ตระกูลลู่
ลู่ซีเจ๋อวุ่นวายแต่เช้าตรู่ กว่าจะเกลี้ยกล่อมเฉินชิงเสวี่ยให้ออกไปได้นั้นมันไม่ง่ายเลย ทันทีที่เข้ามาในบ้าน พริบตาถ้วยชาก็กระแทกเข้ากับหน้าผากเขาจนเลือดกระเด็นออกมาอย่างจัง
ลู่ซีเจ๋อที่ถูกกระแทกยังคงมึนงงอยู่และถามอย่างโมโหว่า “พ่อ! นี่พ่อทำอะไรเนี่ย!”
“ทำอะไร? ฉันจะฆ่าแกไอ้ลูกไม่รักดี!”
ลู่เทาตะโกนด้วยใบหน้าเขียวปั๊ด “กว่าฉันจะได้โปรเจกต์นี้มาได้มันไม่ง่ายเลยสักนิด แต่มันกลับถูกแกทำลายไปแล้ว! นอกจากแกจะเอาแต่สร้างปัญหาแล้ว แกยังจะมีปัญญาไปทำอะไรได้อีก!”
“พ่อ! นี่พ่อกำลังพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย!” ลู่ซีเจ๋อตะโกนตอบ
“วันนี้แกไปทำอะไรเอาไว้ที่ร้านเซียวเซียงซวนมาล่ะ? แกรู้ไหม เซียวเซียงซวนเป็นร้านของคุณชายรองตระกูลฮั่ว! แกกล้าดียังไงถึงไปก่อเรื่องวุ่นวายในอาณาเขตของตระกูลฮั่ว! แกกลัวว่าพ่อของแกจะอายุยืนใช่ไหม!” ลู่เทาอดกลั้นเอาไว้จนทั้งใบหน้าแดงก่ำไปหมด
ลู่ซีเจ๋อตะลึงงันไปครู่หนึ่ง อะไรนะ? เซียงเซียวซวนคือร้านของคุณชายรองตระกูลฮั่ว? ถ้าอย่างนั้นไอ้เวรนั่นก็เป็นคุณชายรองเหรอ?
เขากับเฉินชิงเสวี่ยถึงขั้นตะโกนปะทะฝีปากกับคนคนนั้น แบบนี้ก็เท่ากับเป็นการทำลายโปรเจกต์ใหญ่ของลู่กรุ๊ปไปแล้วน่ะสิ!
ในตอนที่ลู่ซีเจ๋อถูกลู่เทาด่าจนเลือดแทบกระอัก คุณนายลู่ก็ด่าออกมาชุดใหญ่เช่นกัน
“ฉันรู้เรื่องแล้วนะคะ ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินชิงเสวี่ย ลูกก็ไม่ต้องมีเรื่องกับคุณชายรองของตระกูลฮั่วหรอก แม่เคยพูดไปแล้วว่าเฉินชิงเสวี่ยน่ะเป็นตัวอันตราย แต่ลูกไม่ฟังเอง!”
ลู่ซีเจ๋อไม่พอใจขึ้นมาอย่างทันที
“เสวี่ยเอ๋ออ่อนโยนและเอาใจใส่จะตาย อันตรายตรงไหนกัน? อีกอย่างเรื่องวันนี้ก็โทษเธอไม่ได้! ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินมู่เอาแต่ตามตื๊อแบบไม่มีเหตุผล จะเกิดเรื่องที่ไหนกันเล่า? งานหมั้นนี่ผมก็ถอนหมั้นไปแล้วด้วย!”
คุณนายลู่โมโหจนหน้าเปลี่ยนสี “เจ้าลูกชาย แม่มองคนไม่เคยผิด! เสี่ยวมู่ทั้งรู้ความและรอบรู้! แม่ของเธอก็เคยเป็นอัจฉริยะด้านธุรกิจในปีนั้นด้วย!”
“ถ้าตัดเรื่องนิสัยกับฐานะ ตอนนั้นที่แม่ของเสี่ยวมู่ทำเรื่องหมั้นหมายกับพวกเราไว้ เธอทิ้งบริษัทนายหน้าไว้เป็นสินสอดทองหมั้น ถ้าลูกแต่งงานกับเธอ บริษัทนั่นก็จะตกเป็นของลูก!”
ลู่ซีเจ๋อโบกมืออย่างไม่สบอารมณ์ “ผมไม่ได้อยากได้บริษัทอะไรนั่น! ผมต้องการแค่เสวี่ยเอ๋อ! อีกอย่าง เรื่องของสินสอดยังไงคุณลุงเฉินก็เป็นคนตัดสินใจไม่ใช่เหรอ? เขายินดีที่จะให้บริษัทกับใครก็ให้ไปเถอะ!”
คุณนายลู่เอ่ยขึ้นอย่างไม่ได้ดั่งใจ “ซีเจ๋อ! รอให้เสี่ยวมู่ได้แต่งงานกับคนอื่นก่อนเถอะ ลูกจะมาเสียใจทีหลังมันก็สายเกินไปแล้ว!”
“ผมไม่มีทางเสียใจในภายหลังแน่!” ลู่ซีเจ๋อสาบานอย่างหนักแน่น
เฉินชิงเสวี่ยสวยกว่าเฉินมู่ตั้งเยอะ อีกทั้งยังรู้ความ อ่อนโยน มีน้ำใจ เธอยังจะมีอะไรให้เขาผิดหวังในอนาคตได้อีก?
ลู่เทาตะโกนออกมาอย่างโกรธจัด “ฉันไม่สนว่าแกจะแต่งกับใคร! แต่ถ้าแกไม่ได้โปรเจกต์ของฮั่วกรุ๊ปที่ขาดทุนไปกลับมาล่ะก็! ตำแหน่งรองประธานอะไรนั่นแกก็อย่าได้เป็นเลย!”
ทางด้านเฉินชิงเสวี่ย เธอได้กลับมาที่ตระกูลเฉินเป็นที่เรียบร้อย ซู่หรูหลานรีบเข้ามาต้อนรับเธอและถามว่า “เป็นอย่างไร? บอสฮั่วว่าไงบ้าง?”
เฉินชิงเสวี่ยยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วตอบ “บอสฮั่ว...บอสฮั่ววันนี้ยุ่งมาก ประชุมทั้งวันเลย หนูกับซีเจ๋อเลยไม่อยากรบกวนเขา...”
เมื่อชายชราได้ยินประโยคนี้จึงถามขึ้นว่า “ก็แสดงว่าแม้แต่หน้าเขาหลานก็ยังไม่ได้เห็น?”
“ไม่ใช่นะคะ!” เฉินชิงเสวี่ยรีบปฏิเสธทันที “แน่นอนว่าได้พบแล้วค่ะ! บอสฮั่วตอบตกลงที่จะมางานเลี้ยงวันเกิดแล้วด้วย เพียงแต่เรื่องเล็ก ๆ เมื่อคืนก่อนมันไม่ควรที่จะหยิบเอามาเบียดเบียนเวลางานของเขาต่างหาก”
ซู่หรูหลานรู้สึกเบิกบานขึ้นมาทันที “สมควรแล้ว ๆ ในเมื่อบอสฮั่วรับปากที่จะมางานเลี้ยงวันเกิด ถ้าอย่างนั้นก็อย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเมื่อวานเลย”
ชายชราพยักหน้า “ที่พูดมามันก็ถูก จริงสิ เสี่ยวมู่ไปไหนแล้วล่ะ? ทำไมถึงไม่เห็นเธอทั้งวันเลย?”
เฉินชิงเสวี่ยกลอกลูกตาไปมาด้วยความเลิ่กลั่กพลางพูดอย่างตะกุกตะกัก “พี่เขา พี่เขาวันนี้ไปทานข้าวที่ร้านเซียวเซียงซวนกับผู้ชายน่ะค่ะ...”
“ผู้ชาย? ผู้ชายอะไร?”ชายชราตกตะลึง
เฉินชิงเสวี่ยส่ายหน้า “เห็นไม่ค่อยชัด แต่น่าจะเป็นคนใหญ่คนโตสักคนล่ะมั้ง? สถานที่อย่างเซียวเซียงซวนไม่ใช่สถานที่ที่คนทั่วไปจะสามารถเข้าไปได้หรอกนะคะ”
“การหมั้นของเธอยังคงอยู่ นี่มันเรื่องอะไรกัน!”ชายชราพูดออกมาด้วยความโมโห “ยังมีครูสอนพิเศษอยู่ไหม! ไปตามคนกลับมาให้ฉัน หลายวันมานี้ยังขายขี้หน้ากันไม่พออีกใช่ไหม!”
เฉินชิงเสวี่ยยิ้มเยาะในใจ เฉินมู่ กล้าที่จะมาแย่งลู่ซีเจ๋อกับเธอหรือ เธอจะต้องทำให้เฉินมู่รับรู้ถึงความร้ายกาจเสียหน่อยแล้ว!
โรงพยาบาลอันเซิ่ง
ตอนที่เฉินมู่ตื่นขึ้นมา เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ข้างหมอนก็ดังขึ้นไม่หยุด เธอกดรับสายแล้วพูดเสียงอ่อนอย่างคนไร้เรี่ยวแรงว่า “สวัสดีค่ะ?”
“เสี่ยวมู่! เธอหลับอยู่งั้นเหรอ?”ซู่หรูหลานแผดเสียงพูดจนเพดานห้องเกือบจะถล่ม “นี่มันกลางวันแสก ๆ! เธอไปนอนอยู่ที่ไหนกัน?”
เฉินมู่ขมวดคิ้วเข้าหากัน อีกทั้งตรวจเช็คให้แน่ใจอีกครั้งว่าใครโทรมาและถามว่า “คุณป้าซู่มีธุระอะไรหรือคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่