บทที่ 15 เกิดเรื่องขึ้นที่บ้าน – ตอนที่ต้องอ่านของ เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน
ตอนนี้ของ เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน โดย ชิงฉีหมิงเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 15 เกิดเรื่องขึ้นที่บ้าน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
กู้หมิงซวงหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว รีบพาร่างอ้วนท้วมของนางรุดไปหลบหลังก้อนหิน พร้อมกับแทงไม้ไผ่ปลายแหลมสวนออกไป
ทว่ากลับช้าไปเพียงก้าวเดียว จึงแทงเจอแต่อากาศ
เมื่อเห็นงูยักษ์เลื้อยอยู่ในโพรงหญ้าพ่นพิษมาทางตนเอง กู้หมิงซวงก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ สีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้นมา
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสันเขาเสี่ยวลู่ถึงเต็มไปด้วยอันตราย มาเยือนครั้งแรกก็เจองูยักษ์เข้าเสียแล้ว
หากชาติที่แล้วนางไม่ใช่หมอถอนพิษ และสัญชาตญาณเตือนภัยช้ากว่านี้เข้าหน่อยล่ะก็ ป่านนี้เนื้อตัวนางคงบวมพิษไปแล้ว
เมื่อสักครู่ไม่ทันได้สังเกต ตอนนี้พอมองอย่างละเอียด ถึงได้รู้ว่างูยักษ์ตัวนี้ตัวใหญ่เพียงใด
งูยักษ์ตัวเบิ้มขจ มีขนาดหัวและหางยาวเกือบสองคืบ ลำตัวของมันหนาพอๆกับข้อมือของกู้หมิงซวง ดวงตารูปสามเหลี่ยมชวนขนลุกนั่นกำลังจ้องมองมาที่นาง ราวกับรอจังหวะที่จะเข้ามาเขมือบ
ฝ่ามือของกู้หมิงซวงชื้นไปด้วยเหงื่อ กระนั้นนางก็ยังคงสงบและใจเย็น
ในยามคับขันเช่นนี้ จะตื่นตระหนกมิได้เด็ดขาด
งูตัวนี้คาดการณ์ว่าเป็นงูกะปะที่มีพิษร้ายแรงญฝ หากถูกกัดคงต้องโดนพิษเป็นแน่
แต่นางยังมีมีดพร้าและไม้ไผ่ปลายแหลมอยู่ในมือ ไม่ได้มือเปล่า ถือว่ายังพอสู้ได้
งูยักษ์เลื้อยเข้ามา และทันใดนั้นก็เลื้อยวนไปโผล่หลังก้อนหิน เตรียมฉกกู้หมิงซวง
แต่กระนั้นก็ยังไม่ทันการณ์ เนื่องจากกู้หมิงซวงก็เล็งโอกาสนี้เช่นกัน นางดีดตัวขึ้นแล้วสับมีดลงบนหัวของงูยักษ์ในทันที
หากจะสู้กับสัตว์ป่า สิ่งที่ต้องมีคือความว่องไวและแม่นยำ
เมื่อกู้หมิงซวงสับมีดลงบนหัวของงูยักษ์ จนหัวของมันขาด หัวของมันพลันกระเด็นกระดอนออกจากลำตัว
กู้หมิงซวงก้าวถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่เห็นว่าหัวงูกำลังกระเด็นมาทางตนเอง จู่ๆก็มีก้อนหินถูกปามาทางด้านหลัง ตกกระทบลงบนหัวงูตัวนั้น
จากนั้นหัวงูพลันหล่นหายไปในโพรงหญ้า
กู้หมิงซวงถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหันไปมองด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ชั่วขณะนั้นนางพลันสะดุ้งโหยง
เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง คือบุรุษที่นางเพิ่งช่วยชีวิตมาก่อนหน้านี้
"ไยจึงเป็นเจ้า?"
กู้หมิงซวงอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ
ก่อนนางจะออกมา เขายังนอนหมดสติอยู่เลยมิใช่หรือ?
ยามชายหนุ่มหมดสติ บุคลิกต่างถูกเก็บซ่อนเอาไว้
แต่เมื่อดวงตาคู่นั้นลืมขึ้นมา บุรุษตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับหมาป่าเดียวดายในค่ำคืนอันมืดมิด เปล่งรังสีเยือกเย็นออกมาจนไม่อาจต้านทานได้ญภ
"แล้วเป็นข้าไม่ได้หรือ?"
ชายหนุ่มย้อนถาม
เมื่อมองรูปร่างอวบอ้วนของกู้หมิงซวง มุมปากของเขาก็กระตุกขึ้น
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจกับรูปร่างหน้าตาของผู้อื่นมากนัก แต่สตรีตรงหน้าเขานั้น...ช่างไม่เข้าตาเอาเสียเลย
“แต่ตอนที่ข้าออกมา เจ้ายังหมดสติอยู่เลยนี่ อีกอย่าง เจ้าบาดเจ็บอยู่มิใช่หรือ?”
ขนาดนางเดินๆพักๆก็เหนื่อยจนขาสั่นแล้ว แต่บุรุษตรงหน้าได้รับบาดเจ็บสาหัส กลับเข้ามาที่นี่ราวกับคนไม่เป็นอะไรอย่างนั้นหรือ?
อีกอย่าง เขารู้ได้เช่นไรว่านางอยู่ที่สันเขาเสี่ยวลู่?
กู้หมิงซวงผู้ใจเย็นและสงบเสมอมา บัดนี้ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความสงสัย
"ข้าเดาเอาน่ะ"
บุรุษตรงหน้าเหมือนจะรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงได้พูดออกมาอย่างเรียบนิ่ง
เดาเอาอย่างนั้นหรือ
“หมู่บ้านต้าเฉียวมีภูเขาเพียงสองลูก ช่วงเช้าพวกเจ้าเพิ่งไปเขาชิงจู๋มา ไม่น่าจะกลับเข้าไปอีก อีกอย่างนะ ทางเข้าสันเขาเสี่ยวลู่ก็มีแต่รอยเท้าของเจ้า”
ขณะที่พูดนั้น บุรุษตรงหน้าก็มองร่างกายที่อ้วนท้วนของกู้หมิงซวงราวกับกำลังคิดอะไร
"ร้องเข้าไป เจ้ามันดีแต่ร้องไห้เป็นอย่างเดียว ตัวซวยเช่นเจ้า เหตุใดต้องได้แต่งเข้าตระกูลกู้ของข้าด้วย ไม่รู้จักชั่วดี ไม่รู้จักเจียมตัว หากวันนี้เจ้าไม่ยอมยกเสี่ยวซานให้พี่เขยเจ้าไปล่ะก็ ข้าจักเอาเจ้าไปขายที่หอนางโลมเสีย!”
“ท่านแม่ ข้าคลอดเสี่ยวซานมา เหตุใดข้าต้องยกให้พี่ใหญ่เล่า….”
เสี่ยวซาน.....
หางตาของกู้หมิงซวงกระตุก ในความทรงจำอันเลือนราง เหมือนว่าเสี่ยวซานเป็นน้องชายคนสุดท้องของเจ้าของร่างเดิม
พูดมาเช่นนี้ แสดงว่าจะมาแย่งตัวน้องชายนางไปหรือ?
เมื่อได้ยินเสียงด่าทอของกู้เหล่าไท่ไท่ขึ้นมาอีกหน กู้หมิงซวงก็สาวเท้าเดินเข้าไป
ทันทีที่นางเดินเข้ามา ก็เจอเข้ากับผู้มาเยือนแปลกหน้าทั้งสามคน
เหล่าไท่ไท่อยู่ในอาภรณ์สีสด ใบหน้าซูบตอบเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น ดวงตาทอประกายวาวโรจน์ กำลังยืนเท้าสะเอวสั่งสอนนางเฉา
นอกจากนี้ยังมีบุรุษและสตรีวัยกลางคนอีกคู่หนึ่ง ดูท่าแล้วคงเป็นสามีภรรยากัน อายุราวๆสี่สิบได้ ทั้งสองแต่งตัวค่อนข้างดี
“พวกท่านเป็นใคร มาทำอะไรที่เรือนของข้า”
เนื่องจากเจ้าของร่างคนสติไม่สมประกอบ ความทรงจำที่มีต่อคนเหล่านี้จึงไม่สมบูรณ์ ดังนั้นกู้หมิงซวงจึงจำไม่ได้ว่าทั้งสามคนนี้เป็นใคร
สิ้นคำพูดของนาง เหล่าไท่ไท่ก็หันมา พร้อมพ่นเสมหะลงบนพื้น กล่าวด่าทอว่า "มาแล้วหรือนังหลานอัปรีย์ โชคร้ายของตระกูลกู้จริงๆที่มีสายเลือดเช่นเจ้า ข้าจะเป็นใครไปได้หฌ ข้าก็เป็นย่าของเจ้าอย่างไรเล่า!"
คู่ชายหญิงที่อยู่ข้างๆมองมาที่กู้หมิงซวงอย่างพูดอันใดไม่ออก พร้อมกับก้าวถอยหลัง
“น้องสะใภ้สาม เจ้าบอกว่าบุตรสาวเจ้าโง่เขลาเบาปัญญามิใช่หรือ? ไยถึงดูไม่เหมือนคนปัญญาอ่อนเลยสักนิด”
สตรีวัยกลางคนค่อนขอดออกมา
นางเฉารีบเอ่ยว่า "ซวงเอ๋อร์ไม่ได้ปัญญาอ่อนแล้วเจ้าค่ะ เพียงแต่ว่านางลืมเรื่องราวในอดีตไปหมดแล้วเท่านั้น ซวงเอ๋อร์ นี่ย่าของเจ้า ส่วนทางนั้นคือลุงกับป้า”
กู้หมิงซวงชำเลืองมองพวกเขาแล้วพูดว่า "สวัสดี ท่านย่า ท่านลุง แล้วก็ท่านป้า"
"ไปให้พ้น ข้ารำคาญจะเห็นหน้าเจ้า" เหล่าไท่ไท่ถ่มน้ำลายอย่าวอารมณ์เสีย ไม่เห็นหัวกู้หมิงซวงเลยแม้แต่น้อย
“นางเฉา เมื่อสักครู่ข้าพูดไปตั้งเยอะ เจ้าได้ฟังเข้าหูบ้างไหม ตกลงเจ้าจะยกเสี่ยวซานให้ดีๆหรือไม่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน
รอจ้าาาา...
ขอทางทีมงานลงต่ด้วยนะคะ...
แอดมินค่ะ จะมีอัพต่ออีกไหมค่ะ ชอบมากเลย รอๆนะค่ะ...
อยากอ่านเรื่องนี้มากกกก ค้างคาใจ แอดมินอีพเดตทีน๊าาา pleaseee...
อยากรู้จัง ซูเหิงจิ่วเป็นใคร แอดมินจ๋าอัพเดตที pleaseeeeee...
เรื่องนี้ก็สนุกมาก รออัพเดตนะค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออัพเดตนะคะแอดมิน...
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ รออัพเดทนะคะ...
รออัพเดทนะคะ please...
รออัพเดทอยู่นะคะ...