แม่ของฉินม่อไม่ชอบตัวเอง ดูถูกตัวเอง
กู้ชิงเกอรู้สึกได้
เธอรู้ตัวเองดี ดังนั้นเธอจึงไม่อยู่ที่นี่ต่อเพื่อทำให้คนอื่นรังเกียจอีกแม้แต่วินาทีเดียว เดิมทีเธอกับฉินม่อก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรอยู่แล้ว
แต่ก่อนจะไป กู้ชิงเกอก็พูดขอบคุณกับเขา
“ผมไปส่งคุณแล้วกัน”
พอเห็นเธอจะไปแล้ว ฉินม่อก็ตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อย ก้าวเท้าเดินตรงไปข้างหน้า
“ไม่ต้องหรอกค่ะ คนขับรถรอฉันอยู่ข้างนอก”
พูดจบ กู้ชิงเกอก็ออกไปตรงๆ
ฉินม่อยังอยากจะไล่ตามไป แต่กลับถูกแม่ของตัวเองรั้งเอาไว้“ไล่ตามไปทำไม? ลูกไม่เคยเจอเด็กผู้หญิงมาก่อนหรือไง? เล่นผู้หญิงมาไม่รู้ตั้งเท่าไรแล้ว ยังหลงรักขนาดนี้อยู่อีกเหรอ?”
“แม่”ฉินม่อขมวดคิ้ว มองเงาหลังของกู้ชิงเกอรีบร้อนกระวนกระวาย“ผมกับเธอไม่ได้เป็นอะไรกันเหมือนกับที่แม่คิดนะ เธอไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น”
“เหอะ”คุณแม่ฉินสบถอย่างเย้ยหยัน“ไม่เหมือนกันจริงๆนั่นแหละ ดูสภาพเธอยากจนคร่ำครึแบบนั้น ยังมีหน้ามาบอกว่าคนขับรถรอเธอยู่ข้างนอกอีก คนขับรถแท็กซี่มากกว่าล่ะมั้ง? หรือว่าคนขับรถมอเตอร์ไซค์? เสี่ยวม่อเอ๋ย แม่ขอเตือนลูกเอาไว้เลยนะ ลูกเล่นก็ส่วนเล่นไป แต่อย่าไปเอาผู้หญิงที่มาเกาะแกะเซ้าซี้เข้ามาในตระกูลฉินเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแม่ไม่ปล่อยลูกไปแน่”
พอได้ยินแม่ของตัวเองพูดถึงผู้หญิงที่ตัวเองชื่นชมอย่างสุดจะทนขนาดนี้ ฉินม่อก็รู้สึกอัดอั้นอยู่ภายในใจ“แม่ เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่แม่คิดจริงๆนะ”
“ไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น แล้วเป็นผู้หญิงแบบไหน?”
“ถ้าเกิดเธอเป็นผู้หญิงแบบที่แม่พูด เธอก็คงจะไม่จากไปตรงๆแบบนี้หรอก”
“เสี่ยวม่อเอ๋ย ลูกยังเด็กเกินไป มีประสบการณ์ไม่เท่าแม่ แม่อาบน้ำร้อนมาก่อน ลูกห้ามไปเกาะแกะเกี่ยวพันกับผู้หญิงแบบนี้เด็ดขาดเลยนะ เข้าใจไหม? ไม่อย่างนั้นต่อไปถ้าเธอมาพึ่งพาอาศัยตระกูลของพวกเราขึ้นมา ก็แย่แน่ๆ”
ฉินม่อนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ยังคิดที่จะพูดหักล้างให้กับกู้ชิงเกออีก แต่คุณแม่ฉินกลับขัดจังหวะความคิดของขาไปตรงๆ
“เอาล่ะ ไปที่หมอเป็นเพื่อนแม่หน่อย แม่ยังมีคำถามที่ต้องถามหมออยู่อีก”
ฉินม่อหมดหนทาง ทำได้แค่พยักหน้า“ครับ”
จากนั้นก็พยุงคุณแม่ฉินเดินลงไปชั้นล่าง พลางหันหน้าไป แต่กลับไม่เห็นเงาที่เล็กกระจิริดนั่นแล้ว
น่าจะไปแล้วสินะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านครั้งนี้ไปแล้ว ครั้งหน้าจะได้เจอกันอีกเมื่อไร
*
ณฟู่ซื่อ กรุ๊ป
ฟู่ซือหานเพิ่งจะประชุมเสร็จ ก็มีคนส่งซองจดหมายมาให้หนึ่งฉบับ
“ประธานฟู่ นี่เป็นซองจดหมายที่มีคนส่งมาให้เมื่อตะกี้นี้ บอกว่าให้พวกเรานำมาส่งให้กับท่านกับมือตัวเองครับ”
ใครจะไปรู้ว่าฟู่ซือหานไม่แม้แต่จะชายตามอง เดินอ้อมเขาตรงไปยังห้องทำงานของตัวเองตรงๆ คนคนนั้นยืนอยู่ที่เดิม ในมือยังคงถือซองจดหมายเอาไว้ ท่าทางทำอะไรไม่ถูก
สือหยวนตามอยู่ข้างหลังของฟู่ซือหานเดินออกมาจากห้องประชุม
การประชุมนี้ดำเนินมาสองชั่วโมงแล้ว
พอเห็นคนคนนั้นกำลังถือซองจดหมายไว้หนึ่งฉบับ สือหยวนก็หยุดฝีเท้าลง“ว่าไงเหรอ? ยืนทำอะไรที่นี่? ตาไม่ดีหรือไง? ประธานฟู่เพิ่งจะประชุมไปตั้งชั่วโมงสองชั่วโมง แต่นายเอาของที่มันไม่ได้สำคัญอะไรมาเนี่ยนะ?”
“ผู้ช่วยสือ นี่มันไม่ใช่ของที่ไม่สำคัญนะครับ เมื่อตะกี้มีคนมาส่งข้างล่างตึก สั่งกำชับผมว่าจะต้องส่งให้กับคุณชายฟู่โดยตรง”
“นายสมองมีปัญหาหรือไง? ทำงานอยู่ที่นี่มากี่ปีแล้ว คนที่ไม่รู้จักให้นายเอาของมาส่งนายก็ส่งงั้นเหรอ? ถ้าเกิดที่ส่งมาคือระเบิดขึ้นมา นายจะรับผิดชอบไหม?”
พูดจบ สือหยวนก็ยื่นมือทำท่าจะตบตีเขา
คนคนนั้นตกใจจนสีหน้าซีดขาว“ฮะ? ร้ายแรงขนาดนี้เลยเหรอครับ? ผมคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นพวกระเบิดอะไรแบบนี้”
“นายนี่มันโง่จริงๆ!”
สือหยวนตีเขาไปหนึ่งที คนคนนั้นกุมหัวถอยหลังไป พลางพูดขึ้นมา“ผู้ช่วยสือ คนคนนั้นบอกผมว่า นี่มันเกี่ยวข้องกับคุณนายฟู่ครับ ผมก็เลยเอาขึ้นมาส่ง ผม……ก็ยังคิดอยู่เลยว่าประธานฟู่ของพวกเราแต่งงานแล้วตั้งแต่เมื่อไร”
ถึงตอนนั้น การกระทำของสือหยวนก็หยุดลงทันที“นายว่าไงนะ? คุณนายฟู่เหรอ?”
“ใช่น่ะสิครับ ผมน่าจะถูกหลอกเข้าแล้วจริงๆ ผมจะเอาจดหมายฉบับนี้ไปทำลายเดี๋ยวนี้แหละครับ”
พูดจบ เขาก็หันตัวกำลังจะไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน