ฟู่ซือหาน?
กู้ชิงเกอเรียกได้ว่ารู้สึกตกใจอย่างมาก นั่งกลับลงไปบนโซฟา จากนั้นก็มองฟู่ซือหานที่ดูทรงพลังใบหน้าเย็นชานั่งอยู่ตรงนั้น
“คุณ คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไร?”กู้ชิงเกอพูดถามขึ้นอย่างตะกุกตะกักเล็กน้อย
ฟู่ซือหานหันสายตาที่เย็นชามองไปที่เธอ เฉียบคมราวกับมีด
เธอประหม่าขนาดนี้ เป็นเพราะว่ารู้สึกผิดอย่างนั้นเหรอ?
เนื่องจากเธอออกไปมั่วสุมกับคนอื่นข้างนอก ดังนั้นพอเห็นเขาแล้วก็เลยรู้สึกกลัวสินะ?
เหอะ
เป็นผู้หญิงที่สมควรตายจริงๆ
ฟู่ซือหานยกมุมปากยิ้มเหมือนกับปีศาจกระหายเลือด“วันนี้ไปทำอะไรมา?”
พอได้ยินแบบนี้ กู้ชิงเกอก็อึ้งตะลึงไป ทำไมจู่ๆเขาถึงถามตัวเองว่าวันนี้ไปทำอะไรมา? หรือว่า เขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติอะไรแล้วอย่างนั้นเหรอ?
กู้ชิงเกอนึกถึงมือของตัวเองที่ถูกฉินม่อจูงเมื่อตอนกลางวัน ฟู่ซือหานคงจะไม่ได้รู้เรื่องแล้วใช่ไหม?
แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาจะรู้ได้ยังไงล่ะ?
เธอน่าจะคิดเยอะเกินไป กู้ชิงเกอจึงสงบจิตสงบใจลง ก่อนจะเปิดปากพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา“ฉัน……ไปโรงพยาบาลมา”
“ไปทำอะไรที่โรงพยาบาล?”ฟู่ซือหานสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก ทำให้ดูไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
กู้ชิงเกอพูดตอบกลับไปต่อ“ไปตรวจแผลที่โรงพยาบาล”
ฟู่ซือหานชำเลืองตามองหัวเข่าของเธอโดยสัญชาตญาณ
เธอรู้ว่าเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้น เผยให้เห็นถึงแผลขนาดใหญ่ แต่ที่แผลทายาแล้ว เวลาแค่วันเดียวแผลของเธอดีขึ้นมาไม่น้อยแล้ว ดูไม่ได้แดงขนาดนั้น ไม่ได้เด่นสะดุดตาขนาดนั้นแล้ว
เหอะ รู้ว่าไปโรงพยาบาลแล้ว แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ เธอจะวิ่งแจ้นไปอ่อยผู้ชายถึงโรงพยาบาลอีก
“ไปเจอใครมา?”ฟู่ซือหานพูดถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง
พอได้ยินแบบนั้น กู้ชิงเกอก็มองฟู่ซือหานด้วยความตกใจเล็กน้อย ทำไมเขาถึงถามคำถามแบบนี้? คำถามสองคำถามก่อนหน้านี้ก็แปลกประหลาดมากอยู่แล้ว
ตอนนี้ก็มาอีกหนึ่งคำถาม จู่ๆกู้ชิงเกอก็กำลังคิดว่า เขารู้ว่าเธอไปเจอกับฉินม่อมาจริงๆแล้วใช่ไหม?
ถ้าอย่างนั้น……เธอจะพูดความจริงดีไหม?
ในขณะที่ภายในใจของกู้ชิงเกอกำลังลังเลอยู่นั้น จู่ๆฟู่ซือหานกลับโยนซองจดหมายซองหนึ่งมาตรงเท้าของเธอ
จากนั้นภาพข้างในก็กระจัดกระจายออกมาจนหมด
กู้ชิงเกอมองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก็เห็นตัวเองกับฉินม่อที่อยู่ในรูปถ่าย
จากนั้น สีหน้าของเธอก็ตกใจขึ้นมา นั่งยองลงเก็บพวกรูปถ่ายเหล่านั้นขึ้นมา จ้องมองดูอย่างละเอียด
เกิดอะไรขึ้น?
เธอมองรูปถ่ายพวกนั้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เห็นๆอยู่ว่าเธอไม่ได้มีการกระทำที่ใกล้ชิดสนิทสนมอะไรกับฉินม่อเลย แต่ทั้งสองคนในรูปถ่ายพวกนี้กลับดูเหมือนสนิทสนมกันอย่างถึงที่สุด
“ดูจนเอ๋อไปเลยเหรอ?”ฟู่ซือหานพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ย
พอได้ยินแบบนั้น กู้ชิงเกอก็เงยหน้าขึ้นมา“เอารูปพวกนี้มาจากไหน?”
ฟู่ซือหานกวาดสายตามองเธออย่างเยาะเย้ย นิ่งเงียบไม่พูดตอบอะไร
กู้ชิงเกอกลับลุกขึ้นยืนทันที ก้าวเดินตรงไปข้างหน้าสองสามก้าว“คุณส่งคนมาสะกดรอยตามฉันเหรอ?”
“สะกดรอยตามเธอ?”ฟู่ซือหานลุกขึ้นบีบกรามของเธอทันที ฝ่ามือที่กว้างใหญ่บีบจนหน้าของเธอบิดเบี้ยว เสียงเยือกเย็นเหมือนกับผู้คุมวิญญาณที่มาจากนรก
“ทำหน้าที่ภรรยาหุ่นเชิดของเธอให้ดีๆ ดูแลหัวใจของเธอซะ ก่อนที่อาการของย่าฉันจะหายดี เธอห้ามไปมาหาสู่กับผู้ชายหน้าไหนก็ตาม”
นี่เขาหมายความว่าอะไร? กำลังจำกัดชีวิตและการคบค้าสมาคมของเธอเหรอ?
แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นอะไรกับฉินม่อ แต่ถ้าเกิดวันเวลาต่อจากนี้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของเขาแบบนี้ ชีวิตของเธอจะมีความหมายอะไร?
พอคิดถึงตรงนี้ กู้ชิงเกอก็กัดริมฝีปากตัวเอง สบตากับเขาอย่างดื้อดึง
“ฉันไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับฉินม่อขนาดนี้ รูปถ่ายมันไม่ใช่แบบนี้”
“เธอนี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆนะ ตอนนี้ยังคิดจะปฏิเสธอยู่อีกเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน