ฟู่ซือหานกวาดสายตามองไปที่รูปกองนั้น เดิมทีสือหยวนนึกว่าเขาจะโมโหเกรี้ยวกราดออกมา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าสายตาของเขายังคงเยือกเย็นอยู่
หลังจากที่กวาดมองรูปถ่ายกองนั้นแล้ว ก็หันสายตามองมาที่ตัวเขา
“นี่คือเรื่องสำคัญที่นายบอกอย่างนั้นเหรอ?”
สือหยวนรู้สึกตกใจกับความใจเย็นและนิ่งสงบของเขา พูดขึ้นอย่างตะกุกตะกัก“หรือว่า……นี่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเหรอครับ?”
ฟู่ซือหานยิ้มเย้ยหยันอย่างดูถูกดูแคลน พิงพนักพิงเก้าอี้อีกครั้ง หลับตาลงก่อนจะสบถออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม“เรื่องของผู้หญิงคนนั้น มันเกี่ยวข้องอะไรกับฉันด้วย?”
“แต่……เธอเป็นคุณนายน้อยไม่ใช่เหรอครับ?”สือหยวนรู้สึกคับข้องใจอย่างมาก ทำไมวันนี้คุณชายฟู่ถึงไม่เหมือนกับเมื่อวานเลยล่ะ?
เมื่อวานเห็นๆอยู่ว่าจูบเธออย่างบ้าอำนาจขนาดนั้น
จู่ๆวันนี้กลับ……บอกว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาซะอย่างนั้น
จิตใจของผู้ชายมันช่างยากแท้หยั่งถึงอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ!
สือหยวนคิดอย่างคับอกคับใจ
“ชิ”ฟู่ซือหานสบถออกมาอย่างเย้ยหยัน
“เอาล่ะครับ ในเมื่อคุณชายฟู่ไม่สนใจ ถ้าอย่างนั้นผมก็เก็บรูปถ่ายไปแล้วกันครับ”พูดจบ สือหยวนก็ยื่นมือออกไปคิดที่จะเก็บรูปภาพมา
“หยุด”ไม่คิดว่าฟู่ซือหานกลับลืมตาที่ดุดันขึ้นมาทันที จากนั้นก็กวาดสายตามองเขาอย่างเยือกเย็น“นายไปตรวจสอบหน่อยว่าคนที่ถ่ายรูปนี้คือใคร”
พอได้ยินแบบนั้น สือหยวนก็ถอนหายใจอยู่ภายในใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
เมื่อตะกี้ยังบอกอยู่เลยไม่ใช่หรือไงว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนเอง? แล้วทำไมตอนนี้ถึงคิดที่จะให้เขาไปตรวจสอบคนที่ถ่ายรูปพวกนี้มาคือใครแล้วล่ะ?
จุ๊ๆ คุณชายฟู่เอ๋ยคุณชายฟู่ ท่านนี่มันช่างปากแข็งจริงๆ
“นายกำลังคิดอะไรอยู่?”ฟู่ซือหานจ้องมองเขาอย่างเย็นชา“ที่ให้ไปตรวจสอบคนคนนี้ แค่อยากจะดูสักหน่อยว่าใครมันคิดที่จะแทงข้างหลังตระกูลฟู่ เข้าใจไหม?”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”สือหยวนท่าทางเข้าใจขึ้นมาได้ในทันที แต่กลับคิดในใจ
ท่านเสแสร้งมากกว่ามั้ง ผมอยู่กับท่านมาหลายปีขนาดนี้จะไม่รู้นิสัยใจคอของท่านได้ยังไง?
คุณชายฟู่เป็นห่วงตระกูลฟู่ตั้งแต่เมื่อไรกัน? เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!
นั่นก็คือ……
คนที่คุณชสายฟู่เป็นห่วงคือ……คุณนายน้อย!
เหอะๆ คิดไม่ถึงว่ากระต่ายขาวน้อยตัวนั้นจะมีวาสนาอยู่ไม่น้อย
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในอนาคตจะเติบโตพัฒนาไปยังไงบ้าง จุ๊ๆ
“พูดจบแล้วก็ไสหัวออกไปซะ”ฟู่ซือหานไล่เขาออกไปอย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียว
สือหยวนพยักหน้า“ครับ ผมจะรีบไปตรวจสอบว่าคนที่ถ่ายรูปถ่ายพวกนี้คือใครเดี่ยวนี้เลยครับ แล้ว……ทางด้านของคุณนายน้อยล่ะครับ?”
“นายชอบมายุ่งจุ้นจ้านเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”
พอเจอกับสายตาของเขา สือหยวนก็รู้สึกชาหลังหัว หุบปากลงก่อนจะเดินออกไปข้างนอกทันที
หลังจากที่เขาจากไปแล้ว ฟู่ซือหานก็หันสายตามองไปที่รูปถ่ายที่อยู่บนโต๊ะพวกนั้นอีกครั้ง เขานั่งมองรูปถ่ายพวกนั้นอย่างเงียบๆไม่ขยับเขยื้อน มองผู้หญิงใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายในรูปอยู่แบบนี้
เหอะ……
เป็นผู้หญิงใจง่ายจริงๆ
เมื่อวานเพิ่งจะได้รับคำเตือนของเขาไป วันนี้ก็ไปหยอกล้อเย้ายวนกัน สร้างความเดือดร้อนมาให้กับเขาแล้ว?
ริมฝีปากบางๆที่เย็นชาของฟู่ซือหานยกโค้งอย่างกระหายเลือด
ดูท่า ถ้าเขาไม่ลงมือทำอะไรบ้าง เธอก็จะไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังแบกรับสถานภาพอะไรอยู่
ผู้หญิงที่สวมควรตาย
*
หลังจากที่กู้ชิงเกอกลับตระกูลฟู่แล้ว ก็กลับไปทายาที่หัวเข่าในห้องของตัวเอง จากนั้นก็หากางเกงขาสั้นมาใส่ บวกกับเสื้อยืดสีขาวหนึ่งตัว ดูสบายๆ
ทายาที่หมอจ่ายให้ที่หัวเข่าแล้ว รู้สึกเย็นๆ ผ่านไปไม่นาน ก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดมันบรรเทาลงไปไม่น้อย
เธอถอนหายใจออกมาอยู่ภายในใจ ยาที่หมอให้มาดีกว่ายาที่ไปซื้อมามั่วซั่วตั้งเยอะอย่างที่คิดเอาไว้
ชั้นล่างก็ไม่มีอะไรทำ แม่ก็ออกไปสถานเสริมความงามกับเพื่อนยังไม่กลับ กู้ชิงเกอก็นอนเหม่อมองเพดานอยู่บนเตียงอยู่อย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน