พี่ลีวายโน้มใบหน้าลงมาใกล้กว่าเดิมแล้วถามย้ำ “รีบตอบมาสิ ฉันอุตส่าห์ใจดีให้เธอเลือก”
“มิลินไม่อยากทำแบบนั้นแล้วค่ะ”
“มั่นใจ?”
“…” ทั้งที่ตอบไปแล้วแต่พอถูกถามย้ำอีกครั้งฉันก็ยังลังเลเหมือนเดิม
“ให้โอกาสตอบอีกครั้ง”
“พี่ลีวายต้องการให้มิลินตอบว่าอะไรคะ”
“เธอคงไม่อยากให้ฉันไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น” พี่ลีวายบอกอย่างมั่นใจเพราะเขารู้ความรู้สึกของฉัน และก็ใช่อย่างที่ว่ามา
ฉันไม่ต้องการให้พี่ลีวายไปทำอะไรกับใคร
“แล้วพี่ลีวายอยากทำกับมิลินหรือผู้หญิงพวกนั้นเหรอคะ”
คราวนี้ฉันเป็นฝ่ายตั้งคำถามกลับ ทำให้พี่ลีวายยิ้มมุมปาก เหมือนเขา
จะชอบใจไม่น้อยที่กล้าถามออกไปแบบนี้
“ถ้าฉันอยากทำกับเธอ… แล้วเธอจะพร้อมอ้าขาให้หรือเปล่า?” เขามันเจ้าเล่ห์ต่อให้ฉันตั้งคำถามกลับยังไงก็แพ้พี่ลีวายอยู่ดี
“มิลินเคยมีค่าในสายตาของพี่ลีวายบ้างไหมคะ”
“ถ้าอยากมีค่าก็ทำตามที่ฉันสั่งสิ”
“…”
“อ้าขาออก”
ฉันเม้มปากแน่นไม่ยอมทำตามคำสั่ง พี่ลีวายใช้สายตาคม
มองสำรวจเรือนร่างของฉันอย่างพิจารณา ก่อนจะกดริมฝีปากมาบดขยี้ริมฝีปากของฉันอย่างรุนแรงจนรู้สึกปวดหนึบ
“อื้อ” ฉันส่งเสียงประท้วงในลำคอพยายามใช้กำปั้นเล็ก ๆ ทุบบนแผงอกแกร่ง แต่พี่ลีวายก็ยังไม่ยอมปล่อย เขาจูบหนักกว่าเดิม
แถมยังใช้เขี้ยวฟันงับทำให้เริ่มรู้สึกเจ็บและได้กลิ่นคาวของเลือดจาง ๆ
“อื้อ~” เพราะอะไรพี่ลีวายถึงทำแบบนี้ ต้องการลงโทษอย่างนั้นเหรอ เขาจูบจนปากของฉันจนเลือดออกแล้วนะ
ฉันเกือบจะขาดหายใจพี่ลีวายถึงยอมผละออก สายตาคม
จ้องมองริมฝีปากของฉันก่อนจะใช้ลิ้นตวัดเลียปากตัวเอง
มือหนาจับเรียวขาของฉันให้อ้าออกจากกัน ทำให้ต้องเบิกตากว้างแล้วรีบขยับถอยหนีแต่ถูกรั้งสะโพกไว้แน่น
“มะ… ไม่นะคะ”
คำพูดของฉันไม่ต่างอะไรกับอากาศ เพราะพี่ลีวายได้สอดมือเข้ามาในกระโปรงนักศึกษาของฉันแล้วค่อย ๆ ลากไล้มือสากมาตามผิวเนื้อช้า ๆ ขึ้นมาจนถึงจุดกระสันที่มีเนื้อผ้าปิดกั้นอยู่
“ใส่แบบนี้คงอึดอัด… เดี๋ยวฉันถอดให้”
“พี่ลีวาย… อย่าค่ะ” ฉันใช้มือพยายามดันคนที่ตัวโตออกห่าง
แต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ตอนอยู่กับพี่ลีวายก็เหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งที่แทบสู้แรงคนที่โตกว่าอย่างเขาไม่ได้เลย
ถึงแม้จะพยายามห้ามแต่สุดท้ายพี่ลีวายก็ดึงกางเกงซับใน
ของฉันติดมืออกมาได้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะทิ้งมันลงพื้นราวกับขยะ จากนั้นก็ดันไหล่ฉันให้เอนหลังมาแนบกับกระจกแล้วจับขาชันเข่าขึ้นพร้อมอ้าออกกว้างกว่าเดิม
ฉันเม้มปากเบือนหน้าหนีเพราะถูกมองจ้องมองอย่าง
ไม่ละสายตา ตอนนี้คงขัดอะไรไม่ได้แล้ว สุดท้ายมันก็ต้องเกิดขึ้นอีกครั้งจนได้
ทำไมฉันไม่ผลักเขาออกไปให้แรงกว่านี้…
“หึ!!”
เสียงทุ้มในลำคอของพี่ลีวายดังขึ้นมาให้ได้ยิน จากนั้นเขา
ก็ใช้นิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในตัวจิ๋วของฉันออกให้พ้นทาง ก่อนจะเอานิ้วเขี่ยหยอกล้อกับติ่งเกสรเบา ๆ ทำให้ฉันกัดริมฝีปากแน่นพร้อมกระตุกตัวเกร็ง
“อ๊ะ…~”
“ดูเหมือนเธอจะชอบให้ฉันทำแบบนี้”
เห็นฉันทรมานพี่ลีวายยิ่งใช้นิ้วเขี่ยหยอกล้อติ่งเกสรรัว ๆ จนฉันกระตุกติดกันถี่ ๆ ก่อนที่เข้าจะใช้นิ้วสอดใหญ่เข้ามา
“อ๊ะ~ จะ... เจ็บ~” ฉันจับท่อนแขนแกร่งเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้
พี่ลีวายขยับนิ้ว
“แค่นิ้วเดียวเจ็บอะไรขนาดนั้น ของฉันใหญ่กว่าหลายเท่า
ยังเข้าไปได้” คำพูดที่ไม่รู้สึกละอายถูกพ่นออกมาจากปากของพี่ลีวาย
ทำให้ฉันค่อย ๆ ปล่อยมือให้เขาทำตามอำเภอใจ
นิ้วใหญ่ค่อย ๆ เข้าออกภายในร่องแคบ การเสียดสีทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปนเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกแปลกใหม่นี้
มันคืออะไรกัน
เห็นว่าคุณท่านกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน
“หนูขอเข้าไปได้ไหมคะ”
“อืม เข้ามาสิ”
ฉันค่อย ๆ เดินมานั่งที่โซฟาตัวใหญ่พยายามคิดทบทวนถึง
สิ่งที่ตัวเองกำลังจะพูดว่าจะเอ่ยออกไปดีไหม
“มีอะไรสีหน้าดูไม่ค่อยดีเลยนะ ลูกชายตัวดีของฉันมันทำอะไร”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ลีวายหรอกค่ะ”
“แล้วมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ?”
“คือ…” ฉันเม้มปากแน่นพยายามทำใจกล้าก่อนจะพูดออกไป “ถ้ามหาวิทยาลัยปิดเทอมแล้วหนูขอไปต่างประเทศกับคุณท่านด้วย
ได้ไหมคะ”
“หืม? ทำไมถึงอยากไปกับฉัน ไม่อยากฝึกงานที่บริษัทหรือไง” คุณท่านขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ
“หนูอยากไปดูแลคุณท่านมากกว่าค่ะ” นี่คือสิ่งที่ฉันคิดเอาไว้
มีเวลาหลายเดือนในตอนปิดเทอมหากได้ไปอยู่ต่างประเทศกับคุณท่าน
ก็จะไม่ได้เจอพี่ลีวาย มันเป็นผลดีต่อความรู้สึกของฉันที่กำลังถลำลึกไปมาก ๆ
“ที่นั่นคงมีหมอพยาบาลดูแลฉันเยอะแยะ”
“ให้หนูไปด้วนนะคะ”
ฉันก้มหน้าหลบสายตาของคุณท่านที่จ้องมองราวกับกำลัง
หาเรื่องจับผิด
“อยากไปเพราะลูกชายของฉันสินะ…”
“…”
“เอาเถอะฉันจะไม่บังคับ”
เมื่อได้ยินคำนั้นมันก็ทำให้ฉันสามารถยิ้มออกมาได้
เหมือนได้ยกภูเขาออกไปจากอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD