เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 84

ตอนที่83 อยู่กับเขาสองคืน

มนต์ตรีถือขันน้ำอุ่นในห้องน้ำ ออกมาวางไว้ที่ด้านหน้าของโซฟา เขาเอื้อมมึงไปดึงจารวีมา พลางกดไหล่ของเธอให้นั่งลงบนเก้าอี้

จารวีงุนงง “จะทำอะไรหรอคะพี่มนต์”

“ฮ่าๆ พี่จะนวดเท้าให้วีน่ะ” มนต์ตรีเอื้อมมือไปกุมเท้าเล็กที่สะอาดหมดจดแช่ลงในน้ำอุ่น

ใบหน้าของจารวีก็แดงขึ้นทันที “พี่มนต์ ให้วีทำเองดีกว่าค่ะ!”

มนต์ตรีเงยหน้าขึ้น พลางมองเธออย่างตั้งใจ “วี สิบปีมานี้พี่ไม่ได้อยู่ข้างๆวี ไม่มีโอกาสได้ดูแลวี มีแค่วันนี้วันเดียว ให้พี่ดูแลวีเหมือนเมื่อตอนเด็กๆเถอะนะ โอเคไหม”

พลันดวงตาของเธอก็ร้อนผ่าว จารวีสะอื้นพลางพยักหน้า ในหัวใจของเขา เธอยังคงบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนเมื่อตอนเด็กๆ

ไหนจะรู้เลยว่า ความบริสุทธิ์ของจารวีนั้นได้หายสาบสูญไปนานแล้ว

พลันจารวีก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ยางอาย เหมือนหัวขโมยที่แอบลักลอบเสพสุขความใส่ใจทะนุถนอมของมนต์ตรี

“ไม่ต้องกดดันนะวี ทำตัวตามสบาย โอเคไหม!”

มือหนาของมนต์ตรีนวดคลึงเท้าเล็กของจารวี

เท้าของเธอทั้งเล็กทั้งขาวสะอาด สิบนิ้วเท้าอ้วนกลม อีกทั้งเล็บของเธอยังเป็นสีชมพู ดูแล้วช่างน่ารัก

ฝ่ามือของมนต์ตรีออกแรงได้อย่างพอเหมาะ เขานั่งอยู่บนพรม พลางบีบนวดเท้าให้เธออย่างตั้งอกตั้งใจ

“สบายไหม” มนต์ตรีเงยหน้าพลางเอ่ยถามด้วยเสียงที่อ่อนโยน ใบหน้าเล็กของจารวีแดงราวกับมะเขือเทศ

“อื้ม สบายค่ะ!”

หลังจากแช่เท้าเสร็จเรียบร้อย มนต์ตรีใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดเท้าให้เธอ

“บนห้องของวีมีเสื้อผ้าอยู่ วีไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเรามานอนดูดาวกัน”

“โอเคค่ะ!”

ใบหน้าของจารวีร้อนผ่าว เธอรีบพรวดพราดขึ้นไปชั้นบน พลางกดเปิดไฟ

โคมไฟคริสตัลที่สวยงามส่องแสงให้ห้องทั้งห้องสว่างสุกใส

มุมซ้ายของตู้เสื้อผ้าถูกแขวนไว้ด้วยเสื้อผ้าเต็มราว มีเสื้อผ้ามากมายหลากสีสัน ทั้งสีเขียวอ่อน สีขาวนวล สีเหลืองอ่อน ล้วนเป็นสีและสไตล์ที่จารวีชื่นชอบ พลันจารวีก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เสื้อผ้าเหล่านี้ดูคล้ายกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทน้องวีกรุ๊ปที่เธอเคยเห็นในนิตยสาร

หรือว่ามนต์ตรีออกแบบเสื้อผ้าพวกนี้มาเพื่อเธองั้นหรอ

เพียงชั่วพริบตา สิ่งที่จารวีคาดเดาก็ทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้ง พี่มนต์.. ทำไมพี่มนต์จึงดีกับเธอได้ถึงเพียงนี้กันนะ

เธออยากจะถามเขามาก ว่าทำไมเขาต้องดีกับเธอขนาดนี้

แต่ทว่า เธอไม่มีความกล้าพอ เธอกลัวว่าถ้ารู้คำตอบแล้วจะไม่สามารถจากเขาไปได้

ในเมื่อมันเป็นความรักที่ไม่มีวันมาบรรลุกันได้ งั้นก็ปล่อยให้มันตายไปกับเธอก็แล้วกัน!

จารวีเลือกชุดกระโปรงยาวโบฮีเมี่ยนลายดอกไม้ ชุดที่หลวมโคร่งเช่นนี้เมื่อไปอยู่บนเรือนร่างบาง ก็ยิ่งทำให้เธอดูตัวเล็กขึ้นไปอีก ลายดอกไม้หลากสีสันราวกับสายรุ้ง ห่อหุ้มร่างบางที่ขาวผุดผ่องเกลี้ยงเกลาของจารวีไว้ ดั่งตุ๊กตากระเบื้องที่งดงาม

มนต์ตรีเห็นเธอเพียงแวบแรกก็รู้สึกว่าลมหายใจติดขัด

นี่คือน้องวีของเขา เธอยังคงงดงามเหมือนในความทรงจำ

“มานี่สิวี!ตรงนี้มุมดีที่สุดแล้ว..”

ในมือของเขามีกล้องส่องทางไกลดาราศาสตร์ ตำแหน่งที่เขายืนตอนนี้เหมาะสมกับการดูดาวที่สุด

จากตัวเมืองอันคึกคักที่ห่างไกล ที่นี่คือจุดที่ใกล้กับท้องฟ้าที่สุด

จารวีคุกเข่าลงบนโซฟา เธอรับกล้องส่องดูดาวจากมือของมนต์ตรีมาถือ พลางส่องไปยังบนท้องฟ้าอันมืดมิด

มนต์ตรีคอยชี้บอกอยู่ข้างๆ “นี่คือดาวหนุ่มเลี้ยงวัว ส่วนดวงนั้นคือดาวสาวทอผ้า”

จารวีตอบรับในลำคอ พลางทอดมองผ่านเลนส์กล้องออกไป ดาวสองดวงนี้นอกจากค่อนข้างใหญ่และสว่างกว่าดวงอื่น ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

หนุ่มเลี้ยงวัว.. สาวทอผ้า.. จารวีพลันรู้สึกสลดใจ ดาวทั้งสองดวงมองเห็นกันแต่ไม่สามารถมาพบกันได้ มันดูคล้ายเรื่องของเธอกับมนต์ตรี...

เมื่อมองเห็นสีหน้าที่เศร้าโศกและหดหู่ของจารวี มนต์ตรีจึงยิ้มให้เธอพลางเอ่ย “วี วีรู้สึกไหมว่าพวกมันสวยงามแต่กลับเย็นชา” ดวงตาคู่สวยของจารวีเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เธอพยักหน้าอย่างเศร้าสลด

มนต์ตรียื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอ “อย่าเสียใจไปเลย ยังไงซะมันก็เป็นแค่ตำนาน พวกมันเป็นเพียงแค่ดาวสองดวงเท่านั้น” คำปลอบประโลมของมนต์ตรีทำให้หัวใจของจารวีรู้สึกดีขึ้นมา

มนต์ตรีกดปิดไฟบนซุ้มเพดาน มองขึ้นไปแบบนี้ ก็ยิ่งเห็นดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้าได้ใกล้ชิดและเสมือนจริงมากขึ้น

หัวไหล่เขาทั้งสองชิดกัน จารวีนั่งคุกเข่าบนโซฟา เธอเอนหัวพิงลงกับพนักพิง พลางจ้องมองดาว

มนต์ตรีนั่งอยู่ข้างกายของเธอ เขาวาดวงแขนโอบเธอไว้ เพื่อกันไม่ให้เธอล้มลงไป

“วี สิบปีที่ผ่านมา วีเคยคิดถึงพี่บ้างไหม” ยามราตรีอันเงียบสงัด เสียงของมนต์ตรีราวกับอยู่ในความฝัน

“ค่ะ วีไม่เคยลืมพี่เลย พี่มนต์!”

มนต์ตรียื่นมือไปลูบผมยาวสลวยของเธอ เขาพูดพร่ำรำพันอย่างอ่อนโยน “วี สิบปีแล้วนะ วีรู้ไหมว่าพี่เฝ้าแต่ตามหาวีจนแทบบ้า!ทุกครั้งที่คุณลุงของวีโทรมาบอกพี่ว่าวีเสียแล้ว พี่แทบจะหมดอาลัยตายอยาก วีรู้ไหม ว่าพี่ไม่เคยเชื่อเลยว่าวีจากพี่ไปแล้ว พี่มักจะคิดเสมอว่าวีกำลังมองดูพี่จากที่ไหนสักแห่ง!บางที..นี่อาจจะเป็นเพราะโชคชะตาฟ้าลิขิตล่ะมั้ง!”

น้ำเสียงของมนต์ตรีอ่อนโยนราวกับสายน้ำไหล เขาเหม่อมองไปข้างหน้าอย่างใจลอย

ศีรษะเล็กของจารวีค่อยๆเคลื่อนซบลงบนท่อนแขนกำยำ

มนต์ตรีสูดดมกลิ่นหอมของเส้นผมที่ปลิวมาตามลมของ ทั้งอบอุ่นและเงียบสงบ เหมือนเมื่อตอนเด็กๆ หลายครั้งที่เธอเผลอหลับในอ้อมกอดของเขา

“วี วีรู้ไหมว่าพี่รักวีแค่ไหน ถ้าพี่ยังไม่มีคู่หมั้น ตอนนี้ผู้หญิงที่จะเป็นคนรักของพี่ก็คงเป็นวี..”

“วี วีรับปากพี่สิว่าจะมีความสุข วีอย่าหลบหน้าพี่อีกเลยนะ!”

มนต์ตรีพูดพร่ำพรรณนาอย่างนั้นเนิ่นนาน จนกระทั่งดวงดาวที่ส่องแสงบนท้องฟ้าหายลับไป และถูกแทนที่ด้วยแสงอาทิตย์แรกอรุณ มนต์ตรีจึงเอ่ยเรียกเสียงเบา “วี พระอาทิตย์ขึ้นแล้วนะ..”

เขาส่งเสียงเรียกอีกครั้ง แต่จารวีไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับแม้แต่น้อย เขายื่นหน้าเข้าไปดู เธอหลับสนิทจนยากที่จะปลุกซะแล้ว

ในยามที่เธอหลับฝัน เธอดูอ่อนหวานงดงาม แพรขนตาหนาโค้งงอนอยู่บนดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย