ตอนที่107 อยู่กับฉันหนึ่งคืน
จารวีลุกขึ้น ส่งยิ้มเก้อกระดากเล็กน้อยไปยังมนต์ตรี “นี่คือนิชาภา เธอเป็นแฟนของยศพล ส่วนทางนี้คือมนต์ตรี...” แนะนำตัวแบบคร่าวๆแล้ว มนต์ตรีก็ทักทายนิชาภาอย่างสุภาพ
“เมื่อคืนนี้ต้องขอบคุณพวกคุณมาก ไม่อย่างนั้นล่ะก็จารวีคงลำบากไม่น้อย”
นิชาภาโบกไม้โบกมือแล้วยิ้ม “ไม่เป็นไรเลยค่ะ ที่จริงแล้วคุณงามความดีของฉันทั้งหมดก็แค่บังเอิญทำต่างหูหล่นแค่นั้นเอง กลับเป็นพี่ยศเสียอีกที่ขี่ม้าขาวมาช่วย ฮิฮิ วีรบุรุษช่วยสาวงาม จะว่าไปนะแล้วคุณชายมนต์ ทำไมคุณถึงได้ปล่อยให้ภรรยาแสนอ่อนหวานอย่างจารวีไว้คนเดียวล่ะคะ นี่มันอันตรายมากเลยนะ ดีที่ถูกพวกเราพบเข้า ไม่งั้นล่ะก็ตอนนี้แม้แต่ตัวคนคงหาไม่เจอแล้ว”
มนต์ตรีกระแอมสองคำ “เป็นความผิดของผมเอง ผมรับรองว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
ยศพลมีประกายความโกรธขึ้นมาหนึ่งสาย แต่เขาก็ควบคุมให้มันหายไปอย่างรวดเร็ว
จารวีตะโกนเรียนสาวใช้ ออกคำสั่งให้เตรียมสำรับเพิ่มอีกสองที่ และทำอาหารเพิ่มอีกสองสามอย่าง
“ใช่แล้ว คุณชายมนต์ ได้ข่าวว่าคุณกับจารวีเพิ่งจะแต่งงานกัน ฉันขอดื่มอวยพรให้พวกคุณสักกะ...”
นิชาภาเทเหล้าลงในแก้ว ขณะที่เตรียมจะชูแก้วขึ้น อยู่ๆก็ทำหน้าประหลาดร้องขึ้น “อา!”
ก้มหน้ามองยศพล ก่อนจะพูดอย่างไร้เดียงสาว่า “พี่ยศ พี่เหยียบเท้าฉันทำไม?”
ดวงตาของจารวีมีประกายจนใจขึ้นมาหนึ่งสาย นิชาภานี่ช่างไม่รู้ความเสียจริง อย่าบอกนะว่าเธอมองไม่เห็นถึงบรรยากาศกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของผู้ชายสองคนตรงหน้า?
ใบหน้าของมนต์ตรียังคงรักษารอยยิ้มไว้คงเดิม
ยศพลใช้สายตามืดครึ้มจ้องนิชาภา “พูดน้อยลงหน่อยมันจะตายรึไง!”
ได้ยินเสียงคำรามเปี่ยมด้วยอำนาจนั้น จารวีก็นิ่งเงียบตามไปด้วย นิชาภาเห็นยศพลโกรธ ก็นั่งลงสงบเสงี่ยมอย่างรู้ความ
“อา พี่ยศ พี่ไม่ชอบกินหัวสิงโตน้ำแดง ฉันคีบให้...”
อยู่ๆบรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นกลืนไม่เข้าคายไม่ถึงขีดสุด อาหารมื้อนี้กลายเป็นว่าไม่มีใครกินต่อลงเลย
จารวียิ้มน้อยๆ “อาหารพวกนี้ถูกปากมั้ยคะ? ต้องการให้ฉันสั่งอย่างอื่น...”
อยู่ๆยศพลก็ลุกขึ้น เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “แค่เห็นก็อารมณ์เสีย กินต่อไม่ลง พวกเรากลับเถอะ!”
สองมือสอดไว้ในกระประเป๋ากางเกง เตรียมจะกลับ มนต์ตรีก็ยิ้มขึ้นมา “คุณชายยศแค่เห็นผมก็อารมณ์เสียหรือครับ? ในเมื่อเห็นผมแล้วอารมณ์ไม่ดี งั้นทำไมถึงยังเกาะติดซัวกรุ๊ปไม่วางมือสักที?”
ใบหน้ายศพลมืดครึ่มลงทันที สายตาคมปราดมองมนต์ตรี
“มีเรื่องอะไรสามารถพูดกับผมได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องพูดขึ้นมาต่อหน้าผู้หญิง! หรือว่าคุณชายมนต์หมดทางจะสู้แล้ว? เรื่องที่ฉันรับซื้อซัวกรุ๊ปไม่ใช่แค่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นวันสองวัน โอ... ใช่แล้ว คงไม่ใช่เพราะเรื่องซัวกรุ๊ปนะ บอกไว้เลยตลาดธุรกิจทั่วทั้งจีน ถ้าหากมีบริษัทไหนที่ฉันหมายตาไว้แล้วล่ะก็ ฉันจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้มันมา”
ยศพลหยัดกายอย่างทะนง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม ใบหน้าของจารวีขึ้นสีแดงเรื่อ
“งั้นรึ! ในเมื่อคุณไม่ได้ประกาศศึกอย่างเป็นทางการ อย่างนั้นก็อย่ามารังควานผู้หญิงของผม”
มนต์ตรีแววตาแน่วแน่ ต่อกรกับสายตาของยศพล สองบุรุษประจันหน้ากัน บรรยากาศเคร่งเครียดราวกับลูกดอกที่ถูกง้างเกร็งบนคันธนู
จารวีที่กระวนกระวายก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน เธอไม่รู้มาก่อนว่ายศพลซื้อซัวกรุ๊ปไว้!
ถ้าหากเมื่อก่อนบอกว่าเพื่อเธอ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เป็นเพียงแค่ผลประโยชน์ทางธุรกิจอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าแท้จริงแล้วเขาไม่เคยปล่อยเธอไปเลย?
“ฮ่ะๆ คุณชายมนต์พูดจาไม่กลัวฟ้าผ่าเอาซะเลย”
เห็นสายตาเฉยเมยไร้อารมณ์ของยศพลที่มองมายังตัวเอง หัวใจจารวีก็หดเกร็งอย่างไม่มีเหตุผล
“คุณคิดว่าผู้หญิงในอ้อมกอดฉันสู้คุณไม่ได้งั้นเหรอ? หรือต้องการจะบอกว่าฉันยศพลไม่มีความสามารถพอจะหาผู้หญิงสักคน?”
ยศพลยื่นมือไปดึงนิชาภาเข้ามากอด กระชับคนอ้อมกอดตัวเองแน่น
ความเอาแต่ใจกับความหัวแข็งไม่ต้องเอ่ยก็ชัดแจ้งอยู่ตรงหน้า จารวีชะงักไปแล้วรีบเกลี้ยกล่อมมนต์ตรี
“พี่มนต์คะ พี่เข้าใจผิดแล้ว ครั้งก่อนเพราะต้องการหาต่างหูของนิชาภา ยศพลถึงผ่านมาตรงที่ฉันอยู่ดี ระหว่างฉันกับเขาไม่มีอะไรจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาช่วยฉันไว้ บางทีตอนนี้ฉันอาจจะไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ก็ได้”
แววตาของมนต์ตรีอ่อนลง เขาเข้าใจผิดไปเองเหรอ? เขาทำไมถึงเข้าใจยศพลผิดไปได้ เขาก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน มองออกได้ชัดเจน ยศพลไม่เพียงไม่ปล่อยจารวี แต่กลับตามล้างแค้นอย่างบ้าคลั่ง
ผู้ชายที่ยกย่องเชิดชูตัวเองเป็นที่หนึ่ง ทำไมถึงจะทนยอมให้ผู้หญิงของตัวเองถูกแย่งไปแล้วยังนิ่งเฉยได้
เขาก็ผู้ชายคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นเขายิ่งเข้าใจความคิดผู้ชายด้วยกันอย่างแจ่มแจ้ง
แต่ว่า ยังไงเสียครั้งนี้ยศพลก็ช่วยจารวีไว้ ตอนนี้เขาไม่สามารถสู้กับอีกฝ่ายที่นี่ได้
ยศพลพึมพำเสียงต่ำ “เป็นผู้ชาย แม้แต่ผู้หญิงของตัวเองก็ปกป้องไม่ได้ ยังมีหน้ามาพูดอีกนะ นิชา พวกเรากลับ...”
เมื่อครู่หลังจากได้ยินยศพลคำรามนิชาภาก็ไม่กล้าเปล่งเสียงอีกเลย เธอยิ้มน้อยๆพลางดึงหลังมือของยศพล หันโบกไม้โบกมือให้จารวี “แล้วเจอกันนะคะ จารวี มีเรื่องอะไรต้องโทรหาฉันนะ”
“ได้เลย!”
ใช้สายตาส่งพวกเขาเสร็จ จารวีก็รู้สึกกดดันอย่างมาก อาหารมื้อนี้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง
สีหน้าของมนต์ตรีคือที่สุดของความไม่น่ามอง เมื่อเขามองไปที่จารวีก็รู้สึกผิดไม่น้อย
“วี ขอโทษ พี่...”
จารวีปลอบอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไรค่ะ พี่มนต์ ฉันรู้ว่าพี่เข้าใจผิด”
“อืม คราวหน้าพี่จะไม่ปล่อยให้เธอต้องไปตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้อีก”
“พี่มนต์ ยศพลยังช้อนซื้อซัวกรุ๊ปอยู่อีกหรือเปล่า? พี่จะมีปัญหามั้ย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย