กู้ชิงเกอหลบเข้าไปในห้องน้ำ หลังจากปิดประตูแล้วถึงได้คิดที่จะนั่งยองลงยกกระโปรงขึ้นมา เสื้อสูทที่อยู่บนไหล่ร่วงตกลง
ตอนนี้เธอถึงนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังคงใส่เสื้อสูทของเขาอยู่ กู้ชิงเกอทำได้แค่วางน้ำมันลงบนโต๊ะที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็ถอดเสื้อสูทออก
อดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ยกกระโปรงขึ้นมา ทายาที่แผลให้กับตัวเอง
หลังจากที่ทายาเสร็จแล้ว กู้ชิงเกอก็รู้สึกเจ็บปวดจนอดกลั้นไม่ไหวแล้ว เธอกัดริมฝีปากไว้แน่น ถอดชุดเดรสสีขาวมุกของตัวเองออก จากนั้นก็ไปเปิดฝักบัวอาบน้ำ
ตอนที่เธออาบน้ำเสร็จ กู้ชิงเกอถึงได้ตระหนักถึงเรื่องที่ร้ายแรงขึ้นมาได้หนึ่งเรื่อง
นั่นมัน……
ตอนที่เธอเข้ามาในห้องน้ำ เธอลืมเอาเสื้อเข้ามาด้วย
สีหน้าของกู้ชิงเกอซีดขาวลงไม่น้อย กัดริมฝีปากตัวเองด้วยความหงุดหงิด
ซวยแล้ว เธอลืมเอาเสื้อเข้ามา ทำยังไงดี?
เลือดที่หน้าของกู้ชิงเกอค่อยๆจางหายไป สองตาที่สวยดูดีหันซ้ายมองขวา เห็นข้างๆมีผ้าขนหนูอยู่หนึ่งผืน
โชคดี
เธอสีหน้าดีใจ ดึงผ้าขนหนูมาพันตัวเอง เดี๋ยวพอออกไป ก็ค่อยหยิบเสื้อผ้าเข้ามาเปลี่ยนให้เสร็จเรียบร้อย
ถึงยังไงฟู่ซือหานก็ไม่ได้สนใจในตัวของเธออยู่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องกลัวเขา
พอคิดแบบนี้ กู้ชิงเกอก็เขย่งเท้าเปลือยเปล่าไปเปิดประตูห้องน้ำก่อนจะเดินออกไป
เท้าเปล่าที่ขาวผ่องเหยียบลงบนพื้นที่เย็นยะเยือก กู้ชิงเกอไม่กล้าเดินเสียงดังออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว เหลือทิ้งไว้แค่รอยเท้าที่เปียกชื้นเอาไว้
เธอเดินไปหากระเป๋าเดินทางของตัวเอง ก่อนจะก้มตัวลงพลิกหาเสื้อผ้าข้างใน
เมื่อตะกี้ตอนที่เข้ามาในห้องนอน ไม่เห็นเงาของฟู่ซือหาน ไม่รู้ว่าเขาไปไหนแล้ว แต่กู้ชิงเกอก็ขี้เกียจจะไปสนใจเหมือนกัน ไม่ว่ายังไงเขาจะไปที่ไหน ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธออยู่แล้ว
แต่แค่ว่า……เธอมองกระเป๋าเดินทางของตัวเองที่อยู่ตรงหน้านี้ด้วยความกลัดกลุ้ม อยากที่จะพลิกเสื้อผ้าก็ยากลำบากเหลือเกิน
แม้ว่าข้าวของของเธอจะไม่เยอะ แต่ทุกครั้งที่หาแบบนี้ก็มักจะไม่ค่อยสะดวกอยู่ตลอด แต่ตอนที่เธอย้ายเข้ามา ฟู่ซือหานก็เคยเตือนเธอแล้วเหมือนกันว่า ไม่อนุญาตให้เธอเอาข้าวของใส่เข้าไปในตู้เสื้อผ้าของเขา
เขาเป็นคนรักความสะอาด
กู้ชิงเกอรู้
เธอก็เลยไม่กล้าไปท้าทายขีดจำกัดของเขา แต่เธอต้องคิดหาที่ที่ไว้วางเสื้อผ้าของตัวเองสักที่ วางเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าของเขาไม่ได้ แล้วถ้าอย่างนั้น……เพิ่มตู้เสื้อผ้าเข้ามาอีกสักตู้เป็นยังไงล่ะ?
พอคิดถึงตรงนี้ ภายในใจของกู้ชิงเกอก็รู้สึกเบิกบานใจขึ้นมา
เดี๋ยวพรุ่งนี้เธอไปซื้อตู้พลาสติกขนาดเล็กกลับมาก็ได้แล้ว ถึงยังไงของของเธอก็ไม่ได้เยอะมาก แค่ตู้ขนาดเล็กก็โอเคแล้ว
กู้ชิงเกอครุ่นคิดอย่างเบิกบานใจไปพลาง ก็หาเสื้อผ้าของตัวเองจนเจอ ดังนั้นเธอจึงปิดกระเป๋าเดินทางลง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน
แต่ว่าเพิ่งจะหันตัว กู้ชิงเกอก็อึ้งตะลึงอยู่ที่เดิม ก้าวเท้าไม่ออกแม้แต่ก้าวเดียว
ไม่รู้ว่าฟู่ซือหานมายืนอยู่ข้างหลังเธอตั้งแต่เมื่อไร กวาดสายตามองเธออย่างเย็นชาไร้อารมณ์ความรู้สึก
“……”พอได้เผชิญกับแววตาที่เย็นชาแบบนี้ของเขา กู้ชิงเกอก็รู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วทั้งตัวทันที มือที่ถือเสื้อผ้าของเธอเกร็งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
เขา……มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
แล้วมาตั้งแต่เมื่อไร?
กู้ชิงเกอพบว่าตัวเองประหม่าอย่างมาก ประหม่าถึงขนาดที่ว่ากัดริมฝีปากของตัวเองอย่างอดไม่อยู่
“มี……เรื่องอะไรเหรอ?”
เธอพูดถามขึ้นมาเบาๆ
ตาของฟู่ซือหานเหมือนกับก้อนน้ำแข็งที่เกาะรวมเข้าด้วยกันบนยอดภูเขาหิมะ ไม่ละลายตลอดทั้งปี พอเห็นสายตาของเขาแล้ว ก็เหมือนกับตัวเองยืนอยู่กลางหิมะน้ำแข็ง
ในตอนนี้ ในแววตาของเขาแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยมอยู่ไม่น้อย จากนั้นก็กวาดสายตามองพื้น
ในตอนแรกกู้ชิงเกอไม่เข้าใจ มองตามสายตาของเขาไป ถึงได้สังเกตเห็นคราบน้ำที่เหลือทิ้งไว้อยู่บนพื้นที่สะอาดสะอ้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน