ตอนที่22 สิ่งที่ฉันต้องการ
“มัลดีฟส์คือสวรรค์ของความรัก…”
มีเสียงถากถางดังออกมาจากหน้าประตูห้อง เงาใหญ่ของยศพลยืนบดบังแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา
ความรัก สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องตลก สำหรับผู้ชายที่หน้าด้านไร้ยางอายคนนี้ ในสายตาของเขาเคยมีความรักอยู่บ้างไหม?
“คืนนี้มาหาฉันนะ…”
สายตาของยศพลบอกเป็นนัยว่าจะให้เธอมานอนด้วยกัน จารวีโกรธจนเลือดสูบขึ้นหน้า “นายนี่มัน นายมาที่นี่เพื่อมาเที่ยวกับพี่พินนะ”
“อืม แล้วแต่เธอ อยากจะมาก็มา”ร่างที่หยิ่งผยองของยศพลเลี้ยวหายไปในมุมอย่างรวดเร็ว
สารเลว ไอ้สารเลว….จารวีเตะโต๊ะด้วยความโมโห
ตอนรับประทานมื้อเย็น ไม่มีใครเห็นเงาของยศพล จารวีรู้สึกประหลาดใจ“เขาไปไหนเหรอ?”
“อ้อ พี่บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ เขายังมีธุระต้องไปคุยงาน บนเกาะนั้นคงมีกิจกรรมแหละ”
“แล้วทำไมไม่พาพี่ไปด้วย?”
ยุพินคีบกุ้งตัวหนึ่งลงไปในจานของจารวี“พี่เหนื่อยน่ะ พี่ไม่ชินที่จะไปทำกิจกรรมพวกนั้น อยากจะพักผ่อนสักหน่อยน่ะ”
“แต่ว่า ในเมื่อพี่มาด้วยกันกับเขา ก็ควรจะรับผิดชอบพี่สักหน่อย…”
ยุพินเงียบไปสักพัก หัวเราะพลางพูดว่า“วี เลิกอารมณ์เสียได้แล้ว ตอนนี้พี่น่ะพอใจมากแล้ว ให้คนสุขภาพร่างกายแข็งแรงอย่างเขาพาคนป่วยอย่างพี่ไปด้วยคงลำบากน่าดู”
“ไม่เกี่ยวเลย ในเมื่อเขาหมั้นกับพี่แล้ว เขาก็ควรรับผิดชอบสิ”
จารวีลุกขึ้นยืนพร้อมกับความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม แล้วหันไปมองเกาะเล็ก ๆเกาะนั้น
เวลานี้ก็ค่ำแล้ว ทั้งเกาะถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง ทำให้ผู้คนน่าหลงใหลอย่างชัดเจน
“คืนนี้…”
ในสมองของจารวีก็มีคำพูดของยศพลปรากฏขึ้นมาในความทรงจำ
เธอจับทั้งสองมือไว้แน่น ไม่ได้อยากไปหานาซะหน่อย
นิ่งไปสักพัก เธอก็หันมามองพี่สาว“ช่างเถอะ พี่ ฉันไปพักผ่อนนะ…”
ยุพินไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา“ไปสิ!”
จารวีไม่มีอารมณ์นอนเลยแม้แต่นิดเดียว เธอจึงสวมกระโปรงยาว เดินเลียบไปทางระเบียงไม้ยาวของบ้านพักตากอากาศ ค่อยๆเดินไปที่ข้างชายหาดอย่างช้า ๆ
กึก กึก
มีเสียงประหลาดออกมาจากใต้เท้า จารวีมองดูบนไม้กระดาน โค้งตัวลงไปดู เห็นขวดแก้วใสสีฟ้าถูกไม้ขังไว้ ถูกคลื่นทะเลซัดมากระแทกที่แผ่นไม้อย่างไม่หยุด ก็เลยมีประหลาดดังขึ้นมา
จารวีหยิบขวดขึ้นมาอย่างง่ายดาย
ขวดน้อยขนาดกลางฝ่ามือ เป็นรูปหัวใจ ด้านหลังมีรูปกามเทพคิวปิดอยู่
จารวีใจเต้น เอาขวดแก้วกลับไปที่ห้อง
ขวดแก้วขวดนี้ทำให้เธอย้อนความคิดกลับไปสิบปี
“พี่มนต์ ถ้าเราเขียนความปรารถนาของตัวเองลงไปบนกระดาษ ใส่ลงไปในขวดลอยตามน้ำ ทิ้งลงไปในทะเลที่กว้างใหญ่ จะสามารถทำให้ความปรารถนาสมหวังจริงเหรอคะ”
“ใช่แล้ว ความปรารถนาของวีคืออะไรล่ะ?”
“พี่มนต์ ถ้าฉันโตขึ้นมาฉันอยากจะเป็นเจ้าสาวของพี่ พี่คิดว่าได้มั้ย?”
“เหอๆ วีสวยขนาดนี้ โตขึ้นแล้วจะมาแต่งงานกับพี่มนต์น่ะได้แน่นอนอยู่แล้ว!”
“ดีล่ะ พี่มนต์เขียนเร็วสิ วีจะเป็นเจ้าสาวของพี่!”
มนต์ตรีเขียนความปรารถนาของจารวีด้วยมือของเขา นำความปรารถนานั้นยัดใส่ในขวดแล้วลอยไปในทะเล
ในตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่หกขวบ มนต์ตรีอายุสิบสองปี พ่อกับแม่ยังมีชีวิตอยู่ เธอยังคงเป็นเจ้าหญิงน้อยที่มีความสุข บ้านพูลสวัสดิ์กับบ้านตระกูลซู่คบกันเป็นมิตรสหายมาหลายชั่วคน
เธอกับเขาเติบโตมาด้วยกัน พวกเราเล่นด้วยกันอย่างไม่รู้ประสีประสา
ตอนนี้เธอโตแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
พี่มนต์ พี่อยู่ที่ไหน?
ใจลอยไปชั่วขณะ จารวีหวนความคิดกลับมาสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง เธอนึกถึงความคิดที่แปลกประหลาด เปิดจุกขวดออก และเอากลุ่มกระดาษที่ซ้อนๆทับๆกันออกมาเปิดดู
บนกระดาษมีลายมือที่สวยงาม เวลาผ่านไปนานเท่านาน เธอยังคงดูลายมือของเขาออก
วี พี่มนต์กลับมาแล้ว…
ไม่มีชื่อผู้รับ ไม่มีลงนาม ไม่มีวันที่ เพียงแค่ตัวอักษรไม่กี่ตัวก็ทำให้หัวใจของจารวีเต้นแรงอย่างรุนแรง
เธอค่อยๆดีใจเบิกบานเหมือนกระแสน้ำที่ไหลทะลักอย่างบ้าคลั่ง จับโน๊ตสั้นๆไว้แน่น เดินไปเดินมาในห้องอย่างตื่นเต้น
พี่มนต์กลับมาแล้ว พี่มนต์ที่เธอชอบกลับมาแล้ว จะทำยังไงดี?
โมเม้นตื่นเต้นแบบนี้มีอยู่นานมากแล้ว
เดี๋ยวนะ ขวดใบนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
ในตอนนั้น บนหน้าผาด้านหลังคฤหาสน์ไม้มีชายร่างที่หล่อเหลามาก ๆยืนอยู่ เขาใส่ชุดสูทสีขาว ดูมีสง่าราวกับเจ้าชายในเทพนิยาย แสงจันทร์อ่อนๆซ่อนเร้นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ความเศร้าแผ่ขยายออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลของเขา
เขานั่งยอง ๆ นำสิ่งที่ปรารถนารูปหัวใจอันที่เก้าที่เขียนเสร็จแล้วไปใส่ในขวด แล้วปล่อยออกไปในทะเลอันกว้างใหญ่
วี วีอยู่ไหน?
ทันใดนั้นที่ด้านหลังเขาก็มีหญิงสาววัยรุ่นวิ่งเข้ามาหา
“มนต์ ที่แท้เธอก็มาหลบอยู่นี่นี่เอง เร็วเข้า ปาร์ตี้จะเริ่มแล้ว…”
มนต์ตรีกระโดดลงมาจากหน้าผา หันกลับไปมองรอบ ๆทะเลลึกที่กว้างใหญ่ แล้วก็เดินจากไปด้วยจิตใจที่หดหู่
“มนต์ คิดถึงวีอีกแล้วใช่รึเปล่า?”
สุรีย์วัลย์ถามอย่างระมัดระวัง ทุกครั้งที่ถึงคืนเดือนเพ็ญ มนต์ตรีก็จะมานั่งเศร้าเข้าหาทะเล
“วัลย์ ขอบคุณนะที่อยู่เคียงข้างฉันมาตลอด ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะไม่ทนรอต่อไปแล้วล่ะ…”
สุรีย์วัลย์กอดมนต์ตรีแน่นด้วยความดีอกดีใจ เธอรอเขามาหกปีแล้ว แต่เขากลับตามหาจารวีมาหกปี สามปีก่อน เขาได้ข่าวว่าจารวีตาย แต่เขาก็ยังไม่ย่อท้อ ยังคงตามหาอย่างไม่ยอมแพ้ต่อไปจนถึงวันนี้
“มนต์ ฉันรู้ว่าในใจเธอมันทรมานมาก แต่ว่าคนตายน่ะเกิดใหม่ไม่ได้หรอก ถ้าจารวีอยู่บนสวรรค์ เธอก็ต้องยินดีกับพวกเราแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย