กู้ชิงเกอกลับไปที่ห้องพร้อมสมุดรายชื่อ เธอเปิดออกดูพบว่ามีรายชื่อแขกเรียงอยู่เป็นแถว พวกเขาล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายทางฝั่งตระกูลฟู่
ส่วนด้านล่างเป็นชื่อพ่อของเธอและน้าชิว
เป็นเรื่องปกติที่พ่อและแม่จะต้องมาร่วมงานแต่งงาน กู้ชิงเกอนึกถึงใครอื่นไม่ออก
ช่างเถอะ ยังไงเธอก็ตั้งใจจะหย่าอยู่ดี งานแต่งจะถูกจัดขึ้นหรือไม่ก็ไม่ได้มีอะไรต่างไปจากเดิมสำหรับเธอ
จากนั้นกู้ชิงเกอจึงปิดสมุดรายชื่อเบาๆ
ในช่วงเย็น เธอยื่นสมุดรายชื่อคืนให้กับน้าซู อีกฝ่ายมองดูและพบว่าเธอเขียนชื่อเธอไม่ถึงครึ่ง จึงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ “คุณนายน้อยคะ นี่มัน...”
กู้ชิงเกอยิ้มจาง ๆ “แค่พ่อแม่ของฉันเต็มใจมาก็พอแล้วค่ะ เพื่อนคนอื่นๆ ของฉันอยู่ที่เมืองจิ่ง ไกลจากที่นี่มาก ฉันมีรบกวนพวกเขาดีกว่า”
เมื่อได้ยินดังนั้น น้าซูที่อยากจะพูดอะไรบางอย่างในตอนแรกก็พยักหน้ารับเมื่อนึกถึงคำพูดของคุณหญิงฟู่ “ในเมื่อคุณนายน้อยตัดสินไปแล้ว ดิฉันที่เป็นแค่คนนอกคงจะไม่โน้มน้าวต่อแล้วนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ น้าซู”
ในตอนแย็น มีเพียงกู้ชิงเกอและคุณหญิงฟู่ที่รับประทานอาหารกันบนโต๊ะยาว
แต่ดูเหมือนว่าคุณหญิงฟู่จะคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่ถูกทิ้งร้างเช่นนี้ เธอนั่งทานอาหารอย่างสง่างาม กู้ชิงเกอเหลือบมองเธอเล็กน้อย
ท่าทางการกินและการเคี้ยวนั้นช่างสง่างามอย่างยิ่ง ราวกับว่าเธอเกิดมาเพื่อเป็นภรรยาของครอบครัวคนรวยโดยธรรมชาติ
“เวลาทานอาหารก็ทานสิ จะมามัวจ้องหน้ากันทำไม?”
ดวงตาของคุณหญิงฟู่กวาดมองไปที่เธอ กู้ชิงเกอตกใจ รีบถอนสายตาออกทันทีและลดสายตาลงด้วยความลำบากใจ
คุณหญิงฟู่หยิบทิชชู่ออกมาเช็ดมุมริมฝีปากเบา ๆ แล้วพูดว่า “มารยาทอย่างเธอในตอนนี้จะผ่านงานแต่งไปได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ กู้ชิงเกอก็กัดริมฝีปากล่างเบา ๆ และพูดอย่างพิจารณา
“คุณแม่คะ หนูคิดว่าหนูกับซือหานงานยุ่งมาก งานแต่งครั้งนี้...ไม่ต้องจัดดีกว่าไหมคะ?”
วันนี้ตอนไปโรงพยาบาล ดูท่าทางคุณย่าฟู่แล้ว เธอน่าจะหายเร็วๆ นี้ใช่ไหม?
กู้ชิงเกอรู้สึกว่าอีกไม่นานเธอจะถูกไล่ออกจากคฤหาสน์ตระกูลฟู่
“ทำไมล่ะ? นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิง เลยนะ เธอไม่ต้องการแม้แต่งานเลี้ยงตอนแต่งงานงั้นเหรอ?” คุณหญิงฟู่รู้สึกประหลาดใจ แต่ยังคงถามด้วยท่าทางสงบ
กู้ชิงเกอเม้มริมฝีปากแต่ไม่ตอบ
“เอาล่ะ นี่เป็นผลเอกฉันท์ของพ่อเธอกับย่าของเขา เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เข้าใจไหม?”
เมื่อได้ยินดังนั้น กู้ชิงเกอก็เข้าใจในทันทีว่าตั้งแต่เธอยอมรับตั๋วเครื่องบินใบนั้น เธอได้สูญเสียอิสรภาพ และชะตากรรมของเธออยู่ในมือผู้อื่นไปเสียแล้ว
เธอทำได้เพียงยอมรับมันเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบ คุณหญิงฟู่ก็วางผ้าเช็ดปากไว้ข้างๆ จากนั้นมองไปที่น้าซูแล้วพูดว่า “พาเธอไปเปิดหูเปิดตาที่งานเลี้ยงคืนนี้สักหน่อย ตระกูลฟู่จะได้ไม่ต้องอับอายในงานแต่งที่จะจัดขึ้น”
หลังจากพูดจบคุณหญิงฟู่ก็ลุกขึ้นอย่างสง่างามและเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน
กู้ชิงเกอมองตามไป ก่อนที่น้าซูจะเดินเข้ามา “คุณนายน้อย ตามดิฉันมาหลังจากทานอาหารเสร็จนะคะ”
หลังอาหารเย็น กู้ชิงเกอเปลี่ยนเป็นชุดราตรีที่น้าซูเตรียมไว้ให้
เดรสเกาะอกสีขาวมุกและรองเท้าส้นสูงคริสตัลราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย
ทำให้กู้ชิงเกอลังเลที่จะใส่มันในตอนแรก
ต่อมาเธอเปลี่ยนไปตามคำยุยงของน้าซู
เธอยืนอยู่หน้ากระจกและมองดูผู้หญิงที่เหมือนเจ้าหญิงในกระจกด้วยความรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน