แต่ถึงอย่างนั้นช่วงเวลาสามปีสุดท้ายที่เธอได้ใช้ร่วมกันกับปู่ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้ความหมายเสียทีเดียว
มันเป็นครั้งแรกที่เธอได้รู้สึกถึงความผูกพันทางสายเลือดหลังจากที่ท่านพ่อเสียชีวิตไป
“ขอโทษนะ ฟีเรนเทีย ข้าควรที่จะดูแลเจ้าที่ยังเล็กให้ดีมากกว่านี้แท้ๆ ทั้งๆ ที่เจ้าเองก็เป็นหลานสาวของข้า…ขอโทษจริงๆ “
มันอาจจะฟังดูแล้วเป็นคำพูดที่น่าหัวเราะ แต่สำหรับเธอแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
ความโกรธเคืองที่มีต่อท่านปู่ที่ไม่เคยสนใจไยดีสมัยที่เธอยังเล็กนั่น มันจางหายไปราวกับหิมะละลายด้วยคำขอโทษจากใจจริง
เธอทุ่มเททุกสิ่งเพื่อลอมบาร์เดีย
ทุ่มเทความรัก ทำทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการ เพื่อที่จะทำให้ตระกูลนี้ยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก
ทำงานทั้งวันทั้งคืน จัดการเรื่องเน่าเฟะของพวกลูกพี่ลูกน้อง
เธอรักลอมบาร์เดียจริงๆ
แต่ว่า
“ออกไปเสีย ถึงข้าจะไม่พูดอะไรมากความ เจ้าก็คงจะรู้ดีอยู่แล้วใช่มั้ยว่าต้องทำอะไร ฟีเรนเทีย”
หลังงานศพของท่านปู่ ท่านลุงหรือเจ้าตระกูลคนใหม่อย่างเบเจอร์ ก็เอ่ยพูดพร้อมกับโยนกระเป๋าใบหนึ่งกองลงมาตรงหน้าเธอ
“ที่ผ่านมาข้าอดทนก็เพราะเห็นแก่ท่านพ่อ แต่คงทนมองต่อไปอีกไม่ไหวไม่รู้จักทบทวนตัวเองเอาเสียเลย แถมยังหน้าด้านหน้าทนอยู่ได้อีก”
อดทนมาตลอดอย่างนั้นเหรอ
ที่เธอทำงานเพื่อตระกูลมันน่ารำคาญสายตาถึงเพียงนั้นเชียว
ถึงแม้ที่ผ่านมาเธอจะทำงานทุกอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็ไม่อาจเป็นคนของลอมบาร์เดียได้อยู่ดี
“จะยึดนามสกุลลอมบาร์เดียไปจากข้าก็ได้ค่ะ แต่ขอให้ข้าได้ทำงานเพื่อตระกูลด้วยเถอะนะคะ ที่นี่จำเป็นต้องมีข้านะคะ”
น่าขำที่นั่นคือคำที่เธอพูดออกไป
แต่เบเจอร์กลับทำเพียงแค่พ่นหัวเราะเสียงขึ้นจมูกเท่านั้น
“ไม่รู้จักเจียมตัวจนถึงที่สุดเลยสินะ อย่าได้โผล่หน้ามาให้เห็นแถวนี้อีกเป็นอันขาด!”
เธอถูกขับไล่ออกมาแบบนั้นโดยที่ไม่ได้รับทรัพย์สินอะไรที่ควรได้ในฐานะทายาทคนหนึ่งของลอมบาร์เดียเลยแม้แต่อย่างเดียว
และหลังจากนั้นสองปี พวกโง่นั่นก็ทำลายลอมบาร์เดีย!
ตระกูลที่เคยยิ่งใหญ่ขนาดนั้น!
ลอมบาร์เดียอันแสนงดงามที่เธอเคยอุทิศชีวิตวัยเยาว์ให้!
ปัง!
แก้วเหล้าที่เธอกระแทกลงส่งเสียงดังลั่น
เจ้าของร้านเหล้าจ้องเธอเขม็ง แต่เธอที่กำลังโมโหไม่มีเวลาให้มัวสนใจเรื่องแบบนั้นหรอก
“มันต้องผลักดันเจ้าชายลำดับที่สองต่างหากล่ะ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...