เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า นิยาย บท 453

ตอนที่ 453 ล่วงเกินภูตหมอไม่ได้

นึกถึงตรงนี้ หัวใจเขาก็สั่นแวบหนึ่ง พลันตะโกนลั่นว่า “ทหาร! ทหาร!”

ทหารอารักขาชุดดำคนหนึ่งโฉบกายเข้ามา ไม่กล้าไปมองคนด้านบนนั้น แต่คุกเข่าข้างเดียวด้วยความเคารพ “นายท่าน”

“ไป! ไปจวนอ๋องเดี๋ยวนี้! เรียกอี้เซวียนมา!” เขาพยายามสงบสติอารมณ์ไว้สุดฤทธิ์ แต่เสียงที่สั่นเครือเล็กน้อยยังคงมีความหวาดกลัวเผยออกมา

“ขอรับ!” คนชุดดำขานรับ แล้วออกไปอย่างรวดเร็ว

“ต้องเป็นพวกเขาแน่! แต่พวกเขาลงมือตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้างกายข้าล้วนเป็นคนสนิท…” เขาพึมพำอย่างกระวนกระวาย พูดถึงตรงนี้เสียงก็ชะงักไป นึกอะไรขึ้นได้ทันใด จึงกำหมัดแน่นพลางตะโกนเสียงดัง “ทหาร! ทหาร!”

คนชุดดำมากมายกรูเข้ามา ได้ยินเสียงสั่นเครือนั้นบอกว่า “นับจำนวนคนหน่อย! ลองดูว่าขาดใครไปหรือไม่! เร็วเข้า! เดี๋ยวนี้เลย!”

“ขอรับ!”

พวกเขาขานรับ ถอยห่างอย่างว่องไวเพื่อสำรวจจำนวนคน เมื่อพบว่าขาดไปหนึ่งคน ผู้ที่ตรวจนับผงะไปแล้วนับอีกรอบหนึ่ง หลังจากยืนยันชัดเจนจึงรีบเข้าไปรายงาน

“นายท่าน คนของพวกเราขาดไปหนึ่งขอรับ”

“เป็นอย่างที่คิดไว้…เป็นอย่างที่คิดไว้เลย…” มู่หรงป๋อซวนเซถอยไปสองสามก้าว สีหน้าตกตะลึงและกระจ่างแจ้ง

ยามนี้เอง องครักษ์เงาที่ส่งไปจวนอ๋องก่อนหน้านี้กลับมารายงาน “นายท่าน ตามที่คนของจวนอ๋องบอกมา เมื่อวานท่านอ๋องสามไม่ได้กลับจวน คนที่พวกเขาส่งไปในเมืองก็ตามหาร่องรอยไม่พบ ทางประตูเมืองบอกว่าเห็นท่านอ๋องสามออกจากเมือง ไม่รู้ไปไหนขอรับ”

ได้ยินเช่นนี้ ร่างกายมู่หรงป๋อก็อ่อนเปลี้ยทรุดลงบนพื้น ในหัวขาวโพลนไปหมด คนที่เดิมทีดูแก่ชราในเวลานี้เหมือนแก่ลงไปอีกสิบปี เขานั่งอ่อนแรงอยู่บนพื้น มองไปด้านหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า พูดอะไรไม่ได้อยู่นานนัก…

คนในตำหนักเห็นเช่นนี้ก็มองหน้ากัน ก่อนจะถอยออกไปอย่างเงียบเชียบ

แม้มู่หรงป๋ออยากจะปิดข่าวไว้ แต่ข่าวที่วรยุทธ์เขาค่อยๆ หายไปและใบหน้าแก่ลงช้าๆ ก็ยังแพร่ออกไป หนำซ้ำข่าวที่มู่หรงอี้เซวียนจากไปก็มีคนรู้ทีละน้อย หลังจากได้ยินข่าวนี้ คลื่นใต้น้ำในเมืองอวิ๋นเยวี่ยที่เดิมทีไม่นับว่าสงบเท่าไหร่นักก็เริ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง

ภายในจวนตระกูลเฟิ่ง เรือนที่พำนักของเจ้าตำหนักยมราช

“อึก! ข้าจะบอกนะ เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าตกใจแค่ไหนตอนเห็นภาพเช่นนั้น เกือบจะอดใจไม่อยู่อุทานเสียงหลงออกมาแล้ว เจ้าจินตนาการไม่ได้แน่ คนที่วันก่อนยังดีๆ อยู่ วันต่อมาข้าไปดูก็กลายเป็นตาแก่อายุห้าหกสิบไปแล้ว”

ฮุยหลางพูดกับอิ่งอีอยู่ในลานบ้าน “สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือวรยุทธ์เขาจะถูกทำลาย การหายไปช้าๆ นั่นแหละทำให้คนเสียสติ แม้วรยุทธ์อยู่ระดับบรรพชนนักรบ ก็ต้องตรากตรำฝึกบำเพ็ญมาหลายสิบปี มาโดนทำลายทีเดียวเช่นนี้ จิ๊ๆ ยาของภูตหมอไม่ธรรมดาดังคาด ดังนั้นถึงบอกว่าจะล่วงเกินใครก็ได้แต่อย่าล่วงเกินภูตหมอ”

อิ่งอีฟังแล้วดวงตาฉายประกายเล็กน้อย วิธีของภูตหมอแน่นอนว่าเขาก็เคยเห็นมา แต่ไม่นึกว่าจะมียาแปลกๆ เช่นนั้นด้วย ทำให้คนแก่ลงทุกวันๆ? พลังวรยุทธ์ยังค่อยๆ หายไปด้วย? นั่นทำให้คนอยู่เหมือนตายทั้งเป็นได้อย่างแน่นอน ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวและตื่นตระหนกถึงขีดสุด วิธีการเช่นนี้ทำให้เขาตายทั้งเป็นได้ยิ่งกว่าฆ่าในดาบเดียวเสียอีก

“แต่ยาที่ทำให้หัวล้านนั่นข้าเป็นคนใส่เอง เดิมทีอยากจะจัดการเขา ทว่านึกถึงคำพูดภูตหมอ เฮ้อ! ข้าจึงไม่ได้ลงมือ” เขาเอ่ยอย่างเสียดายเล็กน้อย กับมู่หรงป๋อคนนั้น หากเปลี่ยนเป็นเขาคงได้จัดการในดาบเดียวจริงๆ แล้ว

กล่าวจบเขาพลันมองไปทางเรือน ถามเสียงเบาว่า “สองวันนี้นายท่านเป็นอะไร อยู่ในห้องไม่ออกมาเลย?”

………………………………………………….

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า