ตอนที่ 140 ไม่สามารถดีกันได้
มนตรีต์เอ่ยออกมานับครั้งไม่ถ้วน หลังจากที่เขาพาจารวีกลับบ้าน ก็นัดให้อังคณามา เขารู้ดีว่าถ้าหากเขาและเธออยู่กันตามลำพัง จะทำให้จารวีรู้สึกไม่สบายใจ
ณ ห้องรับแขกของบ้านมนต์ตรี อังคณาคุยกับจารวีอยู่บนโซฟา
แต่มนต์ตรีกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร" วีวันนี้พี่จะลงมือทำอาหารที่วีชอบเอง มีกระดูกหมูผัดเปรี้ยวหวาน กับปลาราดพริก"วันนี้ที่ร้านอาหารฝรั่ง จารวีแทบไม่ได้จับช้อนส้อม ในใจของมนต์ตรีค่อนข้างเป็นห่วงเธอ
"ว้าว ดีจังเลย คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ชิมอาหารที่คุณชายมนต์ตรีเป็นคนลงมือทำด้วยตัวเอง"
จารวีเพียงแค่ยิ้ม เธอไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
ในห้องรับแขกที่กว้างขวาง เหลือเพียงแค่อังคณาและจารวี
อังคณาร้องตะโกนออกมา"ว้าว ห้องรับแขกของบ้านพี่มนต์ตรีใหญ่กว่าห้องทุกห้องของบ้านฉันรวมกันเสียอีก ก็คนรวยนี่เนอะ แต่ยังไงฉันก็รู้สึกว่ามันสุรุ่ยสุร่ายเกินไป แถมเขายังอยู่คนเดียวอีกต่างหาก"
ถ้าหากว่าอังคณาได้ไปบ้านยศพลสักครั้ง เธอคงจะตื่นเต้นกว่านี้มากนัก"เอ้อ! ยัยวีนี่แกทะเลาะกับยศพลอีกแล้วหรอ?”
ถ้าหากว่าจะราวีไม่ได้ทะเลาะกับเขา เธอไม่มีทางมาที่บ้านพี่มนต์ตรีเป็นแน่
ตอนที่มนต์ตรีโทรศัพท์หาอังคณา น้ำเสียงของเขาค่อนข้างเกรงใจ ราวกับกลัวว่าอังคณาจะไม่ยอมมาที่นี่
จารวีขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด" ยัยอัง ฉันคงต้องเลิกกับยศพลแล้วล่ะ"
"นี่อย่าบอกนะว่าไอ้เลวนั่นมันรังแกเธออีกแล้ว ครั้งหน้าถ้าฉันเจอเขานะ ฉันจะคิดบัญชีให้เข็ดเลยคอยดู ไอ้คนสาระเลวทำไมถึงชอบรังแกยัยวีของฉันอยู่เรื่อยเลยนะ ไม่รู้จักความตายซะแล้ว ยัยวีของฉันออกจะเหมือนดอกไม้ที่บริสุทธิ์งดงามขนาดนี้ ทำไมไม่รู้จักทะนุถนอมเอาซะเลย!!”
"พอแล้วๆ หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลย" ท่าทางที่โอเว่อร์ของอังคณา ทำให้จะราวีหัวเราะจนท้องแข็ง
"ไม่ใช่อย่างที่แกคิดหรอก ถึงแม้ว่ายศพลจะอารมณ์ค่อนข้างร้อน แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้ลงไม้ลงมือกับฉันหรอก เพราะว่าฉันกำลังท้องด้วย"
"ถ้างั้นทำไมพวกเธอถึงเลิกกันล่ะ?"อังคณานึกฉงน จึงเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา
"เอ่อ... เพราะความแค้นระหว่างบ้านบ้านโพธิสูงกับพูลสวัสดิ์ของฉันน่ะ”
"ความแค้นงั้นหรอ? นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ใครเค้าคิดถึงเรื่องแบบนี้กัน! แล้วอีกอย่างนะ พ่อของเธอก็ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้เขารับผลกรรมพวกนี้ไปสิ มันไม่ได้เกี่ยวกับเธอเลยสักนิดเดียว!"อังคณาพูดพลางลูบคำศีรษะไปมา"เอ้อใช่สิ ในราชสำนักศักดินาสมัยโบราณของจีนก็เคยมีคำกล่าวแบบนี้ไม่ใช่หรอ? สองประเทศที่เป็นศัตรูต่อกัน เพื่อบรรเทาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ก็เลยส่งราชธิดาหรือราชบุตรไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กัน หลังจากนั้นทั้งสองประเทศก็เลยเลิกเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ใช่ไหมล่ะ? เธอก็แต่งงานกับยศพลแล้วก็มีลูกชายให้เขา แค่นี้สองตระกูลของพวกเธอก็คืนดีกัน ความเคียดแค้นก็มลายหายไป อย่างนี้ดีออก!”
คำแนะนำของอังคณาทำให้จารวีกลืนไม่เข้า คายไม่ออก
"ที่แกพูดก็มีเหตุผล ฉันก็หวังให้เป็นอย่างนั้น แต่ว่าคุณพ่อของยศพลเขาไม่ชอบฉันเลยด้วยซ้ำ”
"แกจะไปแคร์ทำไมว่าเขาจะชอบหรือไม่ชอบ แกแต่งงานกับยศพล ไม่ได้แต่งงานกับพ่อของเขาซะหน่อย"
"แต่ว่าเขาให้คนมาตามฆ่าฉันน่ะสิ"จารวีเอ่ยอย่างกลัดกลุ้มใจ"ฉันกลัวว่าต่อไปหลายเดือนเข้า ลูกของฉันจะเป็นอันตราย เรื่องนี้เป็นอะไรที่ฉันไม่อยากให้เกิดขึ้น”
อังคณาตะลึงงัน เธอพูดอะไรไม่ออก เนิ่นนาน จึงสบถออกมา"สารเลว.....”
"ลูกเป็นยังไงพ่อก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ คิดไม่ถึงว่าแม้แต่หลานแท้ๆตัวเองก็ยังทำได้ลง ช่างเลวทรามต่ำช้าที่หนึ่งเลยจริงๆ"อังคณาพ่นคำด่าออกมาอย่างคับแค้นใจ
ใบหน้าของจารวีขมขื่น เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเจ็บปวด เมื่อถูกอังคณาพูดจี้จุดเช่นนี้ เธอรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นละครน้ำเน่า จารวียิ้มบางๆออกมา
"ถ้างั้นตอนนี้ยศพลไม่ต้องการเธอแล้วหรอ?"
"ไม่รู้สิ แต่ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะต้องการไม่ต้องการฉัน ฉันแค่ต้องการปกป้องลูก"
"ถ้างั้น แกไปอยู่บ้านฉันก่อนสิ บ้านฉันค่อนข้างปลอดภัย ที่แกพูดว่าเขาตามไล่ฆ่าแกอ่ะ หมายความว่าไงหรอ?"
"การไตร่สวนผลลัพธ์ของเมื่อหลายวันก่อนออกมาแล้ว ผลคือมือปืนพวกนั้นเป็นสายลับของบ้านโพธิสูง”
อังคณากัดฟันกรอดอย่างโกรธแค้น"ไอ้เลวเอ้ย!! จ้างมือปืนมาเลยเนี่ยนะ นี่มันชักจะมากเกินไปแล้ว!!”
อังคณาหันไปโอบกอดจารวีไว้"ยัยวี ยัยเด็กน้อยที่น่าสงสารของฉัน แกจะต่อสู้กับสายลับมือปืนพวกนี้ได้ยังไงล่ะ! ฉันว่าแกถือโอกาสที่ยังมีสติอยู่ ไปหลบซ่อนตัวเถอะนะ!”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น พลันก็มีร่างของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาทางประตู
"ฉันไม่ได้มารบกวนพวกเธอใช่ไหม?"
จารวีหันหน้ากลับไปมอง ก็พบสุรีย์วัลล์ที่กำลังเดินนวยนาดเข้ามา เธอสวมใส่ชุดดั้งเดิมสีชมพูเงิน เพชรบนแผงคอทอประกายระยิบระยับ ท่อนล่างคือกระโปรงที่ถูกเย็บปักด้วยลวดลายดอกไม้ รองเท้าส้นสูงสีเงินขับให้เธอดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
เธอสะพายกระเป๋าแอร์เมสนิวคอลเลคชั่นสีชมพู ผมดัดลอนที่เพิ่งม้วนเสร็จใหม่ๆ ถูกปล่อยสยาย ไว้กลางหลัง ดูเซ็กซี่ และมีกลิ่นอายของเพศหญิง
ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มอย่างละเอียดงดงาม เธอเดินเข้ามาช้าๆ พร้อมกับกลิ่นน้ำหอมชาแนลที่ลอยเข้ามา
อังคณาขมวดคิ้ว ใบหน้าบึ้งตึงไม่พูดจา เธอไม่ชอบลูกคนรวยที่ชอบวางท่าใหญ่โตแบบสุรีย์วัลย์
"ขอโทษนะ จารวี เมื่อก่อนมันเป็นเพราะฉันไม่ดี ฉันไม่ควรจะทำกับเธอแบบนั้นเลย"
แน่นอนว่าสุรีย์วัลย์รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในงานแต่งงานของมนต์ตรีกับจารวี
การพบกันอีกครั้งในตอนนี้ ในสายตาของสุรีวัลย์ไม่ได้มีความหึงหวงเกลียดชังหลงเหลืออยู่แล้ว มีเพียง ความเห็นอกเห็นใจเท่านั้น
จารวีไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเพียงแค่ยิ้มบางๆ" ฉันหวังว่าคุณกับพี่มนต์จะกลับมาคืนดีกันในเร็ววันนะคะ"ประโยคนี้ จารวีพูดได้ตรงกับส่วนลึกในหัวใจของสุรีย์วัลย์
สุรีย์วรรณนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับจารวี"ฉันมาเก็บข้าวของของเมื่อก่อนน่ะ"
ประโยคนี้ทำให้อังคณารู้สึกว่า สุรีย์วัลย์อยากจะแสดงว่าตัวเองเคยสนิทกับมนต์ตรีเพียงใด
"อ่อ งั้นก็อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนสิคะ พี่มนต์กำลังง่วนอยู่ในครัว คุณไปดูสิคะ”
จารวีเปิดโอกาศให้พวกเขา
"โอเค"สุรีย์วัลย์เห็นว่านี่คือโอกาสดี เธอวางกระเป๋าลงพลางเดินไปที่ห้องครัว
อังคณามองตามหลังของเธอไป พลางวิพากษ์วิจารณ์"ยัยวี กับคนแบบนี้แกจะไปดีด้วยทำไมอ่ะ”
จารวีไหวไหล่"เดิมทีเธอก็ต้องเป็นเจ้าของบานหลังนี้อยู่แล้ว เพราะการปรากฏตัวของฉัน เลยทำให้เธอสูญเสียสิ่งที่ควรจะเป็นของเธอ มันก็ถูกแล้วหนิที่เธอเกลียดฉัน”
"จะคิดงั้นได้ไงยัยวี ยัยนั่นทำร้ายแกนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย