ตอนที่ 196 ตอนจบที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
ยศพลก้มลงไปจูบจารวี
ผ่านอุปสรรคมามากมายขนาดนี้ ในที่สุดทั้งสองคนก็ได้อยู่ด้วยกัน
จารวีกอดแขนเขาแน่น กลัวว่าเขาจะหายไปอีก
หลังจากนั้นสามวัน มนต์ตรีก็ถูกส่งตัวกลับเมืองเอส จารีกับยศพลกำลังเตรียมตัวที่จะยื่นศาลฟ้องร้องมนต์ตรี
ความต้องการของมนต์ตรีคืออยากจะพบยศพลสักครั้ง
หลังจากที่มนต์ตรีได้พบกับยศพล ในเย็นวันนั้นมนต์ตรีก็ฆ่าตัวตายในสถานีตำรวจ
จริง ๆ แล้วเขาซ่อนยาพิษไว้ในเข็มขัดกางเกงของตน และอาศัยช่วงที่ตำรวจไม่ได้ให้ความสนใจฆ่าตัวตาย
ณ บ้านตระกูลโพธิสูง จารวีกับยศพลอยู่ด้วยกันที่บนดาดฟ้า
อาการป่วยของจารวีค่อยๆฟื้นตัวขึ้นทุกวัน หลังกลับจากอเมริกาหนึ่งสัปดาห์ ขาทั้งสองของเธอก็เดินได้แล้ว
ไม่ใช่แค่นั้น ผมของเธอยังค่อยๆยาวขึ้นอย่างช้าๆ
บางที มนต์ตรีอาจให้ยาแก้พิษกับเธอตั้งนานแล้วก็ได้
“ยศพล ตอนที่มนต์ตรีกับนายเจอกัน พวกนายคุยอะไรกันเหรอ”
ยศพลหลับตาอย่างอารมณ์ไม่ดี “มันตายแล้ว เธอยังคิดถึงและลืมมันไม่ลงอีกเหรอ”
“ไม่จริงน่า ฉันก็แค่...โอเค ช่างเหอะ เขาพูดอะไรก็ไม่สำคัญแล้วล่ะ”
สายตาของศพลมองไปในที่แสนไกล ใบหน้าของเขามีเงามืดปกคลุม
“ยศพล นายโกรธเหรอ จากนี้ไปฉันจะไม่พูดถึงเขาแล้ว เคมั้ย”
ยศพลขมวดคิ้วเบา ๆ “พรุ่งนี้เป็นวันฝังศพเขา เธอจะไปมั้ย”
“ไม่ไป!”
จารวีพูดออกมาอย่างแน่วแน่และมั่นใจ ไอ้บ้านั่นมันทำร้ายเธอไปไม่น้อยเลย
ยศพลหันมา แล้วใช้แรงกอดจารวีไว้แน่น
แล้วก็กอดแบบนั้นเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร
“ถ้ามีวันนึง ฉันไม่อยู่ข้างกายเธอแล้ว เธอจะดูแลตัวเองได้ใช่มั้ย” ยศพลเอ่ยปากถาม
จารวีเงยหน้า “นายคงไม่อยากจะบอกเลิกฉันอีกรอบใช่มั้ย”
พูดจบ เธอก็พูดเสริมอีก “ยศพล นายเลิกเล่นเป็นเด็กแบบนี้ซะทีนะ เกมเลิกกันแบบนี้เล่นรั้งเดียวก็พอ ไม่ต้องเล่นกันถึงสองรอบหรอก”
ยศพลยื่นมือมาจับจมูกของเธอให้งอขึ้น แล้วก้มไปจูบริมฝีปากเธอ
ทั้งสองคนแลกลมหายใจที่หอบหนักกัน จารวียื่นแขนทั้งสองออกมาแล้วโน้มคอของเขา
ยศพลถือโอกาสกดจารวีลงบนโต๊ะ
พวกเขาจูบจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง หลังจากที่ทั้งคู่หอบจนเกือบตาย จึงจะหยุดลง
กลางดึกคืนนั้น จารวีนอนอยู่บนเตียง เธอนอนหลับสนิทมาก
สองมือของยศพลจับคางของเธอ แล้วมองเธออย่างจนสติหลุดลอย ไม่ว่าจะมองให้นานเท่าไหร่ก็ยังไม่เพียงพอ
เขาไม่รู้ว่าจะเลือกวิธีอะไร ที่ทำให้เธอเจ็บปวดน้อยลงได้ แต่ว่าเขาก็จำต้องจากเธอไป
นี่ก็เป็นเช้าอีกวันที่มีแดดแรงจ้า จารวีค่อยๆตื่นขึ้นมา
โคมระย้าที่สวยงามค่อยๆปรากฏชัดเจนอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ยศพล…”
จารวียังคงนอนเปลือยกายอยู่ เมื่อคืนทั้งสองร่วมรักกันอย่างเมามัน เขามีพลังเยอะเหลือล้น เขาบุกเข้ามาหลายครั้งต่อหลายครั้ง จนกระทั่งเธอเหนื่อยจนผล็อยหลับไป
จารวีขยับตัว แล้วลงมาจากเตียง
ไม่มีใครตอบกลับเธอ
“น้าอาม คุณชายยศพลไปไหนคะ”
เธอตะโกนออกไป แต่นึกไม่ถึงเลยว่าทั้งคฤหาสน์จะเงียบกริบ
ไม่มีใครตอบเธอเลย จารวีเดินลงไปชั้นล่าง เธอไม่พบใครเลยสักคน
จารวีรู้สึกงุนงงเล็กน้อย เธอตระหนักได้ว่านี่มันไม่ปกติ เธอวิ่งเท้าเปล่าไปที่สวน บอดี้การ์ดหน้าประตูสักคนก็ไม่มี
หรือว่านี่คือความฝันกันนะ
จารวีหยิกหน้าตนอย่างสุดชีวิต เจ็บ...เจ็บจัง...
ผู้คนล่ะ ทำไมคนในบ้านโพธิสูงถึงไม่เหลือเลยแม้แต่คนเดียวล่ะ
“น้าอาม นิรัน พวกคุณหนีไปไหนกันหมด”
มันจะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่น่ากลัวเกิดขึ้นแน่ ๆ จากนั้นคนในบ้านโพธิสูงทุกคนจึงต้องออกไปกันหมด
เธอเข้าไปในห้อง หยิบมือถือขึ้นมา...แล้วมองผ่านๆไปแวบหนึ่ง เธอตกตะลึงไปทันที
วันที่ของวันนี้ที่ปรากฏอยู่บนมือถือคือวันที่ 28 เห็นชัดอยู่ว่าเมื่อวานวันที่ 26 นี่นา…
ไม่สิ นั่นไม่ใช่เมื่อคืน นั่นมันสองคืนก่อน งั้น...หรือว่าเธอหลับไปสองวันสองคืน
จารวีระลึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอจำวันเหล่านั้นที่อยู่กับยศพลได้ สำหรับเธอแล้วมันเป็นเรื่องประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ในใจของเธอรู้สึกสับสนงุนงง
เธอรีบกดเบอร์ของยศพล ในโทรศัพท์ก็มีเสียงดังขึ้นมาทันที
‘ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกได้ถูกระงับใช้บริการชั่วคราวค่ะ’
จารวีจึงกดเบอร์ของนิรันและน้าอามอย่างสับสนงุนงง
ไม่ว่าจะโทรหาใคร ก็โทรไม่ติดเลยสักคน!!!
ไม่ปกติแล้ว นี่มันไปไม่ปกติแล้วจริงๆ!
จารวีเปิดโทรทัศน์ ในโทรทัศน์ก็กำลังรายงานข่าวอยู่
‘บริษัทSTกรุ๊ปจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทโพธิสูงกรุ๊ป วันนี้ได้ถูกซื้อหุ้นไปบริหารต่อโดยบริษัทเจเอสสากลกรุ๊ปจำกัด...’
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ จารวีทรุดตัวลงบนโซฟา
ยศพลไปแล้วจริงๆ เขาทิ้งเธอไว้ แต่พาคนทั้งบ้านคนอื่นหนีไปกันหมด
ยศพล นายมันชั่ว นายจะเลวให้น้อยกว่านี้หน่อยไม่ได้รึไงกันนะ!!!
เขารีบหนีไปแบบนี้ทุกครั้งเลย ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ครั้งนี้ ฉันจะไม่อภัยให้นายอีกต่อไปแล้ว
น้ำตาของจารวีไหลจนท่วมหน้า
ยศพลระเหยไปจากโลกมนุษย์นี้แล้ว เขาไม่ได้ทิ้งเบาะแสอะไรไว้ให้เธอเลย ไม่มีข่าวคราวไว้เลยแม้แต่นิดเดียว
ทิ้งไว้ก็แต่เพียงคฤหาสน์นี้ กับบริษัทน้องวีจำกัดเอาไว้
หลังจากนั้นจารวีก็เจอทัศนีย์ ทัศนีย์ยังคงจัดการบริษัทนั้นเหมือนแต่ก่อน ก็แค่เปลี่ยนจากตำแหน่งเจ้าของมาเป็นลูกมือ หล่อนไม่ได้พูดถึงการจากไปของยศพลเลยแม้แต่น้อย หล่อนพูดแต่ว่าตนไม่รู้
“จำนวนเงินเท่านี้เพียงพอรึยัง”
ลิซท์เห็นตัวเลขบนเช็ค เขาก็ยิ้มอย่างคนโลภ แล้วก็ยื่นมือไปหยิบเช็คใบนั้นขึ้นมา
“คุณจารวีเป็นคนใจกว้างมากจริงๆ คืออย่างนี้นะครับ… ผมมีข้อเสนอแนะให้คุณอย่างหนึ่ง แม้ว่าบุคคลในภาพนี้จะลึกลับมาก แต่ผมพบข้อบ่งชี้ว่าเขาเป็นคนที่รักแฟชั่นและเขาให้ความสนใจกับสื่อ ถ้าบุคคลในภาพนี้สำคัญกับคุณจารวีมากขนาดนี้ ผมว่าคุณก็แค่กระทำการบางอย่างในปารีสที่ดึงดูดความสนใจของเขา ถ้าคุณทำแบบนั้น เขาก็น่าจะปรากฏตัวต่อหน้าคุณในไม่ช้า”
จารวีเงยหน้าขึ้นมา แล้วพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นหล่อนก็ยิ้มเบาๆออกมาอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้เบาะแสเรื่องชื่อของเขาเลยนี่นะ ถ้าให้ฉันไปหาเอง แล้วแบบนั้นทำไมฉันจ่ายเงินก้อนนี้ให้คุณด้วยล่ะ”
“ฮะๆ คุณจารวี เงินนี้ถ้าจ่ายแล้ว คุณจะต้องไม่เสียใจในภายหลังแน่นอนครับ”
ในมือของจารวีกำลังเล่นสมุดเช็คที่อยู่ในมือ เธอพูดพลางยิ้มอย่างมีเลศนัยและดูเย้าหยอก “บนเช็คนั่นยังไม่เซ็นต์ชื่อเลยนะ”
ลิซท์ตกใจ ที่จริงแล้วเช็คใบนี้ต้องเซ็นชื่อก่อน จึงจะถอนออกมาเป็นเงินสดได้ ใบหน้าของเขาก็ขมขื่นขึ้นมาทันที
“คุณช่วยฉันตามหาต่อไปนะ แค่มีเบาะแสของเขา ฉันก็จะเซ็นชื่อให้คุณ”
“นี่ นี่มัน….คุณจารวี คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง”
“แบบนี้แล้วมันทำไม ฉันก็จ่ายให้คุณไปแสนกว่าบาทแล้ว คุณลิซท์ ถ้าคุณแสดงความสามารถออกมาได้มากกว่านี้ ถ้าเกิดฉันใช้คุณไม่ได้ ฉันก็จะใช้ให้คนอื่นทำแทน”
“ก็ได้ครับ คุณจารวี ผมจะหาเบาะแสให้ได้มากกว่านี้”
ลิซท์จึงได้แต่เดินคอตกออกไปอย่างเศร้าสร้อย
จารวีมองแผ่นหลังของคนในรูปภาพ แล้วหมกมุ่นอยู่กับการครุ่นคิด
ถ้ายศพลอยู่ในเมืองนี้จริง ๆ ยศพลก็ต้องเจอเธอแน่
จารวีใช้ปากกาเคาะโต๊ะเป็นเวลานาน จากนั้นเธอก็ต่อสายใน สักพักก็มีเลขาเดินเข้ามา
“คราวก่อนเธอบอกว่ามีสถานีโทรทัศน์อยากจะสัมภาษณ์ฉันใช่มั้ย”
“คือคุณแม็กซ์จากช่องแฟชั่นค่ะ”
“อื้ม ไปจัดการให้หน่อย ให้ฝ่ายนั้นมาสัมภาษณ์ฉันภายในสามวันนี้…”
“ได้ค่ะ!”
สามวันหลังจากนั้น ในรายการช่องแฟชั่นจากสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ในบรรดาคนผมบลอนด์จำนวนมาก มีแต่เพียงจารวีคนเดียวที่ดูโดดเด่น ผมสีดำที่ยาวจนคลุมไหล่และแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมบนใบหน้าของเธอ ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่ทันสมัยและดูสง่างาม
ชุดสูทสีดำตัวเล็กๆที่ห่อหุ้มเรือนร่างของเธอ ทำให้หุ่นของเธอดูปราณีตและเซ็กซี่มากขึ้น
เธออยู่ต่อหน้ากล้องด้วยท่าทีที่สงบมาก
“ท่านประธานจารวี สวัสดีครับ ขอบคุณมากที่คุณให้เกียรติมาเป็นแขกรับเชิญในช่องแฟชั่นของพวกเรา…”
พิธีกรกล่าวเปิดอย่างมืออาชีพ
“คุณพิธีกร สวัสดีค่ะ…” จารวียิ้มอ่อน และจับมือกับพิธีกรอย่างใจเย็น
ในตอนนั้น ที่หน้าโทรทัศน์ มีดวงตาสีดำดั่งหินออบซิเดียนคู่หนึ่งจ้องมองสาวไทยคนงามที่อยู่ตรงหน้าอย่างจริงจังและไม่ขยับไปไหน
“ได้ยินมาว่าคุณใช้ความพยายามสามปีในการสร้างบริษัทเล็ก ๆ ให้กลายเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานแฟชั่นระดับสากล ไม่ทราบว่าจากขั้นตอนข้างตน ความเข้าใจและความซาบซึ้งที่ได้จากประสบการณ์ที่ใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร”
“โอ้ ฉันรู้สึกว่าคงเป็นการที่ต้องใช้ความดิ้นรนพยายามมากกว่าคนปกติ แล้วก็โชคอีกนิดหน่อยน่ะค่ะ”
……
คุยกันได้สิบนาที ทันใดนั้นพิธีก็เอ่ยถามอย่างติดตลก “คุณจารวีมีแฟนรึยังล่ะครับ”
ทันใดนั้นแววตาสีดำดั่งหินออบซิเดียนคู่นั้นก็ดูเครียดขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย