ชายชราสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าเขาสื่อถึงอะไร เมื่อนึกถึงสิ่งที่เฉินชิงเสวี่ยพูดเมื่อสักครู่ ทั้งหมดล้วนเป็นคำโกหกหลอกลวงผู้ใหญ่! แม้แต่ใบหน้าของฮั่วหยุนเซียวเธอก็ยังไม่ได้เห็นเลยด้วยซ้ำ!
ชายชรารู้สึกเสียหน้า จึงทำได้เพียงแค่นยิ้มเท่านั้น “เสี่ยวมู่รู้ความมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้รบกวนเวลางานของเธอใช่ไหม?”
ฮั่วหยุนเซียวหันหน้าไปมองเฉินมู่ที่กำลังก้มหน้าก้มตาดื่มชาแวบหนึ่งและขำออกมาเบา ๆ “ไม่เป็นไรครับ รู้ความมากจริง ๆ”
เฉินมู่สำลักน้ำในปาก คราวก่อนเธอก็ถูกชมว่ารู้ความ หมายถึงแนวคิดคร่าว ๆ ตอนฆ่าคน เธอเลือกที่จะลั่นไกไม่ใช้การต่อสู้แบบประจัญบานน่ะนะ
“อย่างนั้นก็ดีแล้ว ๆ...”ชายชราคิดว่าตราบใดที่เขายังไม่ได้ผิดใจกับตระกูลฮั่ว แบบไหนก็ดีทั้งนั้น
ฮั่วหยุนเซียวเก็บรอยยิ้มและพูดต่อ “ที่มาวันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไร? หยุนเซียว ไหนเธอลองว่ามาสิ” ชายชราถามกลับทันที
ฮั่วหยุนเซียวเงยหน้ากวาดตามองเฉินชิงเสวี่ยครู่เดียว เฉินชิงเสวี่ยก็สะดุ้งเฮือก พลันเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมาในใจ
ฮั่วหยุนเซียวรับใบเรียกเก็บเงินมาจากมือของฮานเฉิงและวางมันลงบนโต๊ะดื่มชาหินอ่อน
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “วันนี้ตอนเช้า คุณชายตระกูลลู่พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปสร้างปัญหาในร้านอาหารของหยุนเฉิน ว่ากันว่าคนที่ไปด้วยก็คือคุณหนูรองของตระกูลเฉิน?”
นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการประณามฝั่งตรงข้าม ชายชราไม่กล้าแม้แต่จะโต้แย้ง เขารีบหันไปมองเฉินชิงเสวี่ยและตะคอกใส่ทันควัน “เจ้าหลานไม่รักดี!”
เฉินชิงเสวี่ยลุกขึ้นยืนอธิบายด้วยใบหน้าซีดเผือดว่า “เปล่านะ...ไม่ใช่ฉันนะคะ...ไม่ใช่ฉัน...จริง ๆแล้วเป็น....”
“คุณหนูเฉินกำลังบอกว่า บอสฮั่วอย่างผมเสียเวลามาตั้งไกลเพื่อยัดข้อหาให้คุณโดยเฉพาะหรือครับ?” ฮั่วหยุนเซียวเลื่อนสายตาไปมองที่เธอ
มีข่าวลือว่าฮั่วหยุนเซียวนั้นเป็นผู้มีอำนาจทั้งด้านมืดและด้านสว่าง มาวันนี้เฉินชิงเสวี่ยรับรู้แล้ว เพียงแค่ครู่เดียวบรรยากาศก็กดดันจนตัวเธอพูดอะไรไม่ออกสักคำ
ซู่หรูหลานปกป้องลูกสาวที่อยู่ด้านหลังแล้วอธิบายอย่างนอบน้อมว่า “ไม่ใช่แน่นอน! ไม่ใช่แน่นอนค่ะ! เป็นชิงเสวี่ยเองที่ยังไม่รู้ความ!”
ฮั่วหยุนเซียวมองไปยังชายชรา นิ้วมือที่ขึ้นข้อต่อกระดูกวางซ้อนกันลงบนหัวเข่าแล้วกล่าวเพิ่ม “หยุนเฉินเป็นคนโมโหง่าย คุณก็รู้”
ฮานเฉิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฮั่วหยุนเซียวก็พูดเสริมขึ้นมาอีก “คุณหนูเฉินคนรองไม่ได้นัดหมายเอาไว้ แถมยังไปก่อเรื่องที่ร้านเซียวเซียงซวน ทำให้พื้นร้านอาหารสกปรก วัสดุปูพื้นของร้านเซียวเซียงซวนเป็นสิ่งของที่นำเข้าจากต่างประเทศ คุณชายรองมีนิสัยที่รักสะอาดจึงต้องเปลี่ยนเป็นของใหม่ทั้งหมด ราคารวมมูลค่าสองแสนเจ็ดหมื่นสามพันหยวนครับ”
ใบหน้าของชายชราแดงก่ำด้วยความขายหน้าจนต้องรีบเอ่ยขึ้นมาทันที “พ่อบ้าน ไป ไปแจ้งฝ่ายการเงินให้บอสฮั่ว...”
“ไม่ต้องแล้วครับ”ฮั่วหยุนเซียวหยุดชายชราไว้ก่อน
“เรื่องเงินแค่สองแสนกว่า ๆ ผมให้หยุนเฉินไปเบิกเอากับฮั่วกรุ๊ปเรียบร้อยแล้ว เท่านี้ก็จบเรื่อง ผมแค่มาทักทายคุณปู่ตามคำสั่งของคุณพ่อ อย่างไรเสียคราวก่อนที่คุณแม่เป็นลมข้างนอก ต้องขอบคุณตระกูลเฉินที่ช่วยไว้เป็นอย่างมาก”
พอพูดจบ ชายชราจึงได้เข้าใจสิ่งที่ฮั่วหยุนเซียวต้องการจะสื่อ
เหตุผลที่สามารถเชิญตระกูลฮั่วมาร่วมงานเลี้ยงเล็ก ๆ ของตระกูลเฉินได้ทั้งหมดมันก็เริ่มมาจากน้ำใจในครั้งนั้น!
ก่อนหน้านี้คุณนายฮั่วเคยเป็นลมที่ด้านนอก บังเอิญว่าเป็นตระกูลเฉินที่เป็นคนพาไปส่งโรงพยาบาล ถ้ายกน้ำใจในครั้งนั้นขึ้นมาใช้ ไม่นานก็คงจะได้พึ่งบารมีของตระกูลฮั่วดั่งใจหวัง!
แต่ว่าในตอนนี้ เพราะเฉินชิงเสวี่ยก่อปัญหา น้ำใจแสนยิ่งใหญ่ในครั้งนั้นได้ถูกฮั่วหยุนเซียวใช้เงินเพียงแค่สองแสนกว่าหยวนหักล้างไปแล้ว!
ฮั่วหยุนเซียวลุกขึ้นยืนจัดชุดสูทให้เข้าที่และพูดว่า “บริษัทของผมยังมีธุระอยู่ ต้องขอตัวก่อนนะครับ”
ชายชราพยักหน้า ตอนนี้เขาไม่มีเวลาที่จะมาสุภาพกับฮั่วหยุนเซียวแล้ว สมองของเขาเต็มไปด้วยเรื่องของเฉินชิงเสวี่ยที่ทำลายโอกาสอันยิ่งใหญ่ทิ้งไป!
ฮั่วหยุนเซียวมองเฉินมู่แวบหนึ่ง ชายชราจึงรีบเอ่ยขึ้น “เสี่ยวมู่ หลานไปส่งบอสฮั่วสิ”
“คะ? อ้อ” เฉินมู่ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “บอสฮั่วคะ เชิญค่ะ”
เมื่อเดินออกจากประตูของตระกูลเฉิน ฮานเฉิงรับรู้ได้จากการสื่อสารผ่านสายตาจึงเข้าไปภายในรถ
เฉินมู่มองฮั่วหยุนเซียวที่ยืนอยู่ข้างรถ เมื่อเห็นว่าฮั่วหยุนเซียวไม่มีทีท่าว่าจะขึ้นรถ เธอจึงกระพริบตาและไตร่ตรองได้ว่าบอสใหญ่อาจจะต้องการให้คนอื่นดูแลล่ะมั้ง?
เฉินมู่เดินเงียบ ๆ ไปเปิดประตูรถให้ชายหนุ่มตรงหน้า “บอสฮั่ว ขึ้นรถได้แล้วค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่