ฟู่ซือหานขมวดคิ้วแน่น ดวงดั่งพญาเหยี่ยวแสดงแววตาคมกริบ อาศัยแสงจันทร์นวลผ่องจึงเดินมาถึงขอบเตียง พลันมองเห็นว่ามีผู้หญิงรูปร่างอรชรคนหนึ่งนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม
“อื้อ...” กู้ชิงเกอนอนหลับสนิท เมื่อพลิกตัวจึงส่งเสียงงึมงำออกมาเล็กน้อย แต่จู่ๆ ก็มีคนดึงผ้าห่มบนตัวออก เพราะว่าเธอห่อตัวในผ้าห่ม ซึ่งการถูกดึงผ้าห่มออกมาในเวลาเดียวกันนั้น จนทำให้ร่างกายไร้การควบคุมพลันหล่นลงไปอยู่ที่พื้นอันเย็นเฉียบ
เจ็บจัง --
กู้ชิงเกอเอามือกุมศีรษะที่หล่นกระแทกอย่างเจ็บปวดพลันลุกขึ้นยืนอย่างมึนงง ยังไม่ทันรอให้เธอได้ตั้งสติทัน มีคนเปิดไฟภายในห้องเดี๋ยวนั้นเลย
แสงไฟสว่างวาบไปทั่วห้องจนทำให้เธอหรี่ตาอันสดใสเล็กน้อยเพราะปรับสายตาไม่ทัน
ดวงตาสีดำขลับอันแสนชั่วร้ายและมีเสน่ห์ที่ประดับอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลา หน้าตาของเขาก็เหมือนจิตรกรใช้ปลายพู่กันรังสรรค์บรรจงขึ้นมาอย่างประณีต ริมฝีปากบางเม้มปิดสนิทราวกับเส้นขีดตรง
จู่ๆ กู้ชิงเกอพลันคิดถึงคำพูดประโยคหนึ่ง
คนที่มีริมฝีปากบางเป็นคนไร้ความรู้สึกที่สุด
แต่ ณ ขณะนี้เธอไม่ควรจะสนใจกับปัญหานี้นี่ ส่วนผู้ชายหน้าตาดีคนนี้ปรากฏว่าเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!!!
แววตาดั่งคบเพลิงของฟู่ซือหานจ้องมองเธอตาเขม็ง
“เธอเป็นใคร?”
กู้ชิงเกอรีบเอามือขวางกั้นช่วงหน้าอกอย่างเต็มที่ และจ้องมองผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาที่จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวอยู่ในห้องของเธอเพื่อเป็นการป้องกันตัวอย่างทันท่วงที
“หึ” ฟู่ซือหานแสยะยิ้ม “นี่มันห้องผม”
อะไรนะ?
กู้ชิงเกอคิดว่าตนเองหูฝาดไปแล้ว
“นี่มันห้องคุณเหรอ?”
งั้นก็หมายความว่า เขาคือคนของตระกูลฟู่? ร่างกายกู้ชิงเกอรู้สึกไม่ได้การเสียแล้ว ในเมื่อห้องนี้มีเจ้าของแล้ว แล้วทำไมน้าซูถึงได้พาเธอมาห้องนี้ล่ะ?
“ใครให้เธอเข้ามา? อีกอย่าง ใครหน้าไหนให้เธอขึ้นไปอยู่บนเตียงฉัน?” ระหว่างนั้นฟู่ซือหานชะเง้อมองตำแหน่งรอยยับย่นที่มีคนนอนอยู่บนเตียง คิ้วเข้มพลันขมวดเข้าหากันแน่น ยัยผู้หญิงบ้า
“ฉะ...”
“คุณชาย”
พลันมีเสียงเคาะประตูดังมาจากทางด้านนอก กู้ชิงเกอแหงนหน้ามอง จึงค้นพบว่าน้าซูยืนอยู่หน้าประตู และยิ้มให้ด้วยหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยม
“คุณชาย จินสวินไม่ได้อยู่ในวิลล่า ท่านนี้คือคุณหนูกู้ คุณหญิงฟู่ให้น้าพาเธอขึ้นมาอยู่ชั้นบน”
เมื่อฟู่ซือหานได้ยิน พลันหรี่ดวงตาอันชั่วร้ายชวนหลงใหลอย่างไม่ชอบใจ กลิ่นอายความเย็นเฉียบที่อยู่บนตัวเขาลากอุณหภูมิภายในห้องลดระดับจนดิ่งลงไปเยอะ
“มาพักในห้องผมเหรอ?”
“เอ่อ เรื่องนี้...” น้าซูอยู่กับคุณหญิงฟู่มาตลอด ดังนั้นจึงทราบว่ากู้ชิงเกอคนนี้ก็คือลูกสะใภ้ของตระกูลฟู่ในอนาคต ในทางกลับกันไม่ช้าเร็วก็ต้องแต่งงานกับฟู่ซือหานอยู่แล้ว ดังนั้นด้วยความหุนหันพลันแล่นมันวิ่งปรู๊ดอยู่ในหัวสมองของเธอในเวลานั้น จึงพาคนมาพักอยู่ในห้องพักของเขาโดยตรง
ประเด็นหลักก็คือปกติฟู่ซือหานกลับบ้านน้อยครั้งมาก หลักๆ แล้วก็เพื่อความสะดวก แต่ใครจะไปรู้ปรากฏว่าคุณชายดันกลับมาวันนี้อย่างประจวบเหมาะ
“อาศัยเวลาที่ผมยังไม่ระเบิดอารมณ์ รีบไสหัวออกไป” จู่ๆ ฟู่ซือหานพลันออกคำสั่งไล่แขกอย่างไม่แยแส
ไสหัวออกไป? เมื่อกู้ชิงเกอได้ยินคำคำนี้อยากจะพุ่งใส่เพื่ออธิบายหลักการให้เขาฟังสักยก แต่กลับมองเห็นน้าซูกวักมือให้เธอ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ให้เธอเดินไปหา
“คุณหนูกู้ รีบมาทางนี้เถอะค่ะ”
เขาก็คือที่ตนเองต้องแต่งงานด้วยใช่มั้ย?
แต่งงานกับคนประเภทนี้ ต่อไปจะใช้ชีวิตยังไง?
กู้ชิงเกอดำดิ่งถึงความวิตกกังวลกับอนาคตของตนเอง
ส่วนทางด้านนี้นั้น ผ้าห่มบนเตียงนอนของฟู่ซือหานถูกเก็บออกไปด้วย ความเวิ้งว้างว่างเปล่า เขาเหล่ตามองบนเตียงแวบหนึ่งด้วยความอึดอัด ริมฝีปากแสยะยิ้มออกมาอย่างดูถูกดูแคลน
พอมาถึงยัยผู้หญิงหน้าเงินก็ปรารถนาให้ท่าถึงที่ ถือว่าพยายามสุดกำลังจริงๆ
ฟู่ซือหานหันหลังและนั่งลงบนโซฟา จู่ๆ ก็ฉุกคิดอะไรได้ จึงเดินไปหยิบสร้อยคอแพลตินั่มเส้นนั้นจากถุงที่เก็บซ่อนไว้ในห้องน้ำออกมา
เมื่อมองแสงระยิบระยับทิ่มแทงตาของสร้อยคอแพลตินั่มภายใต้แสงไฟส่อง สายตาคมกริบอันซ่อนเร้นของฟู่ซือหานค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นเรื่อย
“ฉันไม่ได้ลืมตา เลยมองไม่เห็นทาง”
“แล้วคุณจะหลับตาทำไม?”
“ฉันกลัวว่าจะมองเห็นหน้าคุณ แล้วคุณจะไปปล่อยฉันไป...”
เสียงร้องไห้ฟูมฟายของสาวน้อยดังเข้าหู ฟู่ซือหานหัวเราะเยาะอย่างอดใจไม่ไหว ช่างขี้ขลาดจริงๆ
ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้พบเจอกับเด็กสาวอย่างนี้ แต่ทำไมถึงรู้สึกมีความหมายมากขนาดนั้นด้วยนะ?
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผู้หญิงพวกนั้นที่รายล้อมรอบตัวเขาทั้งวันไม่รู้ว่าดีกว่าขนาดไหน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งคือ เขาย่ำยีเธอไปแล้ว
เมื่อคืน ... ความรู้สึกรัดแน่นนั้นพิสูจน์แล้ว เธอเป็นสาวบริสุทธิ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน