เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 146

สรุปบท ตอนที่ 145 ผลรวมของความขัดแย้ง: เล่ห์รักเมียตัวน้อย

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 145 ผลรวมของความขัดแย้ง – เล่ห์รักเมียตัวน้อย โดย BUNNY

บท ตอนที่ 145 ผลรวมของความขัดแย้ง ของ เล่ห์รักเมียตัวน้อย ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย BUNNY อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 145 ผลรวมของความขัดแย้ง

เขาไปหาผู้หญิงที่สถานที่แบบนั้นจริงๆหรอ แต่ถ้ายึดตามความต้องการที่มากล้นของยศพล เขาอาจจะไปหาผู้หญิงระบายอารมณ์แบบนั้นจริงๆก็ได้

จารวีนั่งลงอย่างอ่อนแรง เธอสอดประสานมือเข้าด้วยกันอย่างเจ็บปวด จะทำอย่างไรดี

เธอก็กดต่อสายไปหาเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับปิดเครื่องไปเสียแล้ว

ไอ้คนสาระเลว!!

จารวีโกรธอย่างสุดขีด เธอขว้างโทรศัพท์ลงไปที่พื้นห้องทำงาน ก้อนแบตของโทรศัพท์ร่วงหล่นลงไปอีกทิศทาง พลันหน้าจอโทรศัพท์ของเธอก็มืดสนิท

จารวีส่ายหัวไปมา ไม่อยากจะคิดเลย เขาไม่ทำแบบนั้นหรอก

ถึงแม้ว่าจารวีจะพยายามสะกดจิตตัวเองอย่างนั้น แต่ทว่าในใจของเธอกลับมีความลังเล

สองทุ่มตรง เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูของโกเด้นครับ

เธอไม่สามารถทำให้จิตใจของตัวเองสงบลงได้ ถึงแม้ว่าในใจพยายามบอกตัวเองว่าไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ แต่ในที่สุดเธอก็มาจนได้

เธอยืนอยู่ด้านหลังของเสาไฟ พลางจ้องมองไปยังไฟนีออนรูปร่างแปลกประหลาด ที่คลับแห่งนั้น

ไม่นานนักก็มีรถคันหนึ่งแล่นมาจอดที่หน้าประตู มีผู้ชายในชุดสูทคนหนึ่งเดินออกมาจากรถ พลันก็มีผู้หญิงที่เซ็กซี่คนหนึ่ง เดินออกมาต้อนรับเขาอย่างสนิทสนม ร่างกายของเธอแนบชิดติดกับผู้ชายคนนั้น

ในใจของจารวีรู้สึกหึงหวง เธอทั้งเจ็บทั้งอาย

ผู้ชายเหล่านี้ก็คงจะมีภรรยามีครอบครัวกันแล้วทั้งนั้น ไม่เพียงแค่คนหรือสองคน พวกเขาล้วนออกมาเสพสุขทำเรื่องบัดซบลับหลังภรรยาของตนเอง

เลือดในกายของจารวีเดือดพล่าน เธออยากจะพุ่งเข้าไปดูให้เห็นกับตา ว่ายศพลอยู่ที่นี่หรือเปล่า

แต่ทว่าเธอกลับไม่มีความกล้าพอ

เธอยืนอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงจนเท้าชาไปหมด เธออยากจะไปจากที่นี่ แต่ก็ไม่วางใจ

ในขณะที่เธอกำลังลังเลอยู่นั้น พลันก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากประตู

ผู้ชายคนนั้นสวมใส่ชุดสูทสีดำ ร่างกายแข็งแรงกำยำ ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา เขาเดินออกมาข้างนอก พลางกดโทรศัพท์ ที่ข้างกายของเขามีผู้หญิงแนบชิดอยู่ไม่ห่าง ใบหน้าของเธอแต่งแต้มไปด้วยสีสันฉูดฉาด เธอสวมใส่กางเกงหนังขาสั้น และเสื้อกล้ามตัวเล็กจิ๋ว ที่แทบจะปิดหน้าอกอวบอัดของเธอไว้ไม่มิด ร่างกายของเธอ แทบจะสิงเข้ากับยศพล

" คุณยศพล ทำไมถึงกลับเร็วจังเลยล่ะคะ? ฉันยังทำใจไม่ได้เลย”

ยศพลเศษยิ้มอย่างเย็นชา เขาเอื้อมมือไปคว้าต้นแขนของผู้หญิงคนนั้น พลางผลักเธอออกอย่างชำนาญ

แต่น่าเสียดาย ที่ผู้หญิงคนนั้นเจ้าเลห์ยิ่งนัก เธอถือโอกาสที่ยศพลผลักเธอออก เสแสร้งทำเป็นจะล้ม แล้วเขย่งเท้าขึ้นไปจูบเขา

แต่ยศพลหลบได้ทัน ผู้หญิงคนนั้นจึงจูบถึงแค่ขอเสื้อของเขา

แต่เมื่อมองจากมุมของจารวี เธอเห็นเขาทั้งสอง กำลังถาโถมเข้าหากัน พลันความโกรธของจารวีก็เดือดพล่าน

เธอเดินตะบึงเข้าไปหายศพลอย่างควบคุมไม่ได้

ความตกตะลึงปรากฏออกมาจากในดวงตาของยศพล ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าควรจะทำอย่างไร เธอโผเข้าหาเขาอีกครั้ง

" ตายแล้ว ผู้หญิงคนนี้คือใครคะคุณยศพล ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่" " ใสหัวไปให้พ้น"ยศพลมองเห็นสายตาแห่งความเจ็บปวดและผิดหวังของจารวี ในเวลานั้นเขารู้สึกได้ว่าจะต้องเกิดเรื่องอย่างแน่นอน เขาออกแรงผลักยัยผู้หญิงโสมมคนนั้นออกจากตัว พลางก้าวยาวๆเข้าไปหาจารวี

จารวีหมุนตัวกลับไป พลางวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต

ความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่เธอ ราวกับน้ำในมหาสมุทร เธออุตส่าห์คิดว่าเขาจะเป็นสามีที่ดี คิดว่าเขาจะเป็นพ่อที่ดี

คงเป็นเพราะเธอใสซื่อเกินไป นิชาภาพูดถูก ผู้ชายรวยล้นฟ้าแบบเขา ไม่สามารถปฏิเสธสิ่งยั่วยุภายนอกได้

มีคำพูดสำหรับผู้ชายอยู่ประโยคหนึ่ง ‘ไม่สนใจถุงสีแดงในบ้านแต่กลับสนใจธงหลากสีที่ข้างนอก’

ธาตุแท้ของทศพลก็เป็นผู้ชายที่เจ้าชู้เช่นนั้น

เรื่องอะไรที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอด้วยล่ะ

ฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงของเธอ วิ่งไปตามถนน แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงวิ่งได้เร็วขนาดนี้

ราวกับว่าที่ด้านหลังของเธอ มีสัตว์ประหลาดกินคนที่กำลังวิ่งไล่ตาม เธอเพียงแค่ต้องหนีเอาชีวิตรอด เธอต้องวิ่งอย่างสุดกำลังถึงจะหนีผล

เสียงของยศพลร้องตะโกนอยู่ที่ด้านหลังของเธอ ดังเข้ามาในใบหู อีกทั้งยังมีเสียงเบรคของรถดังสนั่นหวั่นไหว

เมื่อจารวีหันหน้ากลับมา ก็มองเห็นยศพลถูกรถจอดขวางอยู่บนถนน

รถวิ่งไปมาอย่างไม่ขาดสาย เขาพยายามที่จะพุ่งเข้าไปหาเธอ แต่ว่าเขาก็ถูกรถบีบแตรขวางไว้ทุกรอบ

" วี จารวี ยัยผู้หญิงโง่เขลา หยุดเดี๋ยวนี้นะ จารวี”

เค้าตะโกนออกมาจนเสียงแหบพร่า เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นจารวีกำลังมองมาที่เขา เขาโบกมือไปมา ส่งสัญญาณให้เธอลงจากรถ

น้ำตาแห่งความผิดหวังอาบสองข้างแก้มของจารวี ภายใต้ความสับสนที่ปกคลุมไปด้วยน้ำตา เธอพบว่าราวกับตัวเองกำลังฝันอยู่

เธอปิดเปลือกตาลง พลางก้าวเข้าไปบนรถแท็กซี่" คุณลุงคะ ออกรถเลยค่ะ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี"

ตัวรถเคลื่อนที่อย่างช้าๆ จารวีนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนรถ สองมือของเธอยกขึ้นปิดหน้า น้ำตาไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย

จารวี เธอนี่มันโง่เขลาจริงๆ เธอคิดว่าเธอเป็นซินเดอเรลล่าที่จะเข้าไปอยู่ในบ้านคนรวยอย่างเขาได้จริงๆงั้นหรือ "

" เฮ้อ เด็กวัยรุ่นสมัยนี้นี่ นิดหน่อยหน่อยก็ทะเลาะกัน จะกลุ้มใจไปทำไมนักหนากันนะ”

คนขับรถบังคับพวงมาลัยพลางส่ายหัวไปมา อย่างทอดถอนใจ จารวียังคงตกตะลึง เธอหันหน้ากลับไปมองออกไปนอกกระจก

มองเห็นยศพลวิ่งตามอย่างสุดกำลัง อยู่ที่ด้านหลังของตัวรถราวกับคนเสียสติ

เขาทั้งวิ่งทั้งตะโกนร้องเรียกเธอ"จารวี จารวี จารวี!!”

จารวีปิดเปลือกตาลงอย่างเจ็บปวด เธอหันหน้ากลับมาไม่หันไปมองเขาอีก ในที่สุด เสียงนั้นของเขาก็ถูกทิ้งเอาไว้ที่ด้านหลัง

วิวทิวทัศน์ที่นอกหน้าต่าง เคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็ว

จารวีรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจมดิ่งลงสู่ใต้ท้องทะเล มันทั้งเหน็บหนาวทั้งโดดเดียว

ที่จริงแล้วยศพลไม่ได้โง่ขนาดนั้น เขาจำป้ายทะเบียนของรถได้ หลังจากนั้นจึงใช้วิทยุกระจายเสียงตามหารถแท็กซี่คันนั้น จนพบเบาะแสของจารวีเขาจึงรีบตามมาให้เร็วที่สุด

" จารวี”

น้ำเสียงของเค้าแหบพร่า ราวกลับใช้มันมาเยอะ เสียงนั้นดังทะลุกำแพงเข้ามา และดังเข้าไปในโสตประสาทของจารวี จนทำให้สมองของเธอรู้สึกเจ็บปวด

คนเลว ไอ้สาระเลว คุณคิดว่าฉันจะตกหลุมพรางของคุณอีกรอบงั้นหรอ ฉันจะไม่อภัยให้เด็ดขาด ไม่มีวัน

จารวียกมือสองข้างขึ้นปิดหู พลางหลบอยู่ที่ด้านข้าง

ในตอนนั้นเอง มีผู้หญิงสองคนเข้ามาล้างมือในห้องน้ำ

" ว้าว ผู้ชายคนนั้นหล่อมากๆเลย ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อจารวีเป็นใครกันนะ ทำให้เขาร้องเรียกเธอจนเสียงดังสนั่นไปหมดแล้ว ถ้าหากเป็นฉัน ฉันคงจะมีความสุขตายเลย"

จารวีปรายตามองผู้หญิงคนนั้นเพียงแบบเดียว ยายสมองทึ่ม ถ้าหากว่าเป็นเธอแล้วล่ะก็ ตอนนี้เธอก็คงจะรู้สึกว่าตายซะยังดีกว่ามีชีวิตอยู่

" นั่นน่ะสิเนอะ ยัยผู้หญิงคนนั้นใจจืดใจดำจริงๆ ผู้ชายคนนั้นร้องเรียกจนแทบจะหมดหวังอยู่แล้ว เธอยังแม่ออกไปพบเขาอีก ไม่กลัวว่าผู้ชายภูมิฐานอย่างเขาจะถูกแย่งไปยังไงกัน”

" เออๆ ไม่งั้นแกก็ลองไปอ่อยเขาสักหน่อยสิ ไม่แน่ว่าจะมีโอกาส”

" ฮ่าๆ ไม่เอาอ่ะ ผัวฉันได้ฆ่าฉันตายพอดี”

ผู้หญิงทั้งสองออกห้องน้ำไป พลางหัวเราะคิกคักไปมา พลางจารวีแสร้งทำเป็นล้างมือ เธอก้มหัวไม่พูดจา รอคอยให้พวกเธอรีบออกไป

" ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้เที่ยวบินที่747ที่จะเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ จะขึ้นบินในอีก 20 นาที เรียนท่านผู้โดยสารที่จะเดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ กรุณาดำเนินการขึ้นเครื่องบิน เพื่อไม่ให้เป็นการกระทบกับการโดยสารของทุกท่าน"การประกาศขึ้นเครื่องบินเริ่มต้นขึ้น

ผู้หญิงทั้งสองคนพรวดพราดออกไปอย่างรีบร้อน จารวีรีบเดินตามไปที่ด้านหลังของพวกเธอ เธอหยิบกระเป๋าขึ้นมาบดบังใบหน้าของตนไว้ เตรียมตัวที่จะเดินออกไป

แต่เมื่อเธอออกจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงของยศพลอย่างชัดเจน แต่ราวกับสุนัขจิ้งจอกที่อัพจนหนทาง น้ำเสียงของเค้าแหบพร่า

"จารวี เธอโผล่ออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะยิงเครื่องบินให้ตกลงมาซะ!”

ยศพลยืนเท้าสะเอวอยู่ที่ตรงกลางห้องโถงรับรองผู้โดยสาร ผู้หญิงโดยรอบมองเขาอย่างสนอกสนใจ

ที่ด้านหลังของเค้ายังมี นิรันคอยสอดส่อง

จารวีเดินตามผู้หญิงสองคนนั้นไปติดๆ เธอเดินไปที่จุดตรวจ โดยแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากนั้นจึงยืนต่ออยู่ที่ด้านหลังสุดของแถว

" โอ้ย ยัยคนชื่อจารวีนี่จริงๆเลย ยังไม่ออกมาอีก ผู้ชายคนนั้นจะทำอันตรายต่อเครื่องบินจริงๆหรือเปล่านะ แต่เธอดูพนักงานที่สนามบินพวกนั้นสิ พวกเขาทำท่าทางกลัวผู้ชายคนนั้นจนตัวสั่น อีกทั้งยังไม่กล้ายื่นมือเข้ามาจัดการ!”

" ก็นั่นน่ะสิ พื้นเพของผู้ชายคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เธอเห็นไหมว่าชุดสูทที่เค้าใส่อยู่คือแบรนด์อาร์มานี่เชียวนะ กระดุมบนเสื้อเชิ้ตของเขา ก็ล้วนเป็นเงินแท้ นี่มันพวกคนรวยชัดๆ”

ฉันว่ายัยจารวีนี่ก็คงจะ เป็นเจ้าหญิงราชนิกุลแหงๆ ไม่อย่างนั้นผู้ชายหล่อแบบเขา ก็คงไม่รีบร้อนถึงขนาดนั้นหรอก”

ภายใต้การพูดคุยถกเถียงนินทาของผู้หญิงทั้งสอง ก็เวียนมาถึงจารวี

" คุณผู้หญิงคะ กรุณาแสดงบัตรประจำตัวประชาชน และตั๋วเครื่องบินด้วยค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย