เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 33

ตอนที่ 32 อนาคตของเธอ

“วี มานี่!”

ยุพินดึงมือของจารวี ให้หล่อนมานั่งอยู่ข้างกายเธอ มองเธอด้วยสายตาที่แสนอบอุ่น

เธอยื่นมือไปลูบที่หน้าผากของจารวี

“วี วีโตขึ้นเยอะเลย ยิ่งโตยิ่งสวย เหมือนกับแม่ของเธอเลย…”

ในใจจารวีรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที

จนถึงตอนนี้เธอก็ไม่รู้ชัดเจน ว่าแม่ของเธอตายยังไง

รู้แค่ว่าเป็นคืนที่มีพายุฝนกระหน่ำ เธอถูกโอบกอดไว้ในอ้อมแขนของยุพิน แล้วเข้าไปในรถที่ขับออกมาไกลจากเมืองนั้น

จนเธออายุสิบสอง ยุพินถึงบอกเธอว่าแม่ของเธอตายแล้ว พ่อของเธอก็ไม่ทราบเบาะแส

ทุกสิ่งรอบตัวเธอเหมือนมีหมอกมากำบัง

“พี่ พี่บอกฉันได้มั้ย ว่าแม่ของฉันตายยังไงน่ะ”

มือของยุพินแข็งทื่อไปเล็กน้อย แล้วก้มลงไปอย่างรวดเร็ว สูดลมเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา

“วี เรื่องนี้น่ะมันผ่านไปนานแล้ว เธอยังไม่ปล่อยวางอีกเหรอ?”

“พี่ ตอนนี้วีโตแล้ว วีโตพอจะรับรู้เรื่องร้ายๆได้แล้ว พี่บอกฉันเถอะ ว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้น”

ยุพินเปลี่ยนเรื่อง “วี เรียนจบแล้ววีอยากทำอะไร?”

จารวีสลด ตอนยังเล็ก พ่อสนับสนุนเธอมาตลอด ให้เธอโตแล้วเรียนด้านธุรกิจ เพื่อสานต่อกิจการของเขา

แต่เธอไม่ได้สนใจด้านธุรกิจเลยสักนิด กลับเลือกที่จะเรียนด้านออกแบบ

แม้ว่าเธอจะสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของแม่และการหายตัวไปของพ่อ แต่เธอรู้ว่าตนเองคงทำธุรกิจไม่ได้ เธอทำไม่ได้ เธอไม่สามารถทำตามความหวังของพ่อได้ ดังนั้นเธอจึงทำให้พ่อผิดหวัง

เมื่อเห็นความเศร้าโศกของจารวี ยุพินก็จับไหล่ของเธอเพื่อเป็นกำลังใจให้ "อันที่จริงการออกแบบก็ดีนะ ในอนาคต พี่จะส่งวีไปเรียนต่างประเทศ จะส่งเธอไปโรงเรียนออกแบบที่ดีที่สุดเลย”

“ฮะๆ ขอบคุณค่ะพี่…”

ยุพินพูดอีกว่า “ปารีสเป็นสวรรค์ของสุนทรยศาสตร์ ซึ่งนักออกแบบที่โด่งดังหลายคนก็เกิดที่นี่ ถ้าเธออยากไปละก็ ตอนนี้พี่หาทางไปส่งเธอได้นะ"

อยู่ดีๆจารวีก็รู้สึกขึ้นมา พี่คงไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นใช่มั้ย

ทำไมเหมือนว่าอยากให้เธอไปไกลๆขนาดนั้น

ที่แท้รึว่าเป็นเพราะพี่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างยศพลกับเธอแล้วน่ะ

จารวีนิ่งไปสักพักแล้วพูดพลางยิ้มพลาง “พี่ ความคิดของพี่ไม่เลวเลย แต่ว่าไปปารีสต้องใช้เงินเยอะ ตอนนี้คุณลุงก็ต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากคุณยศพล ถ้าฉันไปปารีสละก็ ตอนนี้ยังไม่ค่อยโด่งดัง แต่ว่านะ ฉันปรึกษากับอังคณาแล้วว่าตอนปิดเทอมภาคฤดูร้อน พวกเราจะไปสอนหนังสือเด็กๆที่เขาปาสองเดือน”

เขาปาคูภูเขาที่เงียบสงบและห่างไกลความเจริญ พอยุพินได้ยินก็ขมวดคิ้ว

“ไม่ได้ ที่นั่นธรรมดาเกินไป พี่ไม่อนุญาตให้วีไป”

“พี่ วีโตแล้วนะ ไม่ต้องหลบอยู่ใต้ปีกของพี่แล้ว

“ไม่ได้ วี พี่ไม่ให้วีทำอะไรตามอำเภอใจบุ่มบ่ามแบบนี้นะ”

“ก็ได้ๆ พี่อย่าเพิ่งโมโหนะ ฉันก็แค่พูดๆไป ตอนนี้กว่าจะถึงปิดเทอมฤดูร้อนก็อีกตั้งนาน พวกเราค่อยคุยกันก็ได้” จารวีพูดถอยออกมาก่อน แล้วเกลี้ยกล่อมให้ยุพินเย็นลง

แต่ว่า ฟังจากน้ำเสียงของพี่แล้ว เธอไม่รู้สึกถึงว่ามีพี่มีความระแวงไม่ไว้วางใจ”

ตอนกลางคืน จารวีกับยุพินนอนในห้องเดียวกัน

ห้องอยู่ที่สามของคฤหาสน์และติดกับระเบียง

จารวีนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยุ่บนเตียงขนาดใหญ่

ในความมืด เธอมองไปที่เพดาน แล้วหวนนึกถึงเรื่องในวัยเยาว์

แต่ว่าในความทรงจำของเธอนั้น ก็มีเพียงท้องฟ้ามืดมิดที่มีพายุฝนกระหน่ำ

ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

จารวียื่นมีไปหยิบมือถือที่หัวเตียง บนหน้าจอปรากฎข้อความจากยศพล

“มานี่!”

จารวีปิดหน้าจอมือถืออย่างรวดเร็ว ในใจเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ เธอหันไปมาแล้วมอง เหมือนกับว่ายุพินจะหลับไปแล้ว

เธอรีบปิดมือถือทันที

ตาบ้านี่มันบ้ารึไง ดึกป่านนี้ยังส่งข้อความมาอีก

จารวีเพิ่งปิดเครื่อง ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู จารวีกลัวว่าเสียงจะดังจนปลุกยุพินเข้า จึงก้าวเท้าเบาๆ เพื่อเดินไปเปิดประตู

น้าอามยื่นหน้าเข้ามา แล้วพูดเสียงเบาๆว่า “คุณคะ คุณลืมกินยาของคุณค่ะ…”

เสียงของน้าอามเบามาก แต่ไม่นึกเลยว่าจะไปถึงหูของยุพิน เธอลุกขึ้นนั่งแล้วพูดออกมาเบาๆว่า “วี ไปกินยาซะสิ”

“อื้อ ได้ พี่ พี่นอนก่อนเลย เดี๋ยวฉันกลับมา…”

ตอนที่จารวีเปิดประตูออกไป ก็มีแสงลอดเข้ามา พอประตูถูกปิด ห้องก็อยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง

ใจของยุพินเจ็บปวดราวกับถูกอะไรบางอย่างกัดกิน

จารวีเดินตามน้าอามไปที่ชั้นสอง น้าอามหันมายิ้มพลางพูดว่า “คุณคะ ยาอยู่ในห้องของท่านประธาน เขาเพิ่งจะถือเข้าไปเองค่ะ”

รู้ตั้งนานแล้วว่าเป็นเขา!จารวีกระซุบกระซิบเบาๆ แล้วเดินตรงไปที่ห้องของยศพล

ผลักประตูเข้าไป สายตาของยศพลมองมาที่เธอ จารวีรู้สึกทำอะไรไม่ถูก

“ปิดเครื่องรึ”ยศพลถากถาง

“อืม ก็อยู่ในบ้านนายนี่ ถึงปิดเครื่องก็หาฉันเจอได้อยู่แล้วนี่”

ยศพลโกรธมาก จารวีทำให้เขาโกรธทุกครั้ง ผู้หญิงคนนี้มีสิทธิพิเศษมาจากไหนกัน

พอเห็นจารวีนิ่งอยู่ที่ประตูไม่ขยับไปไหน เขาเลยสั่งด้วยเสียงทุ้มต่ำ “มานี่ดิ ยืนบื้อไรห้ะ”

“อื้อ!”จารวีเคลื่อนตัวไปหาทีละน้อย “แล้ว ยาของฉันล่ะ…”

จริงสิ มียาต้องกินด้วยเหรอ? เหมือนกับว่าหมอไม่ได้บอกอะไรหนิ!

เธอก็ดูแข็งแรงดี เหมือนว่าไม่จำเป็นต้องกินยา แต่เพราะสายตาที่ดุดันของยศพล จารวีจึงถอยกลับไปก้าวหนึ่ง “ช่างเหอะ ดึกขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องกินยาแล้วล่ะ พรุ่งนี้ค่อยกิน…”

จารวีกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก

ทันใดนั้นประตูก็ถูกปิดลง นึกไม่ถึงเลยว่าประตูนี้จะเป็นประตูอัตโนมัติ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย