เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 11

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 11.1
ตอนที่ 11.1

บทที่ 11

นี่เธอเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่าว่าสีหน้าของเครย์ลีบันที่ปัดเศษไม้ที่เกาะติดเสื้อผ้าอยู่นั่น ดูท่าทางจะสนุกมากทีเดียว?

ห้องเรียนตกอยู่ในความเงียบครู่ใหญ่

เด็กคนอื่นๆ รวมถึงเธอต่างก็ได้แต่กะพริบตาปริบๆ มองท่อนไม้ที่วางอยู่ตรงหน้าสลับไปมากับเครย์ลีบัน

“ให้ขาย…ไอ้นั่นอย่างนั้นเหรอ”

คนที่ทำลายความเงียบเป็นคนแรกคือเบเลซัก

เด็กที่นั่งเอนตัวนอนบนโซฟาตลอดคลาสเรียนถามด้วยใบหน้าบึ้งตึง

“ครับ ใช่แล้วครับ ขายท่อนซุงนี่แล้วรับเงินมา เป็นการบ้านครั้งนี้ครับ”

ไม่ว่าเบเลซักจะพร่ำบ่นอะไร เครย์ลีบันยังคงยิ้มแย้มไม่ใส่ใจ ไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่น้อย

“จะใช้วิธีใดเพื่อขายสินค้าก็ได้ครับ จะตัดท่อนไม้นี่เป็นชิ้นก็ดี ถ้าจำเป็นจะเผาก็ได้เหมือนกันครับ”

เพราะฉะนั้นพูดง่ายๆ ก็คือ ไม่เลือกวิธีการ ขอแค่ขายมันออกไปได้ก็พอแล้ว

“อืม…”

ฟีเรนเทียเองก็คิดวิธีที่เฉียบแหลมไม่ออกเหมือนกัน

ตามที่เครย์ลีบันกล่าวนั่นแหละ ของสิ่งนั้นมันก็เป็นแค่ท่อนซุงธรรมดา ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลยแม้แต่น้อย

ถึงจะบอกว่ามันเป็นไม้บีโบ้น้ำหนักเบาเหมือนแผ่นไม้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางแบกมันเคลื่อนย้ายไปที่ไหนได้ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน

อีกอย่างไม้แบบนั้นมันธรรมดามาก เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ว่า ถ้าจะขายให้คนที่ต้องการมันจริงๆ จะต้องใช้วิธีการใดบ้างถึงจะดี

“แต่ว่า ห้ามใช้ตำแหน่งของทุกคนบังคับซื้อขายนะครับ จะต้องขายให้กับคนที่ต้องการไม้นี่จริงๆ เท่านั้น”

“อา…”

เงื่อนไขข้อสุดท้ายของเครย์ลีบัน ก่อให้เกิดเสียงอุทานแผ่วเบาดังขึ้นจากคนข้างหน้าเธอ

เมโลนกับคิลลีวู

เด็กสองคนถอนหายใจเสียงแผ่ว หางตาลู่ตก เหมือนว่าจะเสียดายมากจริงๆ

อะไรกัน นี่คิดอะไรอยู่กันแน่

ตอนที่เธอเหลือบมองสองคนนั่นด้วยความสงสัย ลาลาเน่ที่ฟังคำพูดของเครย์ลีบันอย่างสงบเสงี่ยมมาโดยตลอดก็ยกมือขึ้นอย่างระมัดระวัง

“คือว่า…”

“ครับ ท่านลาลาเน่ กล่าวมาได้เลยครับ”

“จะต้องถือไอ้นั่น…ไปเองด้วยเหรอคะ”

ใบหน้าขาวเนียนขึ้นสีแดงก่ำ ท่าทางจะเขินที่ต้องถามคำถาม

“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นครับ นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้น เดี๋ยวจะทำการขนส่งไปยังที่พักของทุกคนให้คนละท่อนครับ”

“อา โล่งอกไปที”

ลาลาเน่ยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มบุ๋มลึกบนแก้ม คงจะกังวลว่าตัวเองจะต้องลากไม้หนักๆ นั่นแน่นอน

“ข้าไม่ทำนะครับ”

เธอกำลังชื่นชมลาลาเน่ผู้แสนงดงามดั่งดอกลิลี่อยู่แท้ๆ แต่ดันได้ยินเสียงบูดบึ้งดังแทรกขึ้นมาเสียได้

ไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ได้ว่าใครเป็นคนพูด เพราะมันเป็นเสียงกราดเกรี้ยวของเบเลซัก

“ทำไมข้าจะต้องทำงานแบบนั้นด้วย”

หมอนั่นพูดจาไร้หัวคิดจริงๆ ดูสิ ผิดไปจากที่เธอคิดเสียที่ไหน

ปากยังยิ้มอยู่ก็จริง แต่รอยยิ้มกลับจางหายไปจากนัยน์ตาของเครย์ลีบันเสียแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]