เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน นิยาย บท 10

“ตระกูลสวีทำเช่นนี้ มันไม่เกินไปหน่อยหรือไร”

“นั่นสิ ลืมบุญคุณไม่เท่าไหร่ แต่นี่ยังประทุษร้ายผู้มีบุญคุณอีก”

“อยู่อาศัยในหมู่บ้านเดียวกันแท้ๆ ไยก่อนหน้านี้ถึงดูไม่ออกว่าตระกูลสวีใจไม้ไส้ระกำถึงเพียงนี้…..”

ชาวบ้านพูดใครพูดมัน ต่างพากันตำหนิตระกูลสวีทั้งนั้น

โลกมันก็เป็นเช่นนี้แล บางครั้งบางคราความจริงก็ไม่ได้มีผลเท่าคำวิจารณ์ของผู้คน

ถึงในอดีตตระกูลกู้กับตระกูลสวีจะผูกดองกัน แต่พอสวีจิ้นหยวนสอบติดถงเซิง แม้นจะไม่พูดอะไรออกมา แต่ทุกคนก็คิดในใจอยู่ดีว่า สตรีที่ทั้งอ้วนทั้งขี้เหร่ผู้นี้ไม่คู่ควรกับสวีจิ้นหยวนเลยแม้แต่น้อย

ดังนั้น การที่ตระกูลสวีขอถอนหมั้น จึงมีหลายคนเห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้

แต่บัดนี้ พอกู้หมิงซวงบอกเล่าทุกอย่างออกมาอย่างแจ่มชัด ความคิดของทุกคนก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

เมื่อสวีเฟิงฉินและสวีจิ้นหยวนเห็นว่าชาวบ้านพากันหันไปอยู่ข้างตระกูลกู้ ซ้ำยังพ่นคำต่อว่าตนเองออกมาเป็นชุด สองอาหลานพลันทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาทันที

โดยเฉพาะสวีเฟิงฉิน นางรีบสบถด่าออกมาเสียงดังว่า “กู้เอ้อยา เจ้ามันปัญญาอ่อนสันดานหมา พูดจามั่วซั่วอย่างกับสัตว์ปล่อยมูลเรี่ยราด เห็นๆกันอยู่ว่าเจ้านั่นแหละที่ทำร้ายข้า นี่เจ้ายังจะมาโยนความผิดให้พวกข้าอีกหรือ”

“หุบปาก!”

เมื่อกู้เหวินจูนเห็นสวีเฟิงฉินดิ้น ก็รีบกดศีรษะของนางไว้ พร้อมขยับมีดเข้าไปใกล้

เมื่อสวีเฟิงฉินพูดอะไรไม่ได้ ยังมีสวีจิ้นหยวน

เขาจึงรีบกลาวขึ้นมาว่า “ท่านอาของข้าพูดถูก พวกเจ้าอย่าโดนกู้เอ้อยาหลอกเชียว นางเป็นฝ่ายทำร้ายท่านอาของข้าก่อนเห็นๆ รุนแรงถึงขั้นทำฟันท่านอาข้าหลุดด้วยซ้ำ”

ต่างฝ่ายต่างให้การกันคนละแบบ อีกอย่างฟันของสวีเฟิงฉินก็หลุดจริงๆ ดังนั้นชาวบ้านจึงงุนงงกับสถานการณ์เป็นอย่างมาก

ตกลงแล้วใครทำร้ายใครกันแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน