Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1649

บทที่ 1649 : เป็นไปตามแผน
  หลังจากหัวเราะจนพอใจแล้วหลิงหยุนจึงได้เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “เอาล่ะ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรข้าอีก บอกข้ามาว่าเจ้าคือผู้ใด มาจากไหน? และเหตุใดจึงต้องตามไล่ล่าข้าเช่นนี้?”
  หลิงหยุนเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผย แต่ถึงจะเอ่ยถามออกไป หลิงหยุนก็พอจะมีคำตอบอยู่ในใจบ้างแล้ว..
  แทบไม่ต้องสงสัยว่าจิตวิญญาณดวงนี้ แท้จริงก็คือเทพธิดาจากสรวงสวรรค์!
  และเมื่อหลิงหยุนดับจากโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่มาจุติในโลกมนุษย์ เทพธิดาองค์นี้ก็วางแผนมาจุติในโลกนี้เช่นกัน..
  ระหว่างที่เอ่ยถามหนิงหลิงยู่ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของนางแน่นิ่ง และคอยจับสังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไป เพื่อเสาะหาเบาะแสบางอย่าง  แต่สิ่งที่หลิงหยุนเห็นก็คือริมฝีปากบางของหนิงหลิงยู่โค้งขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆขยายออกเป็นร้อยยิ้มกว้าง และในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดัง
  “ฮ่าๆๆๆๆ”
  “ในที่สุดเจ้าก็ถามออกมานได้!”
  หนิงหลิงยู่จ้องมองหลิงหยุนกลับไปอย่างท้าทาย“แต่เจ้าจะไม่ได้คำตอบจากข้า แม้ว่าเจ้าจะตายไป ก็จะมิมีผู้ใดตอบคำถามเหล่านี้กับเจ้าได้!”
  “เจ้าเป็นคนเฉลียวฉลาดมิใช่รึก็ลองคาดเดาดูสิ!”
  หนิงหลิงยู่ทำเสียงล้อเลียนหลิงหยุนและดูเหมือนว่า เวลานี้หญิงสาวจะภูมิอกภูมิใจอย่างมาก ที่สามารถทำให้หลิงหยุนอยากรู้ขึ้นมาได้..
  “ไม่ล่ะ!ข้าคร้านที่คาดเดา”
  จากนั้นหลิงหยุนก็ยิ้มเย้ยหญิงสาว ก่อนจะเอ่ยต่อในทันที “การที่เจ้าจ้องจะเล่นงานข้าให้ได้เช่นนี้ ย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีแล้วว่า เจ้าหวาดกลัวข้า แล้วก็หวาดกลัวอย่างมากด้วย เช่นนี้แล้ว ข้ายังจำเป็นต้องคาดเดาอะไรให้เสียเวลาอีกเล่า”
  หลังจากได้ฟังคำกล่าวของหลิงหยุนสีหน้าของหนิงหลิงยู่พลันเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกประหนึ่งน้ำแข็งทันที!
  ดูเหมือนว่าคำพูดของหลิงหยุนเมื่อครู่ จะทำให้หญิงสาวหวนนึกถึงความทรงจำเลวร้ายบางอย่า ดวงตาทั้งคู่พลันเปลี่ยนเป็นดุดันในขณะที่ตอบโต้กลับไปว่า
  “ในสายตาของเข้าเจ้าแข็งแกร่งกว่ามดตัวเล็กๆนิดหน่อยเท่านั้น หึ! คิดจะมาฝึกบ่มเพาะตนบนโลกใบนี้ เพื่อหวังที่จะกลับไปเบื้องบนงั้นรึ เจ้าคงต้องฝันกลางวันแล้ว..”
  “เตรียมตัวตายเสียเถิด!”
  สิ้นคำพูดของหนิงหลิงยู่กระบี่เหินสี่เล่มสี่สีก็ได้พุ่งออกมาจากร่างของนาง และทะลวงจู่โจมเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนในทันที  ฟิ้ว..ฟิ้ว.. ฟิ้ว.. ฟิ้ว..
  หลิงหยุนยิ้มหยันพร้อมกับควบคุมอาวุธวิเศษทั้งสี่ของตน ให้พุ่งออกไปต้านรับกระบี่เหินของหญิงสาวในทันทีเช่นกัน
  เคร้ง..เคร้ง.. เคร้ง.. เคร้ง..
  กระบี่เหินทั้งสี่เล่มนี้แตกต่างจากระบี่เหินเล่มแรกของหนิงหลิงยู่ซึ่งเป็นยุทธภัณฑ์ระดับเต๋า แต่กระบี่เหินทั้งสี่เล่มนี้เทียบเท่ากับของวิเศษทั้งสี่ชิ้นของหลิงหยุน
  และเวลานี้ยุทธภัณฑ์ทั้งแปดอย่าง ก็กำลังปะทะกันไปมาอย่างดุเดือดได้เองตามสัญชาติญาณของมัน โดยไม่ต้องอาศัยการบังคับควบคุมจากเจ้านายอีก
  “เจ้ามีของวิเศษกี่อย่างก็จงนำออกมาใช้ให้หมด!ในเมื่อเจ้าต้องการที่จะสังหารข้าให้จงได้ ข้าก็อยากจะรู้เช่นกันว่า เจ้าจะมีความสามารถมากเพียงใด”
  หลิงหยุนยังคงพูดจาท้าทายและยั่วยุอารมณ์หนิงหลิงยู่อย่างต่อเนื่อง..   และจนกระทั่งถึงตอนนี้ดูเหมือนว่า หลิงหยุนยังคงเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ไว้ในมือได้ การต่อสู้ดำเนินไปตามแผนการที่เขาได้วางไว้
  ช่วงเวลานี้อยู่ในขั้นตอนการประเมินกลยุทธ์การต่อสู้ และการป้องกันของอีกฝ่ายอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่หลิงหยุนจะทุ่มสุดตัว โดยที่มารู้คราวหลังว่า ฝ่ายตรงข้ามยังมิได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตนเองออกมา..
  ถึงอย่างไรร่างกายนี้ก็ยังเป็นของหนิงหลิงยู่ หลิงหยุนไม่สามารถลงมือโหดเหี้ยมมากจนเกินไปได้ และหากเขาพลั้งมือทำรุนแรงจนเกินไป แม้จะสามารถกำจัดจิตวิญญาณดวงนี้ไปได้ แต่หนิงหลิงยู่อาจต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต!
  ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นคำถามต่างๆที่หลิงหยุนเอ่ยถามหญิงสาวไปก่อนหน้านี้ หรือคำพูดต่างๆที่เขาพูดออกไปในระหว่างนั้น หลิงหยุนหาได้ต้องการคำตอบเป็นจริงเป็นจังไม่ เขาเพียงแค่ต้องการยั่วยุอารมณ์ของหญิงสาวให้โกรธ เพื่อที่นางจะแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตนเองออกมา
  และนี่คือสิ่งเดียวที่หลิงหยุนต้องการในเวลานี้!
  หลิงหยุนจำเป็นต้องรู้ตื้นลึกหนาบางของอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุดเพื่อที่เขาจะได้รับมือ และจัดการได้อย่างถูกต้องเหมาะสม!
  และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้สิ่งแรกที่หลิงหยุนต้องทำก็คือ รับมือกับการจู่โจมของหนิงหลิงยู่ให้ได้ ซึ่งหลิงหยุนเองก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไรในเรื่องนี้ ตรงกันข้าม เขากลับมั่นใจเป็นอย่างมาก
  “ภายนอกสามารถเปลี่ยนแปลงได้แต่ธรรมชาติภายในยากนักที่จะเปลี่ยนแปลง เจ้ามันคงไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ..”
  หนิงหลิงยู่ยังคงพุ่งเข้าจู่โจมหลิงหยุนไม่หยุดพร้อมกับร้องตะโกนบอก แต่ถึงกระนั้น หลิงหยุนก็สามารถต้านทานการจู่โจมของนางได้อย่างง่ายดาย แม้หนิงหลิงยู่ไม่อยากจะเชื่อ แต่นางก็ต้องยอมรับ เพราะหลิงหยุนนั้นมีของวิเศษอยู่ในมือมากมาย
  “ได้!ข้าจะให้เจ้าได้รู้ฤทธิ์เดชของข้า!”
  ดอกบัวทองคำสามดอกที่อยู่ตรงหน้าหนิงหลิงยู่พลันเปลี่ยนเป็นกระบี่เหินสามเล่น และพุ่งทะยานเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว!
  “ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้ายังจะมีของวิเศษชิ้นใดมารับมือกับดอกบัวของข้าบ้าง”
  “เดี๋ยวเจ้าก็รู้..”
  หลิงหยุนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและในที่สุด เขาก็ได้รู้แล้วว่า สิ่งใดคือไพ่ตายในมือของหนิงหลิงยู่
  มันก็คือดอกบัวทองคำทั้งแปดสิบเอ็ดดอกนี่เอง!
  หลิงหยุนเคยเห็นกำเนิดของดอกบัวทองคำทั้งแปดสิบเอ็ดดอกนี้มาแล้วด้วยตัวเองทำให้เขาได้รู้ว่า ดอกบัวทองคำเหล่นี้เกิดจากพลังอมตะสีทองบริสุทธิ์ เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่า หนิงหลิงหยู่จะสามารถหลอมดอกบัวทองคำเหล่านี้ใหม่ ให้มาเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งของตนเองได้!
  หลังจากถูกหลอมอีกครั้งทำให้หญิงสาวสามารถเปลี่ยนดอกบัวทองคำให้เป็นทั้งอาวุธจู่ดจม และเกราะป้องกันในคราเดียว
  พูดง่ายๆก็คือว่าดอกบัวทองคำทั้งแปดสิบเอ็ดดอกของหนิงหลิงยู่นั้น นอกจากจะเป็นอาวุธวิเศษแปดสิบเอ็ดชิ้นแล้ว ยังสามารถถ่ายเทพลังอมตะสีทองให้แก่นาง เพื่อใช้ในการพัฒนาขั้นพลังได้อีกด้วย
  “อาวุธกระจอกเพียงแค่นี้เหตุใดยังต้องพึ่งของวิเศษของข้าด้วยเล่า”
  หลิงหยุนยิ้มหยันพร้อมกับเอ่ยดูถูกอาวุธทั้งสามของหนิงหลิงยู่ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าไปหากระบี่เหินทั้งสามเล่ม พร้อมกับตวัดกระบี่ในมือเข้าใส่อย่างรวดเร็ว!
  กระบี่โลหิตเทวะ!
  กระบี่นี้เคยเป็นอาวุธประจำกายของเทพแห่งสงครามซือโหยวกระทั่งพู่กันจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์ และสมุดจักรพรรดิแห่งผืนพิภพยังหวั่นเกรง
  หลิงหยุนเผชิญหน้ากับกระบี่เหินทองคำทั้งสามเล่มอย่างไม่หวาดหวั่นพร้อมกับฟันกระบี่ทองคำทั้งสามเล่มขาดพร้อมกันในคราเดียว!
  เคร้ง!
  เสียงโลหะกระทบกันรุนแรงดังสนั่นหวั่นไหวตามมาด้วยกระบี่เหินที่ถูกฟันขาดออกจากกันเป็นสองท่าน และปลิวกระจายว่อนอยู่กลางอากาศ
  และที่หลิงหยุนกล้าพุ่งเข้าปะทะกับกระบี่ทั้งสามเล่มเช่นนี้ก็เพราะว่าความเร็วของกระบี่ทองคำทั้งสามนี้ ช้ากว่ากระบี่เหินระดับเต๋าที่หนิงหลิงยู่ใช้จู่โจมเขาในคราแรก
  เท่านั้นยังไม่พอหลิงหยุนยังกระโดดตามไป พร้อมกับตวัดกระบี่โลหิตเทวะเข้าใส่กระบี่เหินที่หักขึ้นอีกครั้ง จนกลายเป็นชิ้นเล็กลิ้นน้อยปลิวว่อนอยู่กลางเวหา  “ยังไม่จบเท่านี้!”
  หลิงหยุนร้องคำรามออกมาพร้อมกับร่ายรำเพลงกระบี่นวสังหาร ตวัดกระบี่โลหิตเทวะเข้าใส่กระบี่ที่หักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
  หลังจากร่ายรำเพลงกระบี่ฟาดฟันอยู่ชั่วขณะหนึ่งจนได้ยินเพียงแค่เสียงโลหะกระทบกันไม่หยุด ในที่สุด กระบี่ทองคำทั้งสามเล่ม ก็ได้ถูกหลิงหยุนฟันด้วยกระบี่โลหิตเทวะจนแหลกสลาย กลายเป็นพลังอมตะสีทองที่แผ่กระจายอยู่ในห้วงอากาศ!
  หลังจากนั้นหลิงหยุนก็ได้ร้องตะโกนออกไปว่า “ท่านฉางเฟิง ยังไม่รีบออกมารับของรางวัลอีกรึ”
  ทันทีที่ทำลายกระบี่ทองคำของหนิงหลิงยู่ได้แล้วหลิงหยุนก็รีบร้องเรียกสมุดจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์ ให้มาทำการดูดซับเอาพลังอมตะสีทองในห้วงอากาศเข้าไป
  “เจ้าทำได้ดีมากทีเดียว!”
  เสียงร้องตอบของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับเงาของชายชราผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้วย แล้วเงาของชายชราก็ได้อ้าปากดูดเอาพลังอมตะสีทองนั้นเข้าไป..
  “นี่เจ้า..”
  หนิงหลิงหยุนเดือดดาลยิ่งกว่าเก่าเมื่อต้องสูญเสียดอกบัวทองคำไปถึงสามดอกพร้อมกันเช่นนี้
  เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้หญิงสาวนึกถึงเมื่อครั้งที่ ‘ของกำนัลจากสรวงสวรรค์’ ของตนเอง ถูกคนฉกฉวยขึ้นมาในทันที และนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวโกรธเกรี้ยวหนักกว่าเดิม
  หนิงหลิงยู่แบฝ่ามือทั้งสองข้างออกจากนั้น ดอกบัวทองคำสองดอกก็ได้ลอยมาอยู่บนฝ่ามือของนาง ก่อนจะกลายเป็นกระบี่ทองคำสองเล่ม หนิงหลิงยู่กำกระบี่ทองคำทั้งสองไว้แน่น พร้อมกับพุ่งเข้าจู่โจมหลิงหยุนด้วยเพลงกระบี่นวสังหารเช่นกัน!
  “ห้ำหั่นสวรรค์!”
  “ฮ่าๆๆนี่เจ้าใช้เพลงกระบี่นวสังหารที่ข้าถ่ายทอดให้หรือนี่”
  หลิงหยุนหัวเราะร่วนในขณะเดียวกันก็เรียกกระบี่มังกรขาวออกมาถือไว้อีกข้าง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการจู่โจมของหนิงหลิงยู่!
  แผนการต่อสู้ที่หลิงหยุนวางไว้ยังคงดำเนินไปได้ตามขั้นตอนอย่างราบรื่น และการต่อสู้แบบถึงเนื้อถึงตัวเช่นนี้ต่างหากที่หลิงหยุนรอคอยอยู่ แม้เขาจะไม่สามารถปลดปล่อยพลังอมตะออกมาเป็นเกราะป้องกันร่างกายได้ แต่เขาก็มีกระบี่ที่วิเศษอย่างกระบี่โลหิตเทวะอยู่ในมือ!
  “ข้าจะสับเจ้าเป็นชิ้นๆเลยทีเดียว!”
  หนิงหลิงยู่ร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวและในเมื่อหญิงสาวเข้าใกล้ตัวเช่นนี้ ก็ได้เวลาที่หลิงหยุนจะเริ่มแผนสอง ซึ่งก็คือการเข้าประชิดตัวหญิงสาวให้ได้!
  หนิงหลิงยู่ร่ายเพลงกระบี่นวสังหารและกระบี่ทองคำในมือของนางก็พุ่งเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างต่อเนื่อง หมายที่จะสับร่างของชายหนุ่มให้ขาดเป็นชิ้นๆ
  ไม่รู้ว่าเทพธิดาองค์นี้เป็นเซียนอยู่นานเท่าใดแต่หลิงหยุนเชื่อว่า น่าจะเป็นระยะเวลากว่าพันปี ที่เทพธิดาองค์นี้มิได้จับกระบี่ต่อสู้กับมนุษย์เช่นนี้
  แต่หลิงหยุนเองก็มิได้ด้อยไปกว่าเลยและเวลานี้ พลังหยินและหยางในจุดตันเถียนของเขา ก็ได้ไหลเวียนอย่างต่อเนื่องไม่หยุด!
  ช่างเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดยิ่งนัก!
  การต่อสู้ในระยะประชิดตัวเช่นนี้หลิงหยุนไม่เพียงสามารถฟาดฟันกระบี่ทองคำของนางไปมากกว่ายี่สิบครั้ง แต่ยังฟันเข้าใส่ดอกบัวทองคำของนางได้นับสิบดอกด้วยเช่นกัน
  ทั้งสองคนฟาดฟันกันอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง..
  และในที่สุดดอกบัวทองคำซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันให้กับหนิงหลิงยู่ ก็ได้ถูกหลิงหยุนทำลายไป จนกลายเป็นพลังอมตะสีทองให้พู่กันจักรพรรดิฉางเฟิง ดูดซับเข้าไปอย่างต่อเนื่องไม่หยุด
  เวลานี้สีหน้าของชายชราบ่งบอกว่า กำลังมีความสุขอย่างมาก!
  เห็นได้ชัดว่าหลิงหยุนเป็นฝ่ายได้เปรียบ และใกล้จะได้รับชัยชนะเช่นนี้ มีหรือที่พู่กันจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์จะไม่รู้สึกสุขใจ
  หลิงหยุนบุกตะลุยฟันเกระป้องกันของหนิงหลิงยู่อย่างเพลิดเพลินจนกระทั่งในที่สุด ดอกบัวทองคำของหญิงสาวก็ถูกเขาทำลายจนหมดสิ้น!
  แต่ในเวลานั้นเองจู่ๆสถานการณ์ก็กลับพลิกผัน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร