“อะไรนะ?”
ทุกคนตกอยู่ในความโกลาหล “คุณชายฟู่อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? ทำไมพวกเราถึงไม่เห็นล่ะ?”
“โธ่ คุณชายฟู่เป็นที่อยากเจอเมื่อไรก็ได้หรือไง เขาน่ะได้รับเชิญให้ขึ้นไปข้างบน เป็นแขกผู้มีเกียรติต่างหาก”
“ใช่ ถ้าอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่หรือไม่ ค่อยถามคุณชายฟู่ทีหลังก็แล้วกัน”
อะไรนะ? ฟู่ซือหานก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ?
เมื่อนึกถึงใบหน้าเฉยเมย ร่างกายของกู้ชิงเกอก็สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้
เขาเกลียดเธอมากพอแล้ว ถ้าเขารู้ว่าวันนี้เธอทำให้ตระกูลฟู่อับอาย เขาคงอยากบีบคอเธอให้ตายคามือเลยใช่ไหม?
แน่นอนที่สุด……
ฉินม่อสัมผัสได้ถึงความกลัวของหญิงสาว
หลี่ซือหยุนเองก็เช่นกัน
“ฉันค่อนข้างสนิทกับคุณลุงฉาง เจ้าของงานเลี้ยงคืนนี้ ในเมื่อคุณชายฟู่มางานนี้ด้วย งั้นฉันจะลองไปเชิญคุณชายฟู่มายืนยันว่าหล่อนเป็นคนของตระกูลฟู่หรือเปล่า?”
“ดีเลย”
จากนั้นหลี่ซือหยุนจึงเรียกผู้จัดการงานเลี้ยงมาคุย และหลังจากกระซิบกระซาบสองสามคำ ผู้จัดการก็รีบเดินออกไปทันที
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคุณชายฟู่ก็มา เมื่อถึงตอนนั้น...พวกเราต้องรู้ความจริงกันอย่างแน่นอน”
“ลูกสาวตระกูลหลี่นี่สุดยอดไปเลย สามารถเชิญคุณชายฟู่ได้ด้วย”
“ใช่ ฉันอิจฉาจริงๆ”
เมื่อได้ยินว่าพวกเธอกำลังจะเชิญฟู่ซือหานมาที่นี่
กู้ชิงเกอก็รู้สึกประหม่าและความกังวลใจทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมาจากดวงตา
แต่ฉินม่อดูออก เขาจึงกระซิบ “เป็นอะไรเหรอ?”
ทันใดนั้นกู้ชิงเกอก็ผละออกจากอ้อมแขนของเขาและต้องการออกไปข้างนอก
“เธอจะไปไหน?” หลี่ซิงอ้ายหยุดเธอ ก่อนเชิดคางและเยาะเย้ยต่อว่า “คงไม่ได้กลัวเพราะเราเชิญคุณชายฟู่มาหรอกนะ?”
กู้ชิงเกอถูกขวางเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินเลี่ยงไปทางซ้าย แต่กลับมีคนมาขวางเธออีกครั้ง เมื่อเธออ้อมไปทางขวาก็มีคนมาขวางเธอไว้อีก
“จะหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว”
หนึ่งในนั้นยื่นมือออกมาและผลักเธออย่างแรง
“โอ๊ย!” กู้ชิงเกออุทาน ก่อนจะเซไปอีกฝั่งอย่างควบคุมไม่ได้
โชคดีที่ฉินม่อพยุงเธอไว้ได้ทันเวลา
“คุณโอเคหรือเปล่า?”
กู้ชิงเกอต้องการที่จะผลักเขาออกไปด้วยความตื่นตระหนก แต่ฉินม่อคว้าข้อมือเรียวของเธอไว้แน่นแล้วกระซิบข้างหู
“ผมช่วยคุณได้นะ ถ้าคุณต้องการ ”
เมื่อได้ดังนั้น กู้ชิงเกอเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินม่อได้พบกับดวงตาที่บริสุทธิ์เหมือนกับฤดูใบไม้ผลิบนภูเขา บริสุทธิ์จนไม่มีคำบรรยายใดๆ
เขาต้องการช่วยเธอจากหัวใจ
“ไม่ ไม่จำเป็นค่ะ...” กู้ชิงเกอชักมือออกอย่างกระวนกระวายและกระซิบ “ขอบคุณนะคะ แต่ฉันเป็นภาระคุณไม่ได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินม่อก็ยิ้มออกมาอย่างเฉยเมย
“ภาระอะไร? แค่ผมเอ่ยปาก พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก”
“คุณชายฉิน ยัยยี่น่ะเจ้าเล่ห์มาก เธอบอกว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่ คุณรีบปล่อยมือจากเธอเถอะค่ะ ถ้าคุณชายฟู่มาถึงที่นี่ เธอคงอยู่เมืองจิ่งต่อไปไม่ได้แล้ว”
หลี่ซิงอ้ายทวงความยุติธรรมให้พี่สาวตนเอง
ขณะที่ฉินม่อกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ฝูงชนก็ส่งเสียงดัง
“มีคนกำลังลงมา”
“ประธานฉาง!”
ชายวัยกลางคนดูสง่างามเดินลงมาจากบันได เมื่อเขาเห็นผู้คนที่มารวมตัวกันก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย
พ่อบ้านมาบอกเขาว่ามีคนจากตระกูลฟู่มาที่นี่ ขอให้เขารีบลงมาทักทาย
ขณะนั้นเขากำลังคุยเรื่องสัญญากับฟู่ซือหานอยู่พอดี เมื่อได้ยินคำว่าตระกูลฟู่ ฟู่ซือหานซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามจึงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว
ฉางจิ้งถามขึ้น
“นายรู้ไหมว่าใคร?”
พ่อบ้านส่ายหัว “ผมไม่แน่ใจครับ แต่มีคนบอกว่าเป็นเด็กผู้หญิง...” พ่อบ้านเหลือบมองฟู่ซือหานด้วยความสับสนเล็กน้อย ลังเลว่าจะพูดต่อดีหรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน