“คุณชายฉิน!” หลี่ซีหยุนเอื้อมมือไปจับมืออีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว “อย่าไปเลยค่ะ จนกว่าเราจะรู้แน่ชัดว่าเธอคือใคร”
ฉินม่อหยุดชะงัก
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หันพูดอย่างเหนื่อยหน่ายว่า “อันที่จริง ไม่ว่าคุณจะพิสูจน์ตัวตนของใคร มันก็ไม่เกี่ยวกับผมอยู่ดี”
หลังจากพูดจบ เขาก็ดึงมือออกแล้วเดินไปหากู้ชิงเกอ
เสื้อนอกถูกคลุมทับร่างของกู้ชิงเกอ เมื่อเธอกลับมามีสติและเงยหน้าขึ้น ก็เห็นฉินม่อเอื้อมมือเข้ามาช่วยพยุง “คุณโอเคไหม?”
เสียงของเขาแผ่วเบาราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
กู้ชิงเกอส่ายหัว “ฉันโอเคค่ะ”
“ออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ” ฉินม่อพยุงตัวเธอขึ้นโดยอยากจะพาเธอออกไป แต่ในตอนนั้นเอง หลี่ซิงอ้ายก็พาประธานกู้มาถึงพอดี
“ประธานกู้มาแล้ว!”
หลี่ซิงอ้ายดึงตาแก่กู้ไปที่ด้านหน้าขอ กู้ชิงเกอ “ประธานกู้คะ ผู้หญิงคนนี้อ้างว่าเป็นลูกสาวของตระกูลกู้ของคุณ คุณช่วยยืนยันกับพวกเราหน่อยได้ไหวว่าเธอใช่ลูกสาวจริงๆ ของคุณหรือเปล่า?”
ตาแก่กู้ซึ่งดื่มไป 2-3 แก้วก่อนถูกลากมาที่นี่ เมื่อเห็นสาวสวยในชุดสีขาวยืนอยู่ตรงหน้า จู่ๆ เขาก็กลายเป็นคนหื่นกระหายทันที พร้อมกับแสดงรอยยิ้มสกปรก
“ว่าไงจ๊ะ คนสวย... เธอนี่สวยจริงๆ ใบหน้านั่นคงจะนิ่มน่าดูเลยนะ”
หลังจากพูดจบ เขาก็เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของกู้ชิงเกอ
เมื่อคนอื่นเห็นฉากนั้นจึงเข้าใจความจริงของเรื่องทันที
มือของตาแก่กู้ถูกจับค้างไว้กลางอากาศ ฉินม่อจ้องมองเขาอย่างเย็นชา
ตาแก่กู้ตกตะลึงเมื่อเขาพบกับดวงตาที่แหลมคมและจำอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว
“ลูกชายของตระกูลฉินนี่เอง ผู้หญิงคนนี้เป็นของคุณเหรอ?”
ฉินม่อมองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะปล่อยมือ
ตาแก่กู้ถอยหลังไปสองสามก้าว หลี่ซิงอ้ายรีบก้าวไปข้างหน้าทันที และชี้ไปที่กู้ชิงเกอ ในอ้อมแขนของฉินม่อ “ประธานกู้ ผู้หญิงคนนี้อ้างว่าเป็นลูกสาวของคุณ”
“ลูกสาวของฉัน?” ตาแก่กู้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะรู้ตัว
หลี่ซิงอ้ายก้าวไปข้างหน้า พลางเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจและมองไปที่กู้ชิงเกอ “ใช่ เธออ้างว่าเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลกู้ ประธานกู้ เธอเป็นลูกสาวของคุณจริงๆ ไหมคะ?”
หลี่ซือหยุนรีบก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน “คุณมองให้ชัดสิคะ คุณมีลูกสาวโตขนาดนี้เลยเหรอคะ?”
ตาแก่กู้จ้องมองใบหน้าของกู้ชิงเกออย่างระมัดระวังครู่หนึ่งแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “คนสวย เธออ้างตัวว่าเป็นลูกสาวงฉัน อยากให้ฉันเป็นพ่อทูนหัวของเธอเหรอ?”
พ่อทูนหัว...
'พ่อทูนหัว' ที่ตาแก่กู้หมายถึงนั้นทุกคนย่อมรู้ดี
ลูกบุญธรรมก็คือ...
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกใจ
หลี่ซือหยุนหันมอง เธอก้าวมาข้างหน้าทันทีและพูดว่า “คุณชายฉิน ผู้หญิงคนนี้ไร้ยางอายมาก เธอแอบเข้ามาในงานเลี้ยง แถมยังแสร้งทำเป็นลูกสาวของประธานกู้อีก หน้าด้านที่สุด!”
กู้ชิงเกอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอแค่ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว “ฉันไม่เคยพูดแบบนั้นสักหน่อย”
ฉินม่อขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน ตอนแรกเธอบอกเพียงว่าเธอชื่อกู้ชิงเกอ แต่เธอไม่ได้บอกว่าเป็นลูกสาวของใคร แต่เป็นเขาเองที่เข้าใจไปว่าเป็นเธอลูกสาวของประธานกู้
ยังไงซะในเมืองจิ่งก็มีเพียงแค่กู้ซื่อ กรุ๊ปเท่านั้นที่สามารถร่วมงานเลี้ยงวันนี้ได้ใช่ไหม?
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเธอเป็นลูกสาวของประธานกู้โดยอัตโนมัติ
แล้วเรื่องตรงหน้านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“บอกฉันมาว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง เป็นญาติของพนักงานสักคนเหรอ?เธอใช้วิธีสกปรกแบบไหนกันแน่?” หลี่ซิงอ้ายเปิดเผยตัวตนของเธอเสียงดังโดยเจตนา ตาแก่กู้ก็สนใจเช่นกัน เขาจ้องไปที่เธอแล้วพูดว่า “คนสวย ถ้าเธอยินดีรับฉันเป็นพ่อทูนหัวละก็...ฉันจะยอมรับเธอเป็นลูกสาว แล้วเธอก็จะได้อยู่ในงานเลี้ยงคืนนี้ต่ออย่างสมเหตุสมผล”
กู้ชิงเกอเหลือบมองเขา คนประเภทนี้จะมีนามสกุลเดียวกับเธอได้อย่างไร
“ไม่มีทาง ผู้หญิงคนนี้มีบางอย่างเกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่งั้นเหรอ? ชุดของเธอคือชุดที่ถูกประมูลไปหลายล้านครั้งเมื่อคราวก่อน แปลว่าไม่ใช่ของปลอมเหรอ?”
“กล้าพูดว่าตระกูลฟู่สวมของปลอม เธออยากตายหรือไง?”
“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย ลูกสาวคนรองตระกูลหลี่ต่างหากที่เป็นคนพูด”
ทันใดนั้นเธอก็ชี้นิ้วไปที่หลี่ซิงอ้าย
หลี่ซิงอ้ายรู้สึกตกใจเล็กน้อย หลังจากได้ยินเกี่ยวกับตระกูลฟู่
ยัยผู้หญิงขี้ขลาดตาขาวคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่ได้ยังไง? ถ้าเธอมีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่จริงๆ ล่ะ? แปลว่าวันนี้เธอเหยียบกับระเบิดเข้าให้แล้วใช่ไหม?
“พี่ใหญ่” หลี่ซิงอ้ายหันไปมองหลี่ซือหยุน
หลี่ซือหยุนครุ่นคิด เมื่อเห็นฉินม่อปกป้องกู้ชิงเกอ เธอก็รู้สึกรำคาญมาก แต่ความคิดของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เธอเหลือบมองที่หลี่ซิงอ้ายและพูดอย่างใจเย็น “เธอเชื่อคำพูดของคนพวกนั้นเหรอ?ถ้ามันมาจากตระกูลฟู่จริงๆ ทำไมเธอถึงไม่ประกาศชื่อเมื่อกี้เลยล่ะ?แล้วทำไมคนจากตระกูลฟู่ไม่ตามมา ”
หลี่ซิงอ้ายรีบพูดเสริมทันที
“นั่นสิ แค่คำพูดจากคนไม่กี่คน มีหลักฐานไหมล่ะ?”
“หลักฐาน?” คนจุดประเด็นตกตะลึงทันที “ก็ฉันเพิ่งเห็นตอนที่อยู่หน้าประตูนี้เอง”
“เห็น? หมายความว่าไม่มีพยานใช่ไหม?”
“ฉัน...” จู่ๆ ชายคนนั้นก็ลังเล
เขาแค่บังเอิญผ่านไปเห็นเท่านั้น โชคดีที่ตอนนั้นมีคนไม่มากนัก
แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเห็นเหมือนกัน
ตอนนี้ไม่มีใครเป็นพยานให้เธอ
“หาหลักฐานน่ะไม่ยากหรอก ฉันได้ยินมาว่าคุณชายฟู่ก็มาที่นี่ในวันนี้เช่นกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน