เผด็จรัก หัวใจซาตาน นิยาย บท 27

ส่วนใหญ่ก็เห็นเธอแล้วก็รู้สึกรำคาญ คุณหญิงฟู่พูดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

พูดจบ เธอก็วางมีดส้อมลง จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดปากออกมาเช็ดริมฝีปาก

พอน้าซูเห็นแบบนี้ก็รีบตรงเข้าไปพูดขึ้น“คุณหญิง วันนี้คุณหญิงของตระกูลหยูนัดท่านไปสถานเสริมความงามค่ะ”

พอได้ยินแบบนี้ คุณหญิงฟู่หยุดชะงัก เหมือนกับกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ผ่านไปสักพักถึงพูดขึ้นมา“ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปเตรียมตัวสักหน่อยแล้วกัน”

พวกเธอจึงเดินขึ้นไปชั้นบน

ที่โต๊ะอาหารเหลือแค่กู้ชิงเกอกับฟู่ซือหานสองคน

ฟู่ซือหานกินอาหารเช้าของเขาอย่างไม่แยแสสนใจใคร แต่กู้ชิงเกอกลับไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว นั่งถือส้อมจิ้มอาหารในจานด้วยสีหน้าซีดขาว ไม่ได้เอาเข้าไปในปากตั้งต้นจนจบ

ฟู่ซือหานสังเกตเห็นแล้ว หัวเราะเยาะออกมาอย่างช่วยไม่ได้

ไม่แปลกที่ตัวเล็กผอมขนาดนี้ เขาหรี่ตาลง จู่ๆก็รู้สึกอยากรู้อายุของเธอขึ้นมา

สาวน้อยคนนี้คงจะยังไม่บรรลุนิติภาวะใช่ไหม?

พอคิดแบบนี้ ฟู่ซือหานก็ขมวดคิ้ว เขาแต่งงานกับสาวน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอ?

พอคิดถึงตรงนี้ ฟู่ซือหานก็มองสำรวจใบหน้าของเธอ สายตาเลื่อนลงมองไปยังจุดที่มันนูนเด้งออกมา

เขาจำความรู้สึกสัมผัสที่มือในตอนนั้นได้ แม้ว่าสาวน้อยคนนี้จะดูแล้วตัวเล็กผอม แต่กลับมีของอยู่เหมือนกัน น่าจะบรรลุนิติภาวะแล้ว

กู้ชิงเกอถูกสายตาของเขามองจนรู้สึกอึดอัด ดังนั้นจึงเงยขึ้นมามองสบตากับฟู่ซือหาน แต่ปรากฏว่าเห็นเขายังคงมองตัวเองอยู่ ทำได้แค่สบตากับเขาไปตรงๆ

ฟู่ซือหานมองสำรวจเสร็จถึงได้พบว่าสายตาของสาวน้อยคนนั้นไม่รู้ว่าหันมามองที่ตัวเองตั้งแต่เมื่อไร แต่บังเอิญสบกับตาของเขาเข้าพอดี เขาพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน“มองพอแล้วยัง?”

พอได้ฟังแบบนั้น กู้ชิงเกอถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา ก้มหน้าลงด้วยความคับข้องใจ

ทำไมถึงว่าเธออีกแล้ว?

เห็นๆอยู่ว่าเขาเป็นฝ่ายมองเธอก่อน เธอจะมองกลับไปบ้างมันไม่ได้หรือไง?

“บ่นพึมพำอะไร? แอบด่าฉัน?”เสียงที่เยือกเย็นของฟู่ซือหานดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำเอากู้ชิงเกอสะดุ้งตกใจ เงยหน้าขึ้นมาทันที ก่อนจะส่ายหัว“เปล่านะ ฉันไม่ได้ด่าคุณ”

“เหอะ คาดว่าเธอก็ไม่กล้าเหมือนกัน”

ที่มองไปเมื่อตะกี้นี้ ภายในใจของฟู่ซือหานก็เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมานิดหน่อย ไม่มีกะจิตกะใจจะกินอีกแล้ว วางมีดส้อมลงก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไปทันที

เหลือเพียงแค่กู้ชิงเกอนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารตามลำพัง แล้วก็สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆสองสามคน

กู้ชิงเกอรู้สึกคับอกคับใจ

รู้สึกว่าวันนี้ฟู่ซือหานแปลกประหลาดอยู่นิดหน่อย

แถมตระกูลฟู่ก็ใหญ่ขนาดนี้ ตอนเช้าก็กินอาหารเช้ากันไม่กี่คน บางครั้งก็แทบจะไม่เห็นตัวฟู่ซือหานเลย ที่สำคัญที่สุด เธอมานานขนาดนี้ กินอาหารเช้ามาหลายวันขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะไม่ได้เห็นพ่อของฟู่ซือหานเลยสักครั้งเดียว

มีแค่เคยเจอกันหนึ่งครั้งตอนที่อยู่ในห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลในวันนั้น หลังจากนั้นตอนที่ทำเรื่องทะเบียนสมรสก็เคยเจอกันอีกหนึ่งครั้ง จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้เห็นอีกแล้ว

แต่นับดูแล้วช่วงวันเวลาที่เธอมาตระกูลฟู่ก็ถือว่าไม่เยอะ จะเจอแค่ไม่กี่ครั้งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

กู้ชิงเกอก้มหน้ากินอาหารเช้า แต่จู่ๆก็ได้ยินเสียงกระซิบของพวกสาวรับใช้ที่อยู่ข้างหลัง

“ดูสิ คุณชายทิ้งเธอเอาไว้ส่วนตัวเองเดินไปแล้ว”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว คุณชายของพวกเราไม่ได้ชอบเธอเลย จะให้มานั่งทานอาหารเช้ากับเธอได้ยังไง? ผู้หญิงแบบนี้ คุณชายขอพวกเราไม่เห็นอยู่ในสายตาอยู่แล้ว”

“ก็ใช่ ถึงยังไงคนที่มาจากเมืองเล็กๆ จะคู่ควรกับคุณชายของพวกเราได้ยังไง เธอดูสิคุณชายแม้แต่จะมองเธอตรงๆยังไม่มองเลย ฉันดูๆแล้ว อีกไม่นานผู้หญิงคนนี้ก็จะถูกไล่ออกจากตระกูลฟู่แน่ๆ”

“ชู่ว์ จะถูกไล่ออกจากตระกูลฟู่หรือเปล่ามันก็ไม่แน่หรอกนะ ได้ยินมาว่าเธอเป็นถึงคนที่คุณย่าฟู่เอ่ยปากเลือกออกมาด้วยตัวเองเลยนะ”

“ชิ แล้วมันสุดยอดตรงไหนกัน คุณย่าฟู่อายุมากแล้ว จะอยู่ปกป้องเธอได้อีกนานสักแค่ไหนกันเชียว?”

“ก็ใช่”

เหล่าพวกคนรับใช้พูดคุยซุบซิบกัน นึกว่ากู้ชิงเกอฟังไม่ได้ยิน

มือที่จับมีดส้อมของกู้ชิงเกอกลับกำแน่นแล้วแน่นอีก สีหน้าซีดเผือด พวกเธอนึกว่าตัวเองไม่ได้ยิน แต่ว่าคำพูดพวกนั้นกลับได้ยินเข้ามาในหูของเธอทุกคำทุกประโยค

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ที่เธอมาที่ตระกูลฟู่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย คนพวกนั้นไม่ใช่แค่ดูถูกเธอ แม้แต่คนรับใช้พวกนี้ ก็ยังดูถูกเธอเหมือนกัน

แม่

นี่คือสิ่งที่แม่คาดหวังอย่างนั้นเหรอ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน