กู้ชิงเกอกำลังใช้สมองครุ่นคิด สือจินพ่อหนุ่มคนนั้นก็ไม่รู้เป็นอะไร จู่ๆก็เอนตัวมาข้างหน้า ชนเข้ากับหลังของเธอ
ดังนั้นกู้ชิงเกอจึงสูญเสียการควบคุมอยู่ชั่วขณะ ชนเข้ากับประตูของห้องประชุมไปตรงๆ
ปึง!
ประตูของห้องประชุมถูกชนจนเปิดออก ร่างกายที่เล็กกระจิริดของกู้ชิงเกอก็ล้มตามเข้าไป
เจ็บจัง……
หลังจากที่กู้ชิงเกอล้มลงไปบนพื้นแล้ว ก็เจ็บปวดจนขมวดคิ้ว หัวเข่าที่เดิมทีดีขึ้นมาบ้างแล้วก็ถูกกระแทกอีกครั้ง เจ็บจนเธอลุกไม่ไหว
สือจินคนนี้เป็นอะไร?
อยู่ดีๆทำไมจู่ๆก็ชนเข้ามา
ทำเอาเธอล้มเข้ามาข้างใน
แม้ว่าจะล้มจนเจ็บ แต่กู้ชิงเกอเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า มีเรื่องที่สำคัญมากกว่าเรื่องที่เธอล้มจนเจ็บอีกหลายเท่า
นั่นก็คือ……
ที่นี่คือห้องประชุม
ฟู่ซือหานก็อยู่ข้างในนี้ด้วย ขณะที่พวกเขากำลังเจรจาพูดคุยกันจนบรรยากาศตึงเครียด เธอก็ดันล้มเข้ามาในเวลาแบบนี้……
แย่แล้ว
กู้ชิงเกอรู้สึกเหมือนกับกระโดดเข้าไปในหลุมไฟ
ในห้องประชุมเงียบสงัด
ตอนที่สือหยวนได้ยินเสียงประตูห้องประชุมถูกเปิดออก คิดในใจว่าใครกันที่มันรนหาที่ตาย แต่ปรากฏว่าพอมองแล้วกลับเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
พอมองดูดีๆอีกครั้ง แม่เจ้า นี่มันคนคนนั้นไม่ใช่เหรอ?
คุณ……นายน้อย……
เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
สือหยวนรู้สึกว่าสีหน้าของตัวเองเปลี่ยนไปทันที จากนั้นสายตาก็ชำเลืองมองไปหาฟู่ซือหานที่อยู่ข้างหน้าโดยอัตโนมัติ รู้สึกว่าความหนาวเย็นที่ตัวของเขามันแรงกล้ามากขึ้นไม่น้อย
จบแล้ว……
เหล่าผู้คนก็มองเด็กสาวที่จู่ๆก็ล้มเข้ามาคนนี้เช่นเดียวกัน อึ้งตะลึงอยู่กับที่อย่างทำอะไรไม่ถูก
นี่คือใครกัน? ทำไมจู่ๆถึงโผล่เข้ามาในนี้?
ที่สำคัญคือ ที่นี่ยังเป็นห้องประชุมด้วยนะ
ทันใดนั้น ก็มีคนที่ค่อนข้างอายุน้อยคนหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา เดินไปอยู่ตรงหน้าของเธอ ก่อนจะชี้หน้าตะโกนออกมาเสียงดัง
“เธอคือใคร? วิ่งแจ้นเข้ามาทำอะไรที่ห้องประชุม? เธอคิดจะมาขโมยความลับใช่ไหม?”
คำตำหนินี้ทำให้เหล่าผู้คนต่างพยักหน้าอย่างคล้อยตาม
“ใช่ๆ ดูแปลกตามาก ไม่ใช่พนักงานของฟู่ซื่อ กรุ๊ปสินะ? ทำไมถึงวิ่งแจ้นมาที่นี่ได้ล่ะ?”
“หรือว่าคิดจะมาขโมยความลับจริงๆ? ถ้าอย่างนั้นเมื่อตะกี้นี้เธอได้ยินไปมากเท่าไรแล้ว?”
พอได้ยินเสียงซุบซิบพูดคุยของคนพวกนี้ กู้ชิงเกอก็อดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ลุกขึ้นมาจากพื้น หลังจากที่ยืนขึ้นมาแล้ว ก็รู้สึกว่านิ้วของคนคนนั้นจิ้มมาที่หน้าผากของเธอเรียบร้อยแล้ว
เธอไม่ได้มาด้วยตัวเอง สือจินเป็นคนพาเธอมา
พวกเขาไม่รู้จักเธอ แต่น่าจะรู้จักสือจินสินะ?
พอคิดถึงตรงนี้ กู้ชิงเกอก็เปิดปากพูดอธิบายขึ้น“ฉันเปล่านะคะ ฉันไม่ได้มาขโมยความลับ เพื่อนของฉันเป็นคนพาฉันมาค่ะ”
“เพื่อน? เพื่อนของเธอคือใครกัน? อยู่ไหน?”
คนที่ตำหนิเธอคนนั้นพูดถามขึ้นมาเสียงดัง
กู้ชิงเกอชี้นิ้วที่ขาวผ่องไปหลังประตู ตอนที่กำลังคิดจะบอกว่าสือจินเป็นคนพาเธอมานั้น กลับพบว่าตรงประตูนั้นไม่มีใครอยู่แล้ว
เกิดอะไรขึ้น? สือจินล่ะ?
“ใคร? ทำไมถึงไม่เห็นใครเลย?”คนคนนั้นพูดตะคอกใส่เธอเสียงดัง
กู้ชิงเกอถูกเขาตะคอกใส่จนหดตัวอย่างช่วยไม่ได้ คิดในใจว่าเสียงในลำคอของคนคนนี้ดังมากจริงๆ ถ้าเกิดให้เขาพูดใส่โทรโข่ง เสียงมันจะดังไปไกลขนาดไหนกันนะ?
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อตะกี้ฉันยังเห็นคนคนนั้นอยู่ตรงนี้อยู่เลย เขาน่าจะวิ่งไปตรงนั้นแล้ว เดี๋ยวฉันจะไปหาตัวเขามาก่อน”กู้ชิงเกอพูดจบก็หันตัวจะเดินออกจากประตู
ไอ้คนเลวนี่
จะต้องก่อเรื่องเอาไว้แน่ๆ ไม่กล้าเจอหน้าใคร ตัวเองก็เลยหลบหนีไป
พอคิดถึงตรงนี้ กู้ชิงเกอก็เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น อยากที่จะรีบไปหาตัวเขาออกมาให้โดยเร็ว
แต่ในสายตาของคนอื่น การกระทำแบบนี้มันกลายเป็นว่าเธอคิดที่จะหนีหัวซุกหัวซุน ดังนั้นผู้ชายที่ตะคอกใส่เธอคนนั้น ก็ตรงเข้าไปคว้าแขนที่เล็กบางของเธอเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน