“คุณคิดว่าทุกคนต่างก็อยากได้ทรัพย์สินของตระกูลฟู่ของพวกคุณเหรอ?”
พอฟู่ซือหานได้ฟังแบบนั้น ฝีเท้าก็หยุดชะงักลง หันหน้ากลับไปเห็นเธอกำลังจ้องมองตนเองด้วยสองตาที่สวยดูดี ริมฝีปากสีแดงพูดออกมาแล้วชวนให้รู้สึกตกใจ
“ฉันไม่อยากได้ของของตระกูลฟู่ของพวกคุณหรอกนะ ฉันขอบอกคุณเอาไว้ หลังจากที่หย่ากับคุณแล้ว ฉันจะไม่เอาของอะไรจากตระกูลฟู่ของพวกคุณทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือว่าทรัพย์สินเงินทอง ฉันไม่เอาอะไรทั้งนั้น ต่อให้คุณให้ ฉันก็ไม่เอา”
เธอพูดเสียงดังมาก
ฟู่ซือหานทำให้เธอโกรธแล้ว
เอารูปถ่ายมาถามเธอ ถึงขนาดที่ตัดสินความผิดแล้วว่าเธอไปอ่อยผู้ชายแบบนี้ ต่อให้ตอนที่เธอแต่งงานกับเขาเธอจะไม่ใช่สาวพรหมจารี
แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ใจง่ายอะไรเลย!
พอคิดถึงตรงนี้ กู้ชิงเกอก็พูดเสริมขึ้นมาอีกประโยค“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับฉินม่อ”
ฟู่ซือหานเหมือนกับถูกกระตุ้นด้วยคำพูดของเธอ เดิมทีแค่ยืนจ้องมองเธออย่างเย็นชาอยู่ที่เดิม หลังจากที่ได้ฟังเธอพูดจบแล้ว จู่ๆก็หันตัวมา ก้าวเท้าเดินตรงมาหาเธอ
ตอนที่กู้ชิงเกอเห็นเขาเดินตรงเข้ามาหาตนเองด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด ก็ตกใจยกใหญ่ เท้าก้าวถอยไปข้างหลังโดยสัญชาตญาณ เธอก็ทำขนาดนี้แล้วจริงๆ
แต่การกระทำของฟู่ซือหานเร็วกว่าเธอ จับไหล่ของเธอเอาไว้ กู้ชิงเกอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ กำลังคิดที่จะยื่นมือออกไปผลักเขาออก แต่กลับถูกเขาบีบกรามเอาไว้
“ดูท่าเธอจะมีความเย่อหยิ่งทะนงตัวอยู่ไม่น้อยเลยนะ”ฟู่ซือหานสบถอย่างเย้ยหยัน สายตาเยือกเย็นราวกับหิมะในเดือนธันวาคม เย็นเข้าไปในกระดูก ริมฝีปากบางๆของเขายิ้มอย่างเย็นชาถึงขีดสุด
กู้ชิงเกอกัดริมฝีปากของตัวเองสบตากับเขาไปตรงๆ สายตาดื้อรั้นอย่างมาก
“ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมาใส่ร้ายฉันเท่านั้น!”
“ใส่ร้ายเธอ? เหอะ ผู้หญิงที่ใจง่ายก็มีสิทธิ์พูดประโยคนี้เหมือนกันเหรอ?”มือที่บีบกรามของเธอเอาไว้อยู่ของฟู่ซือหานก็ออกแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
กู้ชิงเกอรู้สึกเจ็บปวดกรามของตัวเองอย่างมาก เหมือนกับกระดูกจะถูกเขาบีบจนหักอย่างไรอย่างนั้น
“คุณปล่อยฉันนะ!ปล่อยฉัน……”กู้ชิงเกอรู้สึกถึงความเจ็บปวด คิดที่จะผลักเขาออกไป แต่ความต่างของพละกำลังชายหญิงมันมากเกินไป เธอดิ้นรนอยู่นานสองนานก็ไม่หลุดสักที
กู้ชิงเกอโมโหจนแทบไม่ไหว กัดไปที่มือข้างหนึ่งของเขาทันที
“อื้อ”ฟู่ซือหานเจ็บจนร้องครางออกมาทันที แต่มือที่บีบตรงกรามของเธอกลับยังไม่ได้ผ่อนแรงลงเลยแม้แต่นิดเดียว กลับออกแรงมากขึ้นผลักเธอไปยังกำแพงที่เย็นยะเยือก น้ำเสียงเยือกเย็น“กล้ากัดฉันงั้นเหรอ? เธออยากตายหรือไง!”
กู้ชิงเกอยังคงกัดมือของเขาไม่ปล่อย เดิมทีนึกว่าเขาจะยอมผ่อนแรงลง จากนั้นตัวเองก็จะได้ผลักเขาออกไป เธอรู้สึกเจ็บกรามมากจริงๆ
“ยังไม่รีบปล่อยอีก”ฟู่ซือหานพูดตำหนิออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จริงๆแล้วเขาสามารถสลัดเธอออกไปได้เลยตรงๆ แต่พอเห็นเธอเล็กกระจิริดขนาดนี้ ถ้าเกิดสลัดออกไปจริงๆ ถึงตอนนั้นเธอจะต้องหกล้มบาดเจ็บแน่ๆ……
ให้ตายสิ!
“ฉันไม่……อู้ๆ!”กู้ชิงเกอกัดมือของเขาต่อ ถลึงตาที่สวยดูดีต่อต้านเขา“เนาะจะว่าคุจะเปาะฉะเกาะ!”
เนื่องจากว่ากัดเขาเอาไว้อยู่ เธอก็เลยพูดไม่ค่อยชัดเท่าไร
ฟู่ซือหานครุ่นคิดอยู่นานสองนานกว่าจะฟังออกว่าคำพูดนี้คืออะไร นอกจากว่าคุณจะปล่อยฉันก่อน
ให้ตายสิ!
ผู้หญิงคนนี้ช่าง……มีศักยภาพในการทำให้คนอื่นโมโหจริงๆ
เขาปล่อยนิ้วออก พอกู้ชิงเกอรู้สึกว่ากรามไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแล้ว ถึงได้ปล่อยฟันของตัวเองออกมาอย่างช้าๆ
แต่ว่าเธอประเมินฟู่ซือหานต่ำเกินไป เขาไม่ใช่คนประเภทที่ไปเจรจาต่อรองกับคนอื่นแล้วจะยอมให้อีกฝั่งเป็นฝ่ายชนะหรอกนะ
แค่อาจจะยอมถอยให้อีกฝ่ายตายใจแล้วค่อยจัดการเท่านั้น
ดังนั้นตอนที่กู้ชิงเกอปล่อยฟันออก นึกว่าตนเองรอดพ้นแล้วนั้น กรามกลับถูกฟู่ซือหานบีบไว้แน่นอีกครั้ง ครั้งนี้นิ้วมือของเขาบีบตรงสองแก้มของเธอ
กู้ชิงเกอถูกเขาบังคับให้เงยหน้าขึ้นมา
“โอ๊ย……”เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด“คุณทำอะไร? ปล่อยฉันนะปล่อยฉันไป!”
ในขณะเดียวกันก็ยื่นสองมือออกมา ทุบตีฟู่ซือหานที่เข้ามาใกล้มากๆอย่างไม่หยุดไม่หย่อน
ทุบตีไปพลางพูดด่าไปพลาง“ปล่อยฉันนะไอ้คนเลว คุณมันเชื่อถือไม่ได้ คุณมันไม่ใช่ผู้ชาย!”
จริงๆแล้วเธอไม่ได้มีเรี่ยวแรงอะไรมากมาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน