เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 39

ตอนที่38 มิตรภาพเล็กน้อย

น้าอามมองไปที่ยศพล ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

ยศพลพูดเสียงด้วยเสียงเบา “ให้คนไปซื้อไม้อะไรนั่นมาสิ เร็วเข้า...”

“ค่ะ ค่ะ...” น้าอามรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

จารวีล้างมือ ผูกผ้ากันเปื้อนที่เอวอย่างดี แล้วเริ่มหั่นผัก

จริง ๆแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นคุณหนูที่หยิ่งยโสอะไร ตอนที่อยู่บ้านพูลสวัสดิ์นั้น เธอทำได้หมดทุกอย่าง ชอบอยู่ในห้องครัวทำอาหาร

ในบ้านพูลสวัสดิ์ถึงแม้ว่าจะมีคนรับใช้ แต่ก็ยังมีสิ่งที่ทำไม่เคยเสร็จก็คืองานบ้าน และจารวีก็ต้องมาช่วยทำตลอด

สายตาที่มีความลึกซึ้งแฝงอยู่ของยศพล จ้องมองไปที่ร่างนั้นที่กำลังยุ่งอยู่

ที่นี่ก็ยังเป็นที่ในคฤหาสน์ เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถจะชื่นชมได้ก็มีเพียงแค่ผู้หญิงที่ทำกับข้าว

ยัยโง่คนนี้ พอได้ถือช้อนจับตะหลิวเข้าหน่อย ก็นึกไม่ถึงเลยว่าจะคล่องแคล่วฉับไวได้ขนาดนี้ ดูมีศักยภาพเหมาะกับการเป็นเมียเก็บที่ดีจริง ๆ

ตอนที่น้าอามกลับมา จารวีก็ทำไส้เกี๊ยวเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังจะนวดให้คลุกเคล้าเข้ากัน

ยศพลคว้าไม้นวดแป้งจากมือน้าอาม แล้วส่งให้ที่มือจารวี เมื่อเขาเห็นออร่าที่เปล่งประกายของจารวี ทำให้เขาใจลอยไปชั่วขณะ

เขาชอบรอยยิ้มหวานๆแบบนี้ของเธอมาก

“อย่าขยับ....”

ทันใดนั้นยศพลก็ออกคำสั่งเสียงเบาๆ จารวีกะพริบตา ฟังเขาพูดอย่างไม่ขยับ

ยศพลยื่นมือมาเช็ดแป้งที่ติดอยู่ที่หน้าของเธอ แล้วยิ้มที่มุมปาก

มือทั้งสองของจารวีผลักยศพลออกไป “นายออกไปข้างนอกเถอะ ถ้าฉันทำเสร็จแล้วเดี๋ยวเรียกนายเอง....”

นึกไม่ถึงเลยว่ายศพลจะไม่ต่อต้าน แล้วเดินไปยังประตู

ณ ตอนนั้น เสียงของมือถือก็ดังขึ้นมา

ยศพลรีบเดินออกไปรับมือถือข้างนอก

“คุณชายครับ ไม่เจอตัวเฉลิมชัยครับ…” เสียงของนิรันดังมาจากในมือถือ

“อะไรนะ?” ยศพลคำรามออกมา “พวกแกทำอะไรกัน”

“คืออย่างนี้นะครับ พวกเราตามเส้นทางการจ่ายเงินของคุณจารวีไปถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองแล้ว แต่พยาบาลบอกว่าเฉลิมชัยถูกเอาตัวไปแล้ว แต่ว่าสมองของเฉลิมชัยอาการค่อนข้างหนักครับ อาจจะเป็นคนปัญญาอ่อนได้ ดังนั้นไม่ว่าเฉลิมชัยจะไปตกอยู่ที่ใคร ก็ต้องรับชะตากรรมแน่ๆครับ”

“ให้ตายสิ จะปล่อยเขาให้ไปแบบนี้ไม่ได้นะ”

ยศพลหัวร้อนจนแทบจนระเบิดออกมา คาดไม่ถึงว่าเขาจะหายไป

“รีบไปสืบมา ถ้าหาเงื่อนงำไม่ได้แกไม่ต้องกลับมา”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเดินมาจากด้านหลังเขา ยศพลทำตัวเป็นปกติ หันตัวมาโดยเร็ว จารวีจ้องมองเขาอย่างสงสัยพอดี

เห็นเขาหันมา ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ปล่อยใครไว้เหรอ”

มือของจารวียังคงนวดแป้งหมี่อยู่ ใบหน้าเธอเปรอะเปื้อนเหมือนกับลูกแมว

ยศพลหัวเราะ ทำให้ความเครียดของเขาหายไปอย่างเกลี้ยงเกลา

“เกี๊ยวล่ะ? ฉันหิวแล้ว….”

“เสร็จแล้ว อยู่ในห้องอาหาร ฉันมาพานายไปชิมเนี่ย”

จารวีพูดไปขำไป

ยศพลโยนมือถือไว้บนโซฟา ยื่นแขนมาโอบเอวจารวีแล้วเดินไปห้องอาหาร

บนโต๊ะที่คลุมด้วยผ้าปูโต๊ะอาหารสีขาว มีจานใส่เกี๊ยวร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน

จารวีเอาน้ำส้มสายชูและกระเทียมวางไว้หน้าจานของเขาเองกับมือ

“ป้อนฉันสิ...”

ยศพลพูดอย่างตัวเองมีอำนาจ

ปัญญาอ่อนซะจริงๆ โตขนาดนี้แล้วยังจะให้คนป้อนอีก จารวีรู้สึกเพลียใจ

เกี๊ยวของจารวีถูกป้อนไปที่ปากของยศพล เขาแลบลิ้นออกมาเลียๆชิมๆ ขมวดคิ้วอย่างไม่มีความสุข

“โคตรเค็มเลย…”

“เค็มเหรอ”

จารวีกัดเกี๊ยวไปคำหนึ่งด้วยความสงสัย เอาใส่ปากเคี้ยวเบาๆ เธอไม่รู้ว่าตัวเธอในเวลานี้ที่กำลังเคี้ยวเกี๊ยวเบาๆด้วยริมฝีปากที่แดงชุ่มฉ่ำ ทำให้คนหลงใหลได้

ยศพลผลักจารวีไปที่กำแพง ใช้ปลายลิ้นงัดให้ปากเล็กๆ ของเธอเปิดออก แล้วเอาเกี๊ยวทั้งหมดในปากของเธอออกมา

ยัยนี่ ช่างหวานเหลือเกิน

ที่แท้จริงแล้วการที่กินเกี๊ยวแบบนี้ มันช่างอร่อยจริง ๆ

ภายใต้การจูบของเขา จารวีเริ่มหายใจติดขัดเหมือนเคย ถึงจะจูบมาหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถเรียนรู้ที่จะแลกลมหายใจของเธอกับอีกฝ่าย เป็นผู้หญิงที่โง่ซะจริง

สายตาของยศพลเริ่มเพิ่มความหื่นกระหายมากขึ้น กอดแล้วอุ้มเธอขึ้นมา จากนั้นก็นำเธอวางลงบนโต๊ะอาหาร

ฉีกกระดุมหน้าเสื้อเชิ้ตของเธอ แล้วมุดหัวเขาไปจูบ

ไฟแห่งกามอารมณ์ลุกโชติช่วงอยู่ในหัวของจารวี ไฟนี้แทบจะทำให้เธอจมดิ่งลงไป

กามตัณหาของยศพลช่างมีมากยิ่งนัก

คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะร่วมรักกับเธอไปด้วย และกินเกี๊ยวในจานจนหมดด้วย

จารวีพยายามจะขัดขืนเขา แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ จารวีก็ค่อยๆตื่นขึ้นมา

ไม่มีโซ่ที่มาล่ามไว้ เธอก็ได้กลับไปสู่สภาพอิสระเหมือนเดิมอีกครั้ง

ยศพลที่อยู่ข้างๆกำลังหลับใหล เขากอดเธอไว้อย่างบ้าอำนาจ แขนยาวกอดรอบเอวของเธอ

เขาที่กำลังหลับใหลนั้น ช่างดูหล่อเหลาและไม่มีพิษภัย

ใบหน้าที่หล่อแบบเย็นชา หางตายาว และมีขนตางอนที่ดกดำ การที่เขาหลับตาประจวบเหมาะกับมีแสงสาดส่องมากระทบกับขนตา ก็ทำให้เกิดเงาบาง ๆที่ตาของเขา

เขามีริมฝีปากบางที่ดูอวบอิ่มสีแดงชุ่มฉ่ำ และคิ้วที่เฉียบคม...

จารวีมองเขาแล้วนิ่งไปสักพัก เธอมองจนใจลอย ทันใดนั้นก็เหมือนจะเคลิ้มตาม

อยู่ดี ๆ เธอก็รู้สึกสงสาร ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ในใจของเธอเริ่มไม่ค่อยอคติกับเขาแล้ว

ร่างที่บอบบางของเธอนั้นอยู่ภายใต้ร่างของเขาที่กำลังหลับใหลอยู่

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกดูถูกตัวเอง จารวี เธอนี่มันใฝ่ต่ำจริงๆ

อาจเป็นเพราะรู้สึกได้ว่าจารวีกำลังจ้องมองเขาอยู่ ยศพลลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย

ทั้งสองคนห่างกันแค่นิดเดียว จารวีอยากจะกระโดดหนีออกมาแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว

ร่างกายที่แข็งแรงกำยำ พอพลิกตัวก็มาทับตัวจารวี

“ทำไมล่ะ?”

“ยศพลมองเธอด้วยสายตาอันลึกซึ้ง “หน้าที่ของเมียเก็บคือแค่ทำให้ฉันมีความสุขเท่านั้น ไม่สามารถมีข้อขอร้องใดใดทั้งนั้น”

“แต่...ฉันคิดว่า ระหว่างเราอาจมีความรักอยู่บ้าง...”

จารวียิ้มอย่างน่าสงสาร เธอรู้ว่าข้อตกลงที่ใช้ร่างกายและเงินแบบนี้ มันทำให้รู้สึกจากใจจริงๆไม่ได้

แต่เธอก็ยังพูดเสนอออกมาอย่างต่ำต้อย

ถ้าหากยศพลรักเธอแบบนั้นนิดๆจริงๆ คำขอร้องของเธอนี้คงไม่น่ามีปัญหาอะไร

แววตายศพลลึกซึ้งกว่าเดิม เขาโกรธขึ้นมาจนผลักเธอ แล้วก้าวเท้าใหญ่ออกไป

เธอคิดว่า บางทีระหว่างเราอาจจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันอยู่ก็ได้

ที่จริงแล้วเธอมองไม่ออกเลย ว่าเขาชอบเธอมากขนาดไหน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแคร์เธอ เห็นเธอเป็นคนในบ้านพูลสวัสดิ์ เธอก็คงจะอยู่ในสภาพไม่ต่างไปจากลุงเฉลิมชัย

ไม่ว่าใครในบ้านพูลสวัสดิ์ ก็สมควรตาย แต่ว่าเธอ...เป็นข้อยกเว้น

ใจของจารวีค่อยๆเย็นชาลง

เขารู้ว่าเดิมทีไม่ควรที่จะมีความเพ้อฝันใดใดต่อเขา รู้ๆอยู่ว่าเขาเป็นปีศาจ คาดไม่ถึงเลยจะมีความคิดแบบนั้นอยู่

ผ่านไปชั่วขณะ เธอหายใจเข้าลึกๆ พยายามปรับสภาพจิตใจของตัวเองหน่อย

แล้วก็ต่อสายไปที่มือถือของอังคณา

“อังคณา ฉัน จารวีเองนะ”

เสียงของอังคณาดูตกใจอย่างเห็นได้ชัด “วี ฉันนึกว่าเธอลาออกไปแล้ว ไม่เจอเธอนานมากเลย แล้วลุงของเธอเป็นไงบ้าง”

“อ่า อย่าพูดถึงเลยดีกว่า ตอนนี้ฉัน...สบายดี ช่างเหอะ คือฉันมีเรื่องอยากให้เธอช่วยหน่อยน่ะ”

“อือ ว่ามาเลย เดี๋ยวอีกพักนึงฉันต้องไปเรียนแล้ว”

“ช่วยฉันจดเบอร์พวกนี้ไว้หน่อย…”หลังจากจารวีบอกเบอร์โทรครบ ก็พูดเสริมว่า “นี่เป็นเบอร์มือถือของมนต์ตรี เธอช่วยโทรหาเขา ให้เขาตามหาพี่ฉันที…”

ด้วยความหวังสุดท้ายที่มี คนเดียวที่จารวีสามารถนึกถึงในตอนนี้ก็มีเพียงมนต์ตรีเท่านั้น

พี่มนต์ถ้าพี่เห็นสภาพของวีในตอนนี้ พี่จะผิดหวังมั้ยนะ

ในใจของจารวีเริ่มสั่นเบาๆ

“ไม่เจอพี่เธอเลยเหรอ วี ตอนนี้เธออยู่ไหนน่ะ ทำไมถึงใช้เบอร์เดิมต่อไม่ได้ล่ะ…”

“อ่า เรื่องนี้เดี๋ยวไว้ฉันค่อยเล่าให้เธอฟังวันหลังนะ อ้อ ลืมไป อย่าโทรมาที่เบอร์นี้นะ เดี๋ยวอีกสองวันฉันจะโทรไปหาเธอเอง”

“ได้เลย ไม่มีปัญหา” อังคณาก็วางสายไป

ในเวลาสำคัญแบบนี้ ก็มีเพื่อนสนิทนี่แหละที่รู้ใจใกล้ชิดที่สุด

พอตอนเที่ยง ยศพลก็กลับมา ที่โต๊ะอาหาร เขาก็เห็นจารวี ในดวงตามีความประทับใจอย่างลึกซึ้ง

“กินเสร็จก็ไปเตรียมตัวหน่อย…”

“อะไร?”

“ออกไปซื้อของ!”

“ก็ได้!”

จารวียิ้มออกมาอย่างมีความสุข หัวใจของเธอยังรอคอยข่าวสารจากอังคณา

ไม่รู้ว่ามนต์ตรีจะสามารถช่วยเธอได้หรือไม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย