิดเป็นหยกชนิดต่างๆ ที่มีสีสรรแตกต่างกันไป..”
เมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพ ก็ได้อธิบายให้หลิงหยุนฟังทันที “ไม่ว่าจะเป็นหยกจักรพรรดิ หรือหินห้าสีที่เจ้าได้ไปครอบครองนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากการรวมตัวเช่นนี้บนพื้นผิวนั่นเอง นับว่าหยกที่เจ้าได้ครอบครองอยู่เวลานี้ เป็นหยกที่ล้ำค่ายิ่งนัก..”
หลิงหยุนที่กำลังตั้งใจฟังพยักหน้าอย่างเห็นด้วยพร้อมตอบกลับไปว่า “ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่า รากปราณนี้จะเป็นรากฐานของเขาปู้โจว ช่างเป็นสมบัติที่ล้ำค่ายิ่งนัก!”
“นี่เป็นสมบัติล้ำค่ามากทีเดียว..”
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพเอ่ยย้ำ“แม้ว่านี่จะเป็นเพียงเศษซากปรักหักพังของรากเขาปู้โจว แต่หากเจ้าใช้รากปราณนี้ในการบ่มเพาะพลังเข้าสู่ขั้นก่อสร้างรากฐานแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่ากายเนื้อของเจ้าจะราวกับถูกหล่อหลอมใหม่ และแม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับเทพเจ้าแห่งปีศาจ แต่จะแข็งแกร่งกว่าที่เป็นอยู่นี้อย่างแน่นอน!”
“อย่าลืมว่านี่มิใช่ขุนเขาธรรมดาทั่วไป แต่มันคือเสาที่ค้ำยันสวรรค์ในอดีตกาลเลยทีเดียว!”
หลิงหยุนยิ้มออกมาด้วยความดีใจพร้อมกับรีบเอ่ยถามออกไปว่า “อาวุโส ข้าจะนำรากปราณ และหินพลังชีวิตที่อยู่โดยรอบทั้งหมดกลับไปด้วยได้หรือไม่”
หลิงหยุนเอ่ยถามออกมาด้วยความอยากรู้ในเมื่อเขามาถึงที่นี่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะนำเฉพาะรากปราณกลับไป และทิ้งหินพลังชีวิตที่ล้ำค่าไว้ที่นี่
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพเอ่ยตอบยิ้มๆ“ย่อมได้! หากเจ้าต้องการนำหินทั้งหมดกลับไปด้วย ก็หาได้มีปัญหาอันใดไม่ เพียงแต่..”
จากนั้นสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพก็ได้ยกมือขึ้นชี้ไปทางรากปราณหลากสีนั้น พร้อมกับเอ่ยต่อทันที
“เจ้าอย่ามัวแต่ดีอกดีใจจนเกินไปนักเจ้าไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของรากปราณหรอกรึ!”
“เอ่อ..รากปราณนี้มีทั้งหมดห้าสี แต่ดูเหมือนสีแดงจะส่องสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าสีใด อีกทั้งรัศมีของมันยังดุร้ายกว่าสีอื่นๆด้วย!”
หลิงหยุนเอ่ยตอบหลังจากที่สังเกตเห็นว่าแสงสว่างสีแดงเจิดจ้าดูจะโชติช่วงกว่าสีใดๆ อีกทั้งไม่เพียงมีกลิ่นอายปีศาจโชยออกมา แต่ยังคล้ายมีรังสีอำมหิตดุร้ายพวยพุ่งออกมาด้วย และแทบไม่ต้องให้สมุดจักรพรรดิเอ่ยตอบ เขาก็พอที่จะคาดเดาได้ว่า รากปราณนี้ได้ถูกโลหิตของก้งกงปนเปื้อนนั่นเอง
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพเฝ้าสังเกตดูสีหน้าท่าทางของหลิงหยุนและเมื่อพบว่าเขาไม่มีสีหน้าหวาดกลัวใดๆ จึงได้แต่หัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ พร้อมกับร้องตะโกนออกไปว่า
“ไปจัดการ!” สิ้นเสียงร้องของสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพประคำโลหิตก็พุ่งออกไปหยุดอยู่ตรงหน้ารากปราณ จากนั้น แสงสว่างสีแดงก็พลันเปล่งประกายเจิดจ้ามากยิ่งขึ้น เส้นโลหิตสีแดงพลับปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของรากปราณ ดูประหนึ่งเส้นเลือดในร่างกายของมนุษย์
หลิงหยุนสัมผัสได้ถึงรัศมีพลังชั่วร้ายที่พวยพุ่งขึ้นรอบตัว!
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพถึงกับแอบถอนหายใจเบาๆจากนั้นแสงสว่างสีแดงเจิดจ้าก็พวยพุ่งออกมาจากประคำโลหิต เส้นเลือดสีแดงที่อยู่ตามพื้นผิวของรากปราณ ค่อยๆกลายเป็นสายโลหิตที่ถูกดูดเข้าสู่ประคำโลหิตทันที
หลิงหยุนเฝ้าดูอยู่อย่างเงียบๆจนกระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่ เขาจึงสังเกตเห็นว่า เส้นเลือดที่ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของรากปราณเมื่อครู่ ค่อยๆอันตรธานหายไป โลหิตของเทพปีศาจก้งกงได้ถูกประคำโลหิตดูดเข้าไป รากปราณจึงกลับคืนสู่ความบริสุทธิ์ดังเดิม แสงสว่างสีแดงแห่งไอปีศาจก็ค่อยๆจืดจางลงเช่นกัน
“นับว่าโชคดีที่นี่เป็นเพียงหยดโลหิตของก้งกงเพียงไม่กี่หยดเท่านั้นหาไม่แล้วประคำโลหิตนี่ก็อาจจะจัดการไม่ได้ การที่เจ้าจะได้ครอบครองรากปราณก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป..”
หลังจากที่จัดการใช้ประคำโลหิตดูดเอาหยดโลหิตของก้งกงเข้าไปจนหมดแล้วและรากปราณก็กลับมาบริสุทธิ์ดังเดิม สีหน้าของสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพ จึงได้ปรากฏร่องรอยของความโล่งใจขึ้นในทันที พร้อมกับหันไปบอกหลิงหยุนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
หลิงหยุนจึงตอบกลับไปว่า“ข้าเห็นด้วยกับอาวุโสยิ่งนัก! หากไม่ได้อาวุโสช่วยกำจัดหยดโลหิตของเทพปีศาจร้ายที่ซ่อนอยู่ในรากปราณนี้แล้วล่ะก็ ข้าเองก็คงไม่รู้ว่าจะจัดการกับดวงจิตของก้งกงที่แฝงอยู่ในรากปราณนี้ได้อย่างไรเช่นกัน!”
แน่นอนว่าด้วยโลหิตเพียงหยดเดียวนี้ เทพปีศาจผู้ยิ่งใหญ่อย่างก้งกง ย่อมสามารถฟื้นคืนชีพได้อย่างแน่นอน หยดเลือดของก้งกงอาศัยพลังชีวิตเข้มข้นของรากปราณแห่งเขาปู้โจวหล่อเลี้ยง จนกระทั่งสามารถแฝงตัวครอบครองรากปราณนี้ได้ อีกทั้งยังกระจายตัวเป็นเส้นเลือดครอบคลุมรากปราณไว้ได้ทั้งหมด เช่นนี้จะไม่เรียกว่าการคืนชีพได้อย่างไรกัน
แม้อาจจะยังเรียกว่าการฟื้นคืนชีพไม่ได้เต็มปากนักแต่นี่ก็ไม่ต่างจากการฟื้นคืนชีพได้ครึ่งหนึ่งแล้ว!
“อาวุโส!แล้วเหตุใดเขาจึงกระเหี้ยนกระหืออยากจะได้กายเนื้อของข้านัก”
หลิงหยุนอดที่จะถามเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้แม้เขาจะรู้ดีว่า ตนเองมีร่างกายที่แข็งแกร่งยิ่ง หลังจากที่ฝึกวิชาดาราคุ้มกายจนเข้าสู่ระดับสูงสุดของด่านที่สามได้ แต่นั่นก็ยังอ่อนแอมาก หากเทียบกับรากปราณเขาปู้โจวที่แข็งแกร่งนี้
“นี่เจ้ายังต้องถามอีกรึ!เจ้าไม่เห็นรึว่าหยดโลหิตก้งกงร้อนอกร้อนใจ อยากจะออกไปจากที่นี่มากเพียงใด?”
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพอธิบายให้หลินหยุนฟังต่อว่า“แต่ถึงอย่างไร หยดโลหิตก้งกงก็ทำทุกอย่างไปตามสัญชาติญาณของดวงจิต ที่ผสมอยู่ในเลือดเท่านั้น ทันทีที่มันพบเห็นร่างกายที่ล้ำเลิศของเจ้า จึงเกิดอยากจะได้ร่างนี้มาครอบครอง เพื่อที่จะได้รีบออกไปจากที่นี่อย่างไรเล่า หาไม่แล้ว มันก็ยังคงต้องถูกจองจำอยู่ภายในรากปราณนี้อีกนาน!”
“และหากจะรอสร้างร่างใหม่ขึ้นมาด้วยรากปราณนี้ก็มิรู้ว่าจะต้องรอคอยไปอีกเนิ่นนานเพียงใด..”
หลังจากนั้นสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง คล้ายกำลังคิดทบทวนอะไรบางอย่างอยู่ และในที่สุดก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“นอกเหนือจากเหตุผลที่ข้ากล่าวมาเมื่อครู่แล้วก็ยังมีเหตุผลสำคัญอีก..”
“อะไรรึอาวุโส!”หลิงหยุนรีบเอ่ยถามขึ้นทันทีด้วยความอยากรู้ “ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงหยดโลหิตของเทพเจ้าแห่งปีศาจในอดีตกาลและทำทุกอย่างไปตามสัญชาติญาณของดวงจิตส่วนหนึ่งที่แฝงอยู่ แต่มันก็สามารถรับรู้ได้ว่า โลกใบนี้กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น มันจึงรีบร้อนที่คว้าโอกาสดีๆที่หาได้ยากยิ่งนี้ไว้..”
“โลกกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่งั้นรึ!”
หลิงหยุนพึมพำออกมาด้วยความงุนงงประหลาดใจพู่กันจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์ก็เคยบอกกับเขาเช่นนี้ หลิงหยุนจึงอดที่จะถามออกไปไม่ได้
“แต่เหตุใดข้าจึงมิรู้สึกเช่นนั้นเลยเล่าไม่น่าจะเป็นไปได้..”
“ไม่น่าเป็นไปได้งั้นรึ!”
สมุดจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์หัวเราะหึๆก่อนจะเอ่ยต่อว่า “การที่สมุดจักรพรรดิปรากฏขึ้นในเมืองจิงฉูนั้น เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่า เหตุใดพวกเราจึงต้องถือกำเนิดในช่วงเวลานี้พอดี”
“นั่นเพราะ..ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเพราะเจ้า! เมื่อเวลาล่วงเลยไป เจ้าจะเข้าใจคำพูดของข้าได้เอง!”
“แต่เวลานี้สิ่งที่เจ้าจะต้องทำก็คือ ฝึกฝนบ่มเพาะพลังให้สามารถเข้าสู่ขั้นก่อสร้างรากฐานโดยเร็วที่สุด และพัฒนาขั้นพลังบ่มเพาะของตนเองให้สูงยิ่งๆขึ้นไป!”
สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพเอ่ยบอกหลิงหยุนเพียงแค่นั้นและไม่มีท่าทีที่จะอธิบายให้เขาฟังละเอียดลึกซึ้งมากกว่านี้
“…”
หลิงหยุนได้แต่นิ่งอึ้งไปด้วยความงุนงงสงสัยเพราะจู่ๆ สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพ ก็ได้เร่งเร้าให้เขาฝึกฝนบ่มเพาะพลังให้ก้าวหน้าโดยเร็ว หลิงหยุนคิดอยากจะถามถึงเหตุผล แต่ก็รู้ดีว่า ต่อให้เขาเอ่ยถามออกไป ก็คงไม่ได้รับคำตอบจากสมุดจักรพรรดิอยู่ดี เขาจึงเลือกที่จะนิ่งเงียบ แต่ในระหว่างที่หลิงหยุนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นจู่ๆ สมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพก็ได้ยื่นฝ่ามืออกไป และไม่รู้ว่าเขาใช้พลังเหนือธรรมชาติชนิดใด จึงสมารถดูดเอารากปราณ สายน้ำพลังชีวิต และกำแพงทั้งสี่ด้านที่กอปรขึ้นด้วยหินพลังชีวิตจำนวนมากมาย เข้าไปได้จนหมดในคราเดียวได้!
“สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดข้าจะช่วยเก็บไว้ให้เจ้าเอง วันใดที่เจ้าต้องการใช้ ข้าจะคืนให้กับเจ้าเอง!”
“เอาล่ะไปจากที่นี่กันได้แล้ว!”
สิ้นเสียงกล่าวของสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพแสงทองสว่างสุกใสพลันปรากฏขึ้น จากนั้นร่างของสมุดจักรพรรดิ และร่างของหลิงหยุนก็ได้อันตรธานหายไปในทันที
พรึบ..
เพียงแค่ชั่วอึดใจหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมา กลับพบเห็นขุนเขาน้อยใหญ่ เรียงรายกันอยู่ตรงหน้ามากมาย และที่นี่ก็คือเผ่าเหมี่ยวเจียงที่ได้ชื่อว่าดินแดนแห่งเขาแสนลูก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร