ตอนที่ 31 ทำไม่ได้อีกต่อไป
มนต์ตรีมีกลิ่นหอมของสมุนไพรอยู่บนร่างกาย กอดจารวีแน่น ไม่ให้เธอหนีไปได้
“วี อย่าไปเลย อย่าหนีไป อย่าหลบพี่อีก เธอรู้มั้ย ว่าพี่ตามหาเธอยากลำบากขนาดไหน…”
เขาพูดไม่หยุด ราวกับว่าอยากจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจมากว่าสิบปีออกมาให้หมด
ตั้งแต่วันที่เขาแยกจากจารวี เธอก็อยู่ในใจเขามาตลอด เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงเธอเขาจะบอกเธอที่อยู่ในใจเขา มันได้รวบรวมคำมานานกว่าสิบปีมากเกินไป เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน
หน้าอกของเขาติดอยู่กับแผ่นหลังของเธอ ลมหายใจที่อบอุ่นของผู้ชายก็ถูกนำเข้ามาปะทะร่างกายของเธอตลอดเวลา
ร่างบอบบางของเธอสั่นเล็กน้อยดั่งดอกไม้ในสายฝน
ครั้งแรก เธอรู้สึกได้ว่าพี่มนต์ของเธอโตแล้ว แขนของเขาอบอุ่น แข็งแรงมากขึ้น ใจกว้างและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ปลอดภัย
แต่ว่า ระหว่างพวกเขาทั้งสองคงเป็นไปไม่ได้แล้ว
เธอตกอับ กลายเป็นของเล่นของยศพล
เขาก็เป็นคู่หมั้นของคนอื่นไปแล้ว
โชตชะตานั้นเล่นตลกกับพวกเขาอย่างโหดร้าย ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปทั้งสองคนก็เหมือนเส้นขนาน ที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกันได้
น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของจารวี เธอกลัวมาก กลัวว่าเธอจะทนต่อความอบอุ่นของเขาจนหันหลังกลับไปหา
จารวีผลักมนต์ตรีออกอย่างแรง
เดิมทีมนต์ตรีกอดเธออย่างหลวมๆ แค่ผลักเบาๆก็ออกไปแล้ว
มนต์ตรีมองเธอด้วยความตกใจ และจับแขนของเธอไว้ "วี วีจำพี่ไม่ได้เหรอ"
จารวีพยายามฝืนยิ้มออกมา "จำได้สิ คุณคือพี่มนต์ไง" เมื่อพูดเสร็จ ก็ยื่นมือขวาออกไปอย่าง อ่อนแรงและพูดออกมาสองสามประโยค
“พี่มนต์ ยินดีด้วยกับพี่ด้วยนะ ที่ได้เจอสุรีย์วัลย์ ว่าที่ภรรยาที่ดีแบบนี้”
ในวินาทีนั้น จารวีรู้ว่าตนเองต้องฝืนยิ้มแบบดูไม่ได้
น่าเสียดาย เธอไม่มีกระจกที่จะใช้มองตัวเอง แต่เธอการที่พูดเช่นนี้เป็นการฝ่าฝืนหัวใจเธอ เธอรู้สึกอึดอัดมาก
มนตร์ตรีค่อยๆปล่อยมือของจารวีอย่างเบามือ...สายตาที่หล่อเหลา เปล่งประกายไปด้วยความเศร้าโศก
“พี่ขอโทษ วี พี่นึกว่าวี…”
จารวีก็ตัดคำพูดอย่างรวดเร็ว “พี่มนต์ วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดของพี่ อย่าพูดเรื่องเศร้าแบบนี้สิ พวกเราเป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของกันและกัน ไม่ใช่เหรอ?”
“วี ตอนนี้วีพักอยู่ที่ไหน ในช่วงไม่กี่ปีนี้วีอยู่สบายดีมั้ย คราวหน้าพวกเราหาสักที่นัดคุยกันหน่อยดีมั้ย!”
จารวีนิ่งไปสักพัก ลังเลเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าวันนี้พี่น่าจะยุ่งมากเลย ไว้ค่อยคุยกันวันหลัง”
เธอพูดแบบนี้คือหาข้ออ้างปฏิเสธเขาหรือเปล่า แววตาของมนต์ตรีมีความเจ็บปวดกลัดกลุ้มใจ
เขาหยิบกระดาษกับปากกาออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วเขียนที่เบอร์โทรสองสามเบอร์จากนั้นก็ยื่นให้จารวี
“นี่คือเบอร์ที่บริษัทพี่นะ นี่คือเบอร์โทรศัพท์พี่ นี่คือเบอร์บ้านพี่นะ ถ้าวีอยากเจอพี่ โทรมาได้ทุกเบอร์เลยนะ…” เสียงของมนต์ตรีอ่อนโยนและน่าฟัง แววตาดูอบอุ่น
ในตอนนี้ คำพูดที่เขาต้องการจะพูดมีมากมาย แต่น่าเสียดายที่เขาทำแบบนั้นไม่ได้ วันนี้เป็นหมั้นของเขา เขากับเธอก็แค่ผ่านมาเพื่อเจอกันและจากไป เหลือไว้เพียงแค่ความเสียดายลึกๆ
ในขณะนั้นก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วเห็นพวกเขาทั้งสองอยู่ในห้องน้ำ เขานิ่งไปสักพัก แล้วรีบวิ่งมาที่ด้านนอกของห้องน้ำอย่างฉับพลัน หลังจากดูป้ายสัญลักษณ์ เขาก็กลับมาอีกครั้งแล้วพูดกับพวกเขาทั้งสองคนว่า “เหมือนกับว่านี่จะเป็นห้องน้ำชายนะครับ คุณครับ รบกวนคุณช่วยออกมาก่อนนะครับ”
“อ๊ะ อ้อ ค่ะๆ”
เพราะกลัดกลุ้มมากไปจริงๆ นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะสับสนจนเดินเข้ามาในห้องน้ำชาย
จารวีรีบหยิบกระดาษในมือของมนต์ตรี แล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำหญิง
มีสายตาของมนต์ตรีจ้องมองอยู่ทางด้านหลังของเธออย่างอาลัยอาวรณ์
นี่ก็ผ่านมากี่ปีแล้ว จารวีก็โตแล้ว มีใบหน้าที่ใสบริสุทธิ์และเต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์ เหมือนกับที่เขาฝันเอาไว้ไม่มีผิด แถมยังดูสมบูรณ์กว่าที่คาดไว้ด้วย
ในสมองส่วนลึกของเขาเธอยังจำสายตาที่ร่าเริงสดใสของเธอ สวยดังลูกแพร์ ริมฝีปากสีกุหลาบ...
“คุณชายมนต์ตรี คุณอยู่นี่นี่เอง คุณสุรีวย์วัลย์ออกมาตามหาคุณข้างนอก เกิดเรื่องใหญ่แล้ว…”
คนรับใช้คนหนึ่งรีบวิ่งมา พอเห็นมนต์ตรีก็รีบพูดขึ้นมา
มนต์ตรีมองจารวีที่จากหายไป จากนั้นเขาก็หันกลับแล้วเดินจากไป
จารวีนิ่งงงงันอยู่ในห้องน้ำสักพัก หลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าของมนต์ตรีเดินจากไป เธอก็ออกมาอย่างรวดเร็ว
ในตอนนั้น มือถือก็ดังขึ้น
จารวีเพิ่งจะรับสาย ยศพลที่อยู่ในสายก็พูดออกมาอย่างโกรธจัด “จารวี เธอถูกส้วมดูดรึไง? เธอไปห้องน้ำมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ รีบออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ….”
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าทัศนีย์ขึ้นไปเซอร์ไพรส์สุรีย์วัลย์บนเวที เขาก็คนให้หล่อนไปหาจารวีที่ห้องน้ำแล้ว
“อือๆ เดี๋ยวฉันไปเดี๋ยวนี้ล่ะ...”
จารวียังพูดไม่ทันจบ ยศพลก็ตัดสายไปแล้ว
ผู้ชายคนนี้นี่ ช่างเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางซะจริง จารวีเดินกลับออกมาพร้อมกับตำหนิเงียบๆ
เพิ่งจะถึงหน้าประตู ก็ถูกยศพลดึงแขนลากไป
ในตอนนั้น ในห้องโถงวุ่นวายมาก มีตำรวจและบอดี้การ์ดมากมาย แขกเหรื่อก็หนีตายกันอย่างอลหม่าน
“หลบไป หลบไป…”
ตำรวจสองนายอุ้มบางอย่างลงมาจากเวที จารวีตะลึงตาค้าง นึกไม่ถึงว่าจะเขาจะเลวทรามได้ขนาดนี้
จริงๆแล้วมันเป็นหัวสุนัขที่เลือดท่วม ผิวหนังถูกถลกและมีเลือดไหลออกมาจากลูกตา
“นี่คือ?”จารวีถามออกไปอย่างระมัดระวัง
ยศพลยิ้มแสยะ “สุนัขแสนรักของคุณสุรีย์วัลย์ไง แต่ว่าครั้งนี้ก็แค่ตักเตือนเท่านั้น เธอกล้ามาทำผู้หญิงของฉัน ฉันจะทำให้หล่อนหนีไปจากเมืองเอสเลย…”
จารวีจ้องยศพลด้วยความตกใจ ยศพลโอบกจารวีเอาไว้ ในตอนที่ตำรวจเผลอ เขาก็เดินวางท่าออกไป แขกคนอื่นยังคงหยุดอยู่กับที่ เนื่องจากถูกต้องสงสัยและไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องโถงชั่วคราว
ไม่นาน ทั้งสองก็เข้ามาในรถ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย