เจ็บ
กู้ชิงเกอใบหน้าขมวดมุ่ย
คิดในใจ ทำไมจู่ๆเขาถึงกลับมาแล้วล่ะ?
กู้ชิงเกอหันหน้าไป เห็นฟู่ซือหานพุ่งเข้ามาในห้องน้ำ ก้มตัวลงเก็บสิ่งของที่อยู่บนพื้น เธอเห็นแค่ประกายแสงสีขาวนิดหน่อยเท่านั้น จากนั้นก็ถูกฟู่ซือหานเก็บเข้าไปในฝ่ามือ
ดูเหมือนว่าเขาจะหวงแหนของสิ่งนั้นมาก จ้องมองซ้ำแล้วซ้ำอีก หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าไม่เสียหายอะไร ก็เก็บของสิ่งนั้นลงไป
กู้ชิงเกอรู้สึกสงสัยมากว่า ฟู่ซือหานคนนี้ดูแล้วเย็นชา เหมือนกับไม่แยแสสนใจอะไรทั้งนั้น แล้วสิ่งของอะไรถึงสามารถทำให้เขาหวงแหนอย่างระมัดระวังขนาดนี้กันนะ?
กู้ชิงเกอรู้สึกอยากรู้อยู่ไม่น้อย ยื่นหัวอยากที่จะดู แต่ฟู่ซือหานกลับเก็บของกลับไปแล้ว กู้ชิงเกอก็เลยมองไม่เห็น
หลังจากที่ฟู่ซือหานเก็บของไปแล้วก็หันตัวมา ทั้งสองคนสบตากันเข้าพอดี
“ต่อไป ถ้าฉันไม่อนุญาต ห้ามเธอแตะต้องของของฉันเด็ดขาด”น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นเหมือนกับเกล็ดน้ำแข็งร่วงตกลงบนตัวของกู้ชิงเกอ ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด
กู้ชิงเกอเม้มปาก ไม่ได้ตอบกลับ
ผ่านไปสักพักเธอถึงได้เอื้อมมือค้ำกำแพงลุกขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะหันตัวเดินตรงไปที่โซฟาด้วยความดื้อรั้น
“ไม่ได้ยินที่พูดกับเธอหรือไง?”
พอฟู่ซือหานเห็นว่าเธอไม่สนใจตัวเอง ไฟโกรธก็ลุกลามขึ้นมาทันที
พอได้ยินแบบนั้น กู้ชิงเกอก็หยุดฝีเท้าลง เธอไม่หันหน้ากลับมา แค่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ไม่เหมือนกับท่าทางที่ดื้อรั้นของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
“คุณเป็นคนให้ฉันยืมเสื้อสูท ฉันก็แค่อยากจะซักให้กับคุณก็เท่านั้นเอง”
พูดจบ เธอก็หยุดอยู่สักพัก ก่อนจะพูดขึ้นมาอีก“คุณบอกเองว่าให้ทิ้งมันลงไปในถังขยะ คุณไม่ต้องการของสิ่งนี้แล้ว ฉันเองก็ไม่รู้ว่าข้างในมีของอะไรอยู่ แล้วฉันก็ไม่ได้แตะต้องของของคุณด้วยเหมือนกัน”
ฟู่ซือหานยกคิ้วขึ้น นี่เธอยังเถียงอีกเหรอ??
เขาเดินอ้อมไปอยู่ตรงหน้าเธอ เห็นเธอหนังตาตก สีหน้าดูนิ่งเฉย ฟู่ซือหานก็ยิ่งโมโหมากขึ้น ยื่นมือออกไปบีบกรามของเธอเอาไว้
“ฉันบอกว่าเอามันไปทิ้ง แล้วมันก็กลายเป็นของของเธอเลยงั้นเหรอ?”
แววตาของกู้ชิงเกอใสแป๋ว เหมือนกับน้ำในทะเลสาบที่นิ่งสงบ ไม่ว่าจะตีหรือจะคนยังไง เธอก็ไม่เกิดความสั่นสะเทือนใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว
“ฉันไม่ได้บอกว่ามันเป็นของฉัน ฉันแค่แตะต้องของของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ”กู้ชิงเกอเปิดปากพูดปฏิเสธด้วยความอึดอัดคับข้องใจ
ฟู่ซือหานหรี่ตาลง จ้องมองเธอด้วยความโหดเหี้ยม
“คุณได้ของของคุณไปแล้ว ทีนี้ปล่อยฉันไปได้แล้วยัง?”กู้ชิงเกอพูดจบ ก็ไม่รอให้เขาปล่อยออก ผลักมือของฟู่ซือหานออกไปด้วยตัวเอง จากนั้นก็เดินตรงไปที่โซฟาอย่างอดกลั้นเอาไว้
มองดูเงาหลังของเธอที่กำลังอดกลั้นไว้ ฟู่ซือหานกลับพูดอย่างปากคอเราะรายออกมา“ขายังไม่พิการเหรอ?”
พอได้ยินแบบนั้น ไฟโกรธของกู้ชิงเกอก็ระเบิดออกมาทันที หันหน้าไปตะโกนใส่เขา
“ฉันจะพิการหรือไม่พิการมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย? คุณอยากจะให้ฉันพิการไปเร็วๆใช่ไหม? จะได้ให้ฉันถือโอกาสนี้ไสหัวออกไปจากตระกูลฟู่? ฉันจะบอกคุณให้นะ แผนของคุณไม่มีทางสำเร็จแน่นอน”
กระต่ายคลุ้มคลั่งแล้ว
ตอนที่เห็นเธอเงยใบหน้าที่โมโหมาหาตัวเอง ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวของฟู่ซือหาน
แต่ดูจากท่าทางของเธอแล้ว ขาวนวลนุ่มนิ่ม เหมือนกับกระต่ายขาวตัวน้อยที่ไร้เดียงสาจริงๆ
แต่ใครจะไปรู้ว่า กระต่ายก็มีช่วงเวลาที่โมโหเกรี้ยวกราดเหมือนกัน แถมพลังในการทำลายล้างก็ไม่ธรรมอีกด้วย
เหอะ
ฟู่ซือหานยกริมฝีปาก ยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“เธอมาตะโกนเสียงดังใส่ฉันแบบนี้ ไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน?”
กู้ชิงเกออึ้งตะลึงไป ก่อนจะมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว ที่นี่เป็นบ้านของเขา ตัวเองมาตะโกนเสียงดังใส่เขาแบบนี้ จะต้องถูกเขาไล่ออกแน่ๆ
แต่ว่าภายในใจของเธอก็รู้สึกอัดอั้นอย่างมาก เห็นๆอยู่ว่าไม่ได้แตะต้องของของเขาเลยด้วยซ้ำ แต่เขากลับดุร้ายขนาดนี้ ทำไมเธอถึงต้องมาถูกกดขี่ข่มเหงแบบนี้ด้วย
เรื่องที่เธอไม่ได้ทำ เธอไม่ยอมรับ
แต่กู้ชิงเกอก็ขี้เกียจที่จะไปโต้แย้งกับเขา หันตัวไปไม่แยแสสนใจเขา
ข้างหลังนิ่งเงียบไปสักพัก กู้ชิงเกอก็ขี้เกียจจะที่ไปดูว่าเขามีสีหน้าท่าทางอะไร ล้มตัวนอนลงบนโซฟาของตัวเองไปทันที
ตอนที่เธอนอนลง กระโปรงก็ถกขึ้นมา เผยให้เห็นถึงหัวเข่าที่ได้รับบาดเจ็บอย่างพอดี
สีแดงสด
ฟู่ซือหานหรี่ตาที่เยือกเย็นลง
ในที่สุดภายในห้องก็นิ่งเงียบลง หลังจากที่กู้ชิงเกอได้ยินเสียงปิดประตูแล้ว ถึงได้ลืมตาขึ้นมาอย่างเงียบๆ จากนั้นก็จ้องมองเพดานสีขาวอย่างสงบนิ่ง
ที่นี่……ทุกสิ่งทุกอย่างมันสวยงามไปหมด
เธอแต่งงานกับเขา เข้ามาอยู่ในห้องใหญ่โตที่แสนสวยงาม สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพง ถึงขนาดที่เข้าร่วมงานเลี้ยงของสังคมชั้นสูงตามความปรารถนาของแม่แล้ว
นอกจากนี้ เธอยังมีสถานภาพที่ผู้หญิงมากมายนับไม่ถ้วนต่างก็อิจฉาอีกด้วย
ในสายตาของคนอื่น จะรู้สึกว่าเธอมีความสุขอย่างมาก แต่ใครจะไปรู้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวภายในใจของเธอ?
เธอ……ไม่เคยต้องการชีวิตแบบนี้เลย
ชั้นล่าง
ตอนที่ฟู่ซือหานลงมาชั้นล่าง บังเอิญเจอน้าซูกำลังจะขึ้นชั้นบนพอดี ในมือของเธอถือสิ่งของอยู่
“คุณชาย”น้าซูกล่าวทักทายกับเขา
ไม่รู้ว่าทำไม ฟู่ซือหานถึงเรียกเธอเอาไว้โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
“น้าซู”
พอได้ยินแบบนั้น น้าซูก็หยุดฝีเท้าลง เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความสงสัย“คุณชาย มีเรื่องอะไรเหรอคะ?”
ฟู่ซือหานอ้าริมฝีปากที่เยือกเย็นเล็กน้อย
“อาการบาดเจ็บของผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
ตอนแรกน้าซูไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นที่เขาพูดถึงคือใคร หลังจากที่เห็นสีหน้าท่าทางที่หมดความอดทนของฟู่ซือหาน น้าซูถึงได้ตอบสนองกลับมาทันทีว่า คุณชายหมายถึงกู้ชิงเกอ
“คุณชายหมายถึงแผลที่หัวเข่าของคุณนายน้อยสินะคะ? ดิฉันยังไม่เห็นเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
งั้นเหรอ?
ฟู่ซือหานตอบกลับภายในใจ
“คุณชายคะ คุณนายน้อยบาดเจ็บสาหัสใช่ไหม?”น้าซูพูดถามลองเชิงขึ้นมา
พอได้ยินแบบนั้น ฟู่ซือหานก็เบี่ยงหน้าไปด้วยความอึดอัด ก่อนจะทำเป็นพูดขึ้นอย่างไม่แยแสสนใจด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เธอจะบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ผมจะไปรู้ได้ยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน