คืนนี้กู้ชิงเกอนอนไม่หลับ เพิ่งมาผล็อยหลับตอนหลังเที่ยงคืนไปแล้ว ผลคือเพิ่งจะนอนหลับยังไม่ได้สักตื่นก็มีคนมาเคาะประตู ตอนที่เธอลุกออกไปเปิดประตูนั้นก็เห็นน้าซู
“Morningค่ะคุณหนูกู้”
“น้าซู สวัสดีค่ะ” กู้ชิงเกอโค้งตัวให้เธอ ถึงแม้ว่าพื้นเพทางบ้านของเธอจะเป็นคนธรรมดา แต่เธอได้รับการอบรมสั่งสอนจากมารดาเป็นอย่างดีตั้งแต่เด็ก
“คุณหญิงให้คุณหนูกู้ลงไปกินข้าวเช้าทางด้านล่างค่ะ”
“ตกลงค่ะ งั้นหนูขอไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน”
ดังนั้นกู้ชิงเกอล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าและลงมาชั้นล่างพร้อมกับน้าซู แต่ก็เห็นฟู่ซือหานเดินออกมาจากห้องพอดี
ต่างจากการเปลือยแผงอกกำยำของเขาเมื่อคืนนี้ สูทสีเข้มที่สั่งตัดเป็นพิเศษอย่างเรียบง่ายยิ่งสะท้อนให้เขาความหยิ่งผยองแบบไม่ถูกชะตา หน้าตาหล่อเหลาสมบูรณ์แบบตามธรรมชาติ แววตาอันเฉยเมยราวกับทะเลหมอกบนยอดเขาสูง การยืนอยู่ในจุดนั้นจนตนเองมีโลกของตนเอง
“คุณชาย”
น้าซูทักทายเขา
ฟู่ซือหานแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินพลางก้าวขาเรียวยาวลงไปชั้นล่าง
กู้ชิงเกอชะเง้อมองแผ่นหลังสูงโปร่งของเขา จนในใจสบถด่าไร้มารยาทออกมาอยู่ในใจ ต่อไปถ้าเธอแต่งงานกับคนประเภทนี้จริงๆ แล้วล่ะก็ งั้นชีวิตของเธอในอนาคตก็ต้องลำบากแน่
คุณหญิงฟู่ได้นั่งประจำที่ตรงโต๊ะทานอาหารอยู่ชั้นล่าง วันนี้เธอสวมใส่ชุดกี่เพ้าสีเหลืองขนห่าน หรูหราสง่างามมาก เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินตามหลังกันมานั้น ดวงตางดงามฉายความไม่ชอบมาพากลขึ้นมาทันที
ฟู่ซือหานเดินตรงปรี่ออกนอกบ้าน
“จะไปไหน?” คุณหญิงฟู่เอ่ยถาม
“ออกไปข้างนอก”
“วันนี้พ่อแกจะกลับมา”
เมื่อฟู่ซือหานได้ยินพลันขมวดคิ้วทันที “มาทำไม?”
“มาพูดคุยเรื่องงานแต่งของแกกับกู้ชิงเกอ”
กู้ชิงเกอที่ได้ยินชื่อของตัวเองพลันตกอยู่ในสภาวะอยู่ไม่สุขทันที
แววตาอันเฉียบคมราวกับสายฟ้ากวาดตามอง กู้ชิงเกอไม่ต้องเงยหน้าก็พอทราบว่าคือใคร เธอเม้มมุมปากเล็กน้อย เพื่อพยายามให้ตนเองอยู่ในสภาวะเปิดเผยตนเองต่ำสุด
“เรื่องแต่งงาน?” ฟู่ซือหานเลิกคิ้ว นัยน์ตาอันงดงามกวาดตามองกู้ชิงเกอ แต่งงานกับผู้หญิงเห็นแก่เงินคนนี้เหรอ?
คุณหญิงฟู่เหล่ตามองเขา และตักเค้กเข้าปาก “มันเป็นความต้องการของคุณย่าของแก”
เมื่อฟู่ซือหานได้ยิน พลันขมวดคิ้วอันงดงามทันที
“กินข้าวเสร็จแล้วพาชิงเกอไปโรงพยาบาลด้วยกันเลย พ่อแกจะรอแกอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยของย่าแก”
ฟู่ซือหานยกมือขึ้นดึงเนกไทหลากสีที่อยู่ตรงต้นคออย่างเบื่อหน่าย และแสดงท่าทางเตรียมระเบิดอารมณ์แต่จำต้องอดกลั้นเอาไว้อย่างสุดกำลัง
“คุณหนูกู้มานั่งกินข้าวเถอะ” น้าซูดึงเก้าอี้ให้กู้ชิงเกอ กู้ชิงเกอจึงต้องนั่งลง แถมนั่งฝั่งตรงข้ามฟู่ซือหาน
การเผชิญหน้ากับสายตาราวหิมะแข็งตัว ขนไรอ่อนที่อยู่ด้านหลังของกู้ชิงเกอลูกซู่ทันที
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ กู้ชิงเกอเดินทางไปโรงพยาบาลพร้อมกับฟู่ซือหาน
ขณะที่อยู่บนรถ
กู้ชิงเกอนั่งอยู่เบาะหลังอย่างอึดอัด
“เงินแค่สิบล้าน ทำให้คุณยอมขายตัวเองเลยเหรอ?” น้ำเสียงอันเย็นเฉียบดังมาจากทางซ้าย กู้ชิงเกอเอนศีรษะเล็กน้อย จึงค้นพบว่าฟู่ซือหานกำลังพูดถึงเรื่องตัวเองอยู่
กู้ชิงเกอไม่ได้ตอบคำถาม ทำไมเธอต้องขายตัวเพื่อเงินแค่สิบล้านด้วย?
ประเด็นหลักคือนี่มันเป็นปรารถนาของมารดาเธอก่อนเสียชีวิต ที่ต้องการให้เธอต้องแต่งเข้าตระกูลฟู่
มารดาเสียชีวิตไปแล้ว ต่อแต่นี้เธอไม่มีวันอกตัญญู จึงเติมเต็มปรารถนาของท่านให้สำเร็จ
“ผมจะจ่ายร้อยล้าน แล้วรีบไสหัวออกไปจากตระกูลฟู่”
จู่ๆ ฟู่ซือหานพูดน่าตกใจมาก
“อะไรนะ?” กู้ชิงเกอจ้องมองเขาอย่างประหลาดใจ นัยน์ตาสดใสเปล่งประกายไปด้วยความตกใจอย่างเต็มเปี่ยม
ร้อยล้าน
เธอไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต และคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้จะมือเติบ ถึงขั้นพูดว่าจะจ่ายเงินให้เธอหนึ่งร้อยล้าน
เมื่อเห็นลักษณะท่าทางตกตะลึงของเธอ ฟู่ซือหานจึงแขวะกลับทันที “ตกใจจนเอ๋อไปเลยเหรอ? ก็ใช่นะ ผู้หญิงหน้าเงินอย่างเธอ เมื่อได้ยินยอดเงินเยอะขนาดนี้ต้องพอใจมากแน่ใช่ปะ?”
“…” กู้ชิงเกอพูดไม่ออกสักพัก อะไรที่หมายถึงผู้หญิงหน้าเงินแบบนี้?
เธอเป็นผู้หญิงหน้าเงินตั้งแต่ตอนไหนเหรอ?
“ถ้าตกลง งั้นก็ลงไปจากรถตอนนี้เลย”
หลังจากนั้นกู้ชิงเกอก็อยู่พูดคุยกับคุณย่าฟู่สักพัก คุณย่าฟู่ถามถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมารดาของเธออีกตั้งมากมาย กู้ชิงเกอตอบทุกคำถาม
กู้ชิงเกออยู่เป็นเพื่อนคุณย่าจนถึงเวลาท่านนอนหลับ
หลังจากกลับไปแล้วจึงได้ยินข่าวว่าอีกสองวันจะต้องไปจดทะเบียนสมรส เรื่องนี้ทำให้เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ตอนแรกก็คิดว่าคำว่าหาวันดีๆ น่าจะหมายถึงหลายเดือนหรือภายในหนึ่งเดือนมั้ง ใครจะไปรู้ว่าใช้เวลาแค่สองวันเอง
แต่ฟู่ซือหานเจ้าตัวไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว ไม่เห็นหน้าเห็นตาตลอดทั้งวัน ขนาดวันที่จดทะเบียนวันนั้นก็ยังไม่เห็นตัวคนด้วยซ้ำ คุณนายฟู่ที่นั่งประจำตำแหน่งแสดงความรู้สึกเกียจคร้าน “ในเมื่อเขากลับมาไม่ทันเวลา งั้นก็ให้พนักงานจัดการทำรูปถ่ายคู่ของพวกเขาสองคน เพื่อทำเอกสารให้จบๆ ไปสักทีเถอะ”
ฟู่เจิงครุ่นคิดสักพัก “เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นความคิดที่ดี เอาแบบนี้แล้วกัน”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ทะเบียนสมรสเล่มสีแดงเข้มสองเล่มปรากฏอยู่ตรงหน้ากู้ชิงเกอ กู้ชิงเกอจ้องมองเล่มสีแดงสดสองเล่มนี้ จนเรียกสติกลับมาไม่ถูก
“ยังจะยืนบื้ออยู่ทำไม? เอานี่ไป” คุณหญิงฟู่โยนทะเบียนสมรสเข้ามาอยู่ในอ้อมอกของเธอ กู้ชิงเกอรีบรับไว้ทันที “คุณหญิงฟู่ หนู...”
“คุณนายน้อย ต้องแก้คำเรียกเป็นคุณแม่ได้แล้วค่ะ” น้าซูที่อยู่ด้านข้างพูดตักเตือนออกไปประโยค
เมื่อกู้ชิงเกอได้ยิน ใบหน้าเห่อแดง หลังจากเหล่มองความหรูหราสง่างามของคุณหญิงฟู่แวบหนึ่ง พลันเปลี่ยนเสียงคำเรียกขานด้วยเสียงกระซิบทันที “คุณแม่”
“อืม” คุณหญิงฟู่พยักหน้า แต่ไม่ค่อยสนใจเธอมากนัก พลันลุกขึ้นและพูดทันที “ให้เธอย้ายเข้าห้องซือหานคืนนี้เลย”
“ค่ะคุณหญิง”
คืนนี้กู้ชิงเกอต้องนอนพักอยู่ในห้องฟู่ซือหาน ทั้งที่เพิ่งไปนอนในห้องรับแขกได้ไม่กี่วันเอง คิดไม่ถึงว่าจะย้ายกลับมารวดเร็วขนาดนี้
ภายในห้องอันเงียบสนิท กู้ชิงเกอเปิดโคมไฟตั้งโต๊ะ เมื่อเธออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเปลี่ยนชุดนอนสีฟ้านั่งอยู่ข้างเตียง ทะเบียนสมรสสองเล่มที่อยู่ในมือ ตรงหัวเตียงยังแปะอักษรอวยพรตัวโตไว้หัวเตียง แดงแจ๋จนเตะตาอยู่บ้าง
ขนาดงานแต่งงานก็ไม่มี
แต่คืนนี้...
เป็นคืนส่งตัวเข้าหอ
แต่เจ้าตัวที่อยู่บนทะเบียนสมรสนั้น ไม่มีทีท่ากลับมาด้วยซ้ำ
ขนาดรูปคู่ที่ติดอยู่บนทะเบียนสมรส บนโลกใบนี้คงไม่มีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานคนไหนทุกข์ทรมานมากกว่าเธอแล้วมั้ง?
ไอ้คนไม่มีมารยาทคนนั้น น่าจะไม่กลับมาแล้วแหละ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กู้ชิงเกอจึงนำทะเบียนสมรสสองเล่มวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นจึงสอดตัวเข้าไปอยู่ในผ้าห่ม
กู้ชิงเกอเอนตัวนอนสักพัก ตอนที่กำลังเคลิ้มใกล้จะหลับแล้วนั้น พลันได้ยินเสียงประตูห้องมีเสียงกึกกัก ร่างกายเธอแน่นิ่ง จากนั้นหลังได้ยินเสียงประตูห้องพลางผลักประตูเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน